ครู
มีแต่คนฉลาดเท่านั้นแหละที่ทำบุญ
อยู่ๆ ครู ก็เอ่ยประโยคนี้ขึ้นมาหน้าชั้น ทั้งๆที่วันนั้นต้องเรียนวิชาอ่านไทย ไม่ได้เป็นวิชาศีลธรรมสักหน่อย
เธอว่าจริงไหม นายหนุ่ย ครูมักเรียกชื่อเล่นของนักเรียน...หนุ่ยเป็นชื่อเล่นของรังสี
คนทำบุญ นะ ฉลาดตั้งแต่ตังแต่เริ่มคิดแล้ว...หากไม่ฉลาดเขาจะกล้าตัดสินใจยกของๆเขาให้คนอื่นได้ยังไง
ฉลาดอย่างไรคะ ครู
วิไลถาม
ปีที่แล้วที่นี่ยังเป็นโรงเรียนประชาบาลอยู่เลย พอมาถึงปีนี้เราขึ้น ป.4 เปลี่ยนเป็นโรงเรียนเทศบาลแล้ว แต่เราก็ไม่ค่อยเรียกครูว่า คุณครู เหมือนโรงเรียนอนุบาลกางเกงน้ำเงินมีสายหิ้วพาดบ่าที่อยู่ใกล้ๆกันเท่าไหร่ พวกเราก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่เราก็รักครูของเราไม่น้อยไปกว่านักเรียนโรงเรียนอื่น ผู้ใหญ่บางคนสอนว่า ครูเป็นพ่อแม่คนที่สองของเด็ก เหมือนกับที่พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก
คนที่คิดจะทำให้คนอื่นมีความสุข จะไม่ฉลาดได้อย่างไร ครูตอบคำถาม... พอคนอื่นมีความสุข เขาก็ทำให้เราและอีกหลายๆคนมีความสุข จะมีลูกศิษย์ของครูสักกี่คน จะกล้าคิด กล้าที่จะสละสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ให้กับคนอื่น...
ตั๊กกวง ครูเอ่ยชื่อเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งที่ไม่มีชื่อเล่น ดังนั้นครูเลยตั้งชื่อเล่นให้ เพื่อนๆก็พากันเรียกชื่อเล่นที่ครูตั้งให้นั้น ชื่อจริงของตั๊กกวง คือ กวงฮั้ว แซ่ลี้... ตั๊กกวง อยู่เรือนแถวไม้ในซอกตลาดกับเตี่ยสองคน เตี่ยเป็นเหมือนคนจีนอีกหลายคนในตลาดที่อพยพมาเมืองไทยแบบเสื่อผืนหมอนใบ ประกอบอาชีพขาย กะลอจี๊ ขนมหวานแป้งทอดโรยน้ำตาลทรายกับงา อยู่หน้าวัดเพชรตอนกลางคืน
ตั๊กกวง ทำไมเสื้อเธอขาดอย่างนี้ ครูถาม เพราะดูเหมือนตั๊กกวงมีเสื้ออยู่ตัวเดียวใส่มาโรงเรียน เป็นเสื้อที่เก่าคร่ำคร่า ผ้าบางลงเรื่อยๆตามอายุการใช้งาน และวันนี้ก็มีรอยขาดเป็นทางยาว
หากคนอื่นถามเช่นนี้ในที่ประชุมชน คงเป็นเรื่องที่น่าอับอาย แต่ถ้าเป็นครูถาม ทุกคนจะไม่รู้สึก เช่นนั้น เพราะชุดสีกากีที่ครูสรวมใส่มาสอนหนังสือทุกวันนั้น ถึงแม้จะดูสะอาดสะอ้าน แต่วันเว้นวัน เราจะเห็นกางเกงปะก้นรูปใบโพธิ์ เพราะผ่านการใช้งานมานาน...พ่อบอกว่า คงเป็นเพราะครูรู้จักคุณค่าของเงิน ตามธรรมดาของผู้ที่เคยผ่านชวงข้าวยากหมากแพงหลังสงคราม
พ่อเล่าให้ฟังว่าครูเป็นที่เคารพนับถือของคนมากมายในจังหวัด ซึ่งเราก็เห็นจริง เพราะเมื่อคนพบครูในตลาด ไม่ว่าจะเป็นนายกเทศมนตรี ไม่ว่าจะเป็นครูใหญ่ที่จบ ปกศ.สูง หรือครู ปกศ. พ่อค้าแม่ขาย หรือข้าราชการศาลากลางหลายคน จะต้องยกมือไหว้อย่างนอบน้อมเสมอ พ่อบอกว่านี่เป็นผลจากการที่ครูเป็นพ่อพระของบรรดาลูกศิษย์ที่ได้ดิบได้ดีแล้วยังไม่อาจลืมครูไปได้ แม้ครูจะเป็นเพียง ครู ป. ก็ตาม
ครู ป. หมายถึงครูที่ไม่ได้เรียนและได้วุฒิครู แต่สอนมานาน แล้วไปสอบเทียบเอา มีทั้ง ครู ป. หมายถึงครูประโยค ครู ปป. หมายถึง ประโยคประถมปลาย หรือ ปม. ที่หมายถึงประโยคมัธยม...
