เว้นวรรค ... ทางความคิด
[ ผมเริ่มเข้าใจความรู้สึกของม้าน้ำ .. ]
เป็นที่ถกเถียงกันเป็นเวลายาวนาน ถึงคำพังเพยจากอดีตที่เปรียบเปรย สภาวะทางสังคมของผู้ชาย กับผู้หญิง โดยการเอ่ยอ้างถึงขาหน้า ขาหลัง ของสัตว์คู่บ้านคู่เมือง ทั้งที่ในความเป็นจริง ช้างมันก็มีสี่ขาของมัน เป็นเรื่องธรรมชาติ
.. มันเองก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับขาหน้า หรือขาหลังมากกว่ากันหรอก ไม่เชื่อ ลองไปถามช้างดูสิ
แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังมองดูว่าการเปรียบเปรยผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิง เป็นช้างเท้าหลัง ดูจะเป็นการเหมาะสมกับสังคมในยุคหนึ่ง สมัยหนึ่ง การแบ่ง ลำดับขั้นของการมาก่อน มาทีหลังของอวัยวะที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของช้าง กลายมาเป็นค่านิยมของศักดิ์ทางสังคมของมนุษย์ตัวเล็ก ๆ ที่ดันไปให้ความ สำคัญกับเพศชายให้มาก่อนเพศหญิง ด้วยการอ้างอิงถึงการยกเท้าไหนออกเดิน ก่อนของช้าง ...
คิดไปได้ ...
มันหมายรวมถึงการทำหน้าที่ในครอบครัวด้วยนะ ผู้ชายหาเงินเข้าบ้านมากกว่า ผู้หญิงควรดูแลความเรียบร้อยของบ้าน เลี้ยงดูลูกเล็ก ๆ .. งัดนมให้ลูกดูด อาบน้ำให้ลูก ผัดผักให้สามี เอาเสื้อผ้าไปซัก เอาถังขยะไปเท
แรงกดดันที่สั่งสมมานานข้ามชั่วอายุคน เริ่มเกิดผลเมื่อผู้หญิงคนหนึ่งเกิดรู้สึก ถึงความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม และอยากเปลี่ยนค่านิยมให้ยกระดับความ เป็นคนของพวกเธอให้สูงขึ้น โดยการพยายามเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมกัน ระหว่างเพศ นำเสนอศักยภาพอันสูงปรี๊ดของเหล่าหญิงสาวนิวเอจว่าไม่ได้น้อย หน้ากว่าฝ่ายชาย แล้วไฉนความหมายของพวกชั้นถึงได้เป็นแค่ช้างเท้าหลัง
... รู้สึกว่ามีคนบางกลุ่มพยายามจะไปเปลี่ยนสุภาษิตโบราณ จากขาช้าง ไปเป็นควาญช้างซะด้วยซ้ำ
ผมนั่งขบคิดกระบวนการลำดับขั้นของสังคมนี้ ตอนที่ไอ้ลูกชายคนเล็กวัย 1 เดือน กับ 20 วันเพิ่งนอนหลับอุตุไปหล้งจากจ๊วบนมไป 3 ออนซ์และฟังพ่อมันร้องเพลง น้ำตาแสงใต้ขับกล่อมไป 5 รอบ
บ่ายสองโมงนี้ ลูกชายคนโตจะกลับมาจากโรงเรียนอนุบาล ผมต้องดูแลให้เขา ทำการบ้าน หาของว่างยามบ่าย สลับกับการเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกชายคนเล็กยาม ที่เขาฉี่ ชงนมให้กินทุก 2 ชั่วโมง บ่ายสี่โมงพาไปอาบน้ำ แล้วเตรียมต้มมะระกับ กระดูกหมู และผัดเห็ดเข็มทองรับการกลับมาของภรรยา
ให้ตายเหอะ .. ผมรู้สึกตัวเองเหมือนขาหลังช้างเข้าไปทุกที ทุกทีแล้ว
ผมเดินไปเก็บผ้าอ้อมที่ตากอยู่ที่หลังบ้านเข้ามาพับ แบบอาคาร 7 ชั้น ยังไม่เสร็จ
ผมคงต้องให้เวลาช่วงกลางคืนทำงานนี้ต่อ เพราะเงินที่ได้จะกลายเป็นค่าผ่อนบ้าน
ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าอะไรต่อมิอะไรจุกจิก เห็นเพื่อนผมบอกว่า กำลังจะมีแบบอาคาร
เข้ามาให้เขียนอีก 2 ตัว รีบ ๆ ทำเข้านะมึง จะได้มีตังค์ไปซื้อนมให้ลูก ...
นอนตี 2 ตี 3 ติด ๆ กันมาหลายคืน จนจะพับคาหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วนะโว๊ย
ความรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นแรงขับเคลื่อนของครอบครัว สร้างความรู้สึกให้ผมเหมือน ขาหน้าของช้างขึ้นมาบ้าง เอ๊ะ .. หรือนี่เรากำลังควบ 2 ตำแหน่งเหมือนท่านรัฐมนตรี บางคนหรือเปล่าหว่า แล้วอันไหนมันเป็นกระทรวงหลัก อันไหนมันเป็นรักษาการณ์
คนเรา ไม่เหมือนกันหรอก ศักดิ์ของความเป็นคนมันไม่ได้หมายความว่าใครอยู่ตรงไหน หรือหน้าที่ใดสำคัญกว่ากัน ผมว่ามันอยู่ที่การทำหน้าที่นั้น ๆ ให้สมบูรณ์ที่สุดมากกว่า
การต้องทำงานแบบ ทาก์ชสวิชท์ชิ่ง ของผมดันไปคล้ายคลึงกับรูปแบบระบบปฏิบัติการ Windows โดยไม่ได้ตั้งใจ ถึงแม้ผมจะไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทำงานแบบนี้ แต่ความจำเป็น มันก็ยังดันให้ผมโพรเสทงานรูทีนแบบนี้ไปได้เรื่อย ๆ .. แต่ว่าสมองผมมันดันเพิ่มแรมไม่ได้ เหมือน CPU อ่ะดิ งานรวมเรื่องสั้นที่อุตส่าห์ตั้งใจจะทำให้เสร็จทันวางขายในงานสัปดาห์ หนังสือแห่งชาติ ช่วงเดือนตุลาคมปีนี้ ... คงไม่ทันแล้ว
เกรงใจพี่หมี่เป็ดจริง ๆ ค่าที่ขอให้พี่ช่วยเขียนคำนิยมให้ผม แต่ผมจะบอกว่า มันเป็นแค่การ ชะลอโครงการไว้ก่อนเท่านั้นนะครับ ไม่ได้ยกเลิกโครงการแต่อย่างใด และเมื่อใดที่ผมพร้อม ผมก็สามารถกลับมาดำเนินโครงการต่อได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ ... !
เรื่องอื่นรอได้ครับ ... แต่เรื่องลูกหิวนมนี่ รอไม่ได้ ไม่ได้สักนาทีเดียว ... เพราะเขาจะแหกปาก
ใครจะว่า ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง หรือผู้หญิงเป็นควาญช้าง ผู้ชายเป็น หางช้างอะไรก็ตามแต่
...
ตอนนี้ ผมรู้สึกเหมือนกำลังแบกช้างอยู่ทั้งตัวเลยครับ
[ ม้าน้ำ .. นี่ ตัวผู้มันเลี้ยงลูกใช่มั้ยครับ ]