Blog 23 ต.ค 48 จิ้งหรีดร้องระงมในกอหญ้า
อาทิตย์นี้กลับมาบ้านยายที่ต่างจังหวัด ฟังข่าวจากโทรทัศน์ว่าปลายฝนต้นหนาวอีกครา หลายคนขึ้นเหนือ เชียงราย - เชียงใหม่ เพื่อรับลมหนาวแรกของปี แต่ จ.ประจวบกลับเจอพายุอย่างหนัก ฝนกระหน่ำจนน้ำท่วม
วิทยุหลังเก่าฝุ่นละอองจับเต็มวางแอบไว้ที่มุมหนึ่งของบ้านไม้ยกพื้น แต่ละวัน ดูเหมือนแต่ละครอบครัวจะหมดเวลาไปกับภาพในจอโทรทัศน์มากกว่าสิ่งบันเทิงอื่น ละคร เกมโชว์ หนังแผ่น กระทั่ง ดารามาร้องเพลง จึงไม่แปลกที่วิทยุหลายหลังถูกทิ้งอย่างไม่ใยดี
ผมหยิบวิทยุมาลองจูนหาคลื่น อย่างน้อยเอฟเอ็ม 6 คลื่นรับเสียงได้ชัดเจน เพลงลูกทุ่งและเพลงเพื่อชีวิตยังเป็นกระแสหลักของคลื่นต่างจังหวัด นักร้องในยุคหลายคน และเพลงฮิตติดอันดับที่ถูกขอครั้งแล้วครั้งเล่า จากความไพเราะในครั้งแรก และรู้สึกดีเมื่อได้ฟังในครั้งต่อๆไป แต่พอหลายๆครั้งเข้าก็กลายเป็นความรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา หลายสถานีเปิดรับสายหน้าไมค์ แต่บางทีฟังไปก็รู้สึกว่าอารมณ์ไม่สอดคล้องกับเนื้อหา .. บางเวลาผมก็เลือกที่จะฟังเพลงอย่างเดียว
ยายนั่งเหลาง่ามหนังสะติ๊กอยู่ที่นอกชานบ้าน จะว่าไปแล้ว แกเป็นต้นฉบับชีวิตกลางแจ้งสำหรับผมเลยทีเดียว สอนผมดักลอบ , ธงเบ็ด ,ดักแร้ว เว้นแต่ไม่เคยสอนผมทำกับข้าว แกบอกนั่นมันงานผู้หญิง แกนั่งใช้เศษกระเบื้องเกลาด้ามไม้ให้กลมเกลี้ยง ผมจูนคลื่นหาฟังเพลงไปเรื่อยๆ
รื้อขลุกขลักในรังไม้เก่าๆ ตลัปเทป ชนบทบรรเลง ของ นพ โสถิตพันธ์ เปื้อนฝุ่นอยู่ในนั้น ผมเอามาปัดฝุ่น และเปิดฟัง ... บางเพลงเศร้าจนน้ำตาไหล บรรเลงโดยไวโอลินที่ทั้งเศร้า ทั้งอาดูร ทั้งชุดจะเรียงร้อยเพลงออกมาได้ตรงตามลำดับของ ชนบท ..แล้ง .. ฝน .. หนาว .. และ ลาโรง
ครั้นพอตกกลางคืน จิ้งหรีดหลายตัวก็พากันออกมากรีดร้องระงมในกอหญ้า.. บอกว่าหน้าฝนกำลังจะจากลา หนาวจะมาเยือน จิ้งหรีดมารอกินน้ำค้างกันอยู่นั่นแล้ว.