เกือบได้ฟังเพลงชาติไทย ที่สนามเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ สุพรรณบุรี
แต่ภาพที่ธงชาติไทย ถูกเชิญขึ้นสู่ยอดเสาในอันดับที่ 2 ช่างติดตรึงใจดีแท้ 1 เหรียญเงิน จากนักกีฬาปีนหน้าผาหญิง ประเภทความเร็ว คือ แคทลียา อุปคำ ก็ทำความชื่นใจให้ทีมสต๊าฟโค๊ชทุกคนรวมทั้งผมด้วย
7 เดือนกับการเตรียมงาน กับสารพัดอุปสรรค ทั้งในส่วนของการฝึกซ้อม นักกีฬา ทั้งส่วนของการเตรียมการจัดการแข่งขัน
... กรรมการบริหารสมาคมต่างหน้าแดง หน้าดำไปตาม ๆ กัน
ผอ.มงคล ใจดี ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา
อดีตนายกสมาคมกีฬาปีนหน้าผาแห่งประเทศไทยคนแรก ได้กล่าวไว้ใน
การประชุมปิดงานของทีมอำนวยการจัดการแข่งขันว่า
... เราเริ่มจากศูนย์ แล้วโดดไป 10 เลย
เราเริ่มจากไม่มีอะไร ไม่มีใครรู้จัก แต่ตอนนี้สมาคมกีฬาปีนหน้าผาแห่งประเทศไทย สามารถจัดการแข่งขันได้ในระดับที่เทียบเท่ากับเอเชี่ยนเกมส์
เราได้มา 1 เหรียญเงิน ... นั่นคือผลการแข่งขัน
แต่มันเป็นการประกาศถึงศักยภาพของทีมงานอำนวยการจัดการแข่งขันคนไทยว่า เราเป็นที่ 1 ในเอเชี่ยน เราเป็นผู้ดำเนินการจัดการแข่งขันปีนหน้าผาชุดแรก ที่ทำได้ถึงขนาดนี้ และจากนี้มันจะเป็นบรรทัดฐานที่ผู้จัดการแข่งขันครั้งต่อไป ให้เดินตามเรา ...
ทำให้ผมดีใจอย่างบอกไม่ถูก ที่ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นฟันเฟืองเล็ก ๆ
ตัวหนึ่งในทีมผู้ตัดสินครั้งนี้ .. 3 วันเต็ม ๆ กับความพยายามที่จะทำให้การดำเนินการ
แข่งขันผ่านไปด้วยความเรียบร้อย
พวกเราได้ทำหน้าที่ของเจ้าภาพได้อย่างดีเยี่ยม กรรมการกลางจากสมาพันธ์ปีน หน้าผาโลก ( UIAA ) บอกไว้กับเลขาธิการสมาคมว่า สนามแข่งขันของเราเป็นสนามแข่งขันกลางแจ้ง ที่มีสภาพแวดล้อมในการจัดการแข่งขันสวยงามติดอันดับต้น ๆ ของโลก
และมีโอกาสที่จะได้จัดการแข่งขันระดับเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ
กีฬาแข่งเสร็จไปแล้ว ผลการแข่งขันออกมาแล้ว
แต่ภารกิจของพวกผมในฐานะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาปีนหน้าผาแห่งประเทศไทย ยังไม่จบ เรากำลังเตรียมการที่จะก้าวต่อไป
และภารกิจของนักกีฬาทุกคนที่รออยู่ข้างหน้า ... ก็ยังอีกยาวไกลเช่นกัน
สู้ .. ไม่สู้ ................ สู้โว๊ยยยยย .....
( ภาพบรรยากาศงานแข่งขัน จะตามมาเร็ว ๆ นี้นะครับ รอเขาส่งเมล์มาให้ ... )