Blog 25 ต.ค 48 น้ำไหลไปมักไม่ไหลคืน
เมื่อปีที่ผ่านมานี่เอง
บนยอดอาคารสูง 30 ชั้นริมแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากเสร็จงานเรียบร้อย ผมออกไปที่ห้องโถงกระจกที่จัดไว้เป็นห้องรับแขก แม้ว่าเจ้าของห้อง (ผู้มีอภิสิทธิ์บนชั้น 30 คอนโดหรูริมฝั่งเจ้าพระยา) จะเป็นชาวต่างชาติ แต่เขาสะสมพระพุทธรูป ตั่งไม้ เก้าอี้ไม้สัก และจัดห้องด้วยสไตล์ไทยๆ ... ห้องกระจกนั้นกั้นผมไว้จากเสียง , ความอึกทึกวุ่นวาย เครื่องปรับอากาศในห้องกระจกก็ให้รู้สึกเย็นสบายยิ่งนัก ภาพของโค้งคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่อ้อมท่าเตียน วังหลัง ผ่านท่าราชฯ ทรงวาด ตัดลงมาสาธร เรือลำใหญ่น้อยลอยตามแม่น้ำ ผมจินตนาการถึงแม่น้ำที่ไหลเอื่อย เหมือนลีลาของชีวิตที่ไม่ต้องรีบเร่ง อย่างไรก็ถึงจุดหมาย-ปลายน้ำ นั้นทำให้ภาพของขบวนรถที่วิ่งตามกันอย่างหนาแน่นบนสะพานพุทธจึงไม่มีความหมายในเชิงเร่งรีบแต่อย่างใด
น้ำไหลไปมักไม่ไหลทวน
ชีวิตเราไม่มีหวน ไม่กลับทวนเหมือนกัน
หูผมแว่วเพลงนี้... แว่วท่อนนี้ของเสียงเพลง ... น้ำไหลไปมักไม่ไหลทวน ชีวิตเราไม่มีหวน ไม่กลับทวนเหมือนกัน .. ประหนึ่งว่าปลงตกตามกฎไตรลักษณ์ อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเศร้า... โอ ลุ่มเจ้าพระยาเห็นสายธาราไหลล่อง เพียงแต่มองหัวใจให้ป่วน
ถัดลงไปจากระดับชั้น 30 เจ้าของห้องยังทำสวนไม้ประดับไว้พอให้เป็นเพื่อนสายตา และรู้สึกมีชีวิตชีวา ผมเคยแอบออกไปข้างนอก ลงไปในสวนลอยฟ้าแห่งนั้น ลมพัดแรง พัดเอากลิ่นไม่พึงประสงค์มา อีกทั้งเสียงรถราที่วิ่งกันก็ขึ้นมาถึงชั้น 30 สุดท้ายผมจึงคิดว่าจะได้บรรยากาศที่สุด ถ้าผมมองทั้งสวนแห่งนั้น และแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลเอื่อยจากชั้น 30
...............
ค่ำนี้ผมมาดูคอนเสิร์ตอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 3 ในรอบเดือนนี้ ดูจะเป็นการฟุ้งเฟ้อยิ่งนัก แต่กระนั้นก็ตาม โดยเหตุผล ผมรอคอยดู ดนู ฮันตระกูล มานาน และยังไม่มีโอกาส จึงได้แต่ฟังจากแผ่นซีดี ผมเคยบอกกับเพื่อนด้วยความคะนองปาก มิพักจะกล่าวถึงว่า แท้จริงแล้วมิควรพูด เพราะรสนิยมในการฟังเพลงของเราต่างกัน การแปลความหมายของศิลปะยิ่งต่างกัน คะนองปากครานั้น ผมว่า ผมรู้สึกเห็นภาพแม่น้ำเจ้าพระยาไหลล่อง นึกถึงความไม่จีรังของชีวิตทุกครั้งที่ผมฟังเพลง ลุ่มเจ้าพระยา ที่บรรเลงโดย ไหมไทย ขณะที่ผมฟัง Blue Danube งานของ โยฮัน สเตราท์ (Johann Strauss) อย่างไรก็ไม่เห็นภาพ ไม่เห็นสัจจะแห่งชีวิตที่สายน้ำเป็นผู้สอนได้
ค่ำนี้ เป็นการนำเพลงใหม่ทั้งหมด ในชุด เสียงใบไผ่ มาแสดง หลังจากบันทึกเสียงเสร็จ เป็นอัลบั้มที่ประกอบด้วยเพลงเก่าและเพลงใหม่ ที่นำมาเรียบเรียงออร์เคสตร้าใหม่ เล่นด้วยวงแชมเบอร์ขนาดเล็ก แม้มิได้เล่นเพลง ลุ่มเจ้าพระยา แต่งานนี้ผมก็ได้ฟังเพลง เจ้าพระยา ที่เพื่อนคนหนึ่งแนะนำว่า ลองหาโอกาสฟัง เพราะให้ลีลาการไหลเอื่อย และลีลาของดนตรีไทยเช่นกัน
ผมคิดว่า ดนตรีของ ดนู ฮันตระกูล เป็นดนตรีออร์เคสตร้า ที่ให้ความรู้สึกเป็นไทย เหมือนความเย็นของสายน้ำ เหมือนความหอมของดอกมะลิ แม้ว่าจะใช้เครื่องสาย เครื่องลมของตะวันก็ตาม และครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่รู้สึกอิ่มเอิบกับคอนเสิร์ต
ลุ่มเจ้าพระยาเห็นสายธาราไหลล่อง
เพียงแต่มองหัวใจให้ป่วน
น้ำไหลไปมักไม่ไหลทวน
ชีวิตเราไม่มีหวนไม่กลับทวนเหมือนกัน
เราเกิดมาผูกใจรักกันดีกว่าเพราะว่าชีวาแสนสั้น
เราอย่าได้กระเทือนหัวใจต่อกันทิ้งชีวิตอันสุขใจ
อย่าแตกกันเลยรักไว้ชมเชยชิดมั่นจงผูกพันรักกันด้วยใจ
ขอจงเป็นเหมือนเช่นนกไพรที่เหิรบินคู่กันไปหัวใจคู่กัน
เพลงนี้ ถ้าเอามาเล่นแทนเพลง รักกันไว้เถิด ผมว่า จะเข้ากับความเป็นไทย เข้ากับปรัชญาพุทธได้ดีทีเดียว..