ผมซักแล้วเสื้อขาดครับ เตี่ยยังไม่มีเงินซื้อให้ ตั๊กกวงตอบ
ไม่เป็นไร...พวกเรา ใครมีเสื้อนักเรียนหลายตัวบ้าง ครูถามนักเรียนในชั้น
นักเรียนในชั้นยกมือ ส่วนใหญ่มีกันคนละสามตัว แต่วีรชัย หรือเด็กชายพี ลูกชายผู้ช่วยคลังจังหวัดมีถึงสี่ตัว
นายพี ไปบอกพ่อเธอ ว่าเอาเสื้อมาแบ่งให้เพื่อนตัวหนึ่ง นะ เหลือสามตัว ขยันซักหน่อย ก็พอใช้ได้ทั้งอาทิตย์
ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น พี เอาเสื้อมาให้ตั๊กกวงถึงสองตัว เพราะพ่อแม่ของพีเห็นด้วยและดีใจที่พีไม่หวงของ และหลังจากนั้นไม่นาน พีก็ได้เสื้อนักเรียนใหม่เพิ่มขึ้นอีกสองตัว เพราะแม่ซื้อให้
ตั๊กกวง เธอจะต้องไม่อายที่รับของจากเพื่อน เธอต้องรับอย่างยินดี และภูมิใจ ที่มีโอกาสให้เพื่อนมีความสุขด้วยการเผื่อแผ่ อนาคตถ้าเธอมีมาก เธอก็จะได้มีโอกาสให้คนอื่นได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดใจอย่างคนขี้เหนียว...สำหรับพี และคนอื่นๆ ให้เธอรู้สึกว่านี่คือการทำบุญ หมายถึงการให้แก่ผู้ที่เสมอกัน หรือ ผู้ที่มีคุณธรรมสูงกว่า ไม่ใช่คิดว่าเป็นการให้ทาน ทุกคนจะต้องฝึกการรับการให้อย่างฉลาดนะ...มันเหมือนกับการที่เราออกกำลังกายทำให้แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย แต่นี่เป็นการออกกำลังใจที่ทำให้จิตใจเราเข้มแข็งไม่เห็นแก่ตัว พอเราไม่เห็นแก่ตัวแล้วเราก็จะไม่อยากได้ของคนอื่น พอเราไม่อยากได้ของคนอื่นเราก็จะไม่มีโอกาสเป็นขโมย...รู้ไหม พอเป็นขโมย จะเป็นอย่างไร...
ติดคุก ค่ะ สารภีตอบ...
ครู มักมีอะไรแปลกๆ มาเล่ามาสอนพวกเราเสมอ บางทีก็เล่าเป็นนิทาน บางทีก็พาร้องเพลง มันทำให้ชีวิตนักเรียน ป. 4 ก. ของพวกเรา มีความสุขสนุกสนานอยู่เสมอ
วันศุกร์หนึ่งในชั่วโมงสุขศึกษา ครูสอนเรื่องยาเสพติด ครูบอกว่ายาเสพติดก็เหมือนเชื้อโรคที่ทำให้ร่างกายเราอ่อนแอ แย่กว่าเชื้อโรคตามธรรมชาติ เชื้อโรคอื่นๆ มันเข้ามาในร่างกายคนเราโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ แต่คนที่ใช้ยาเสพติด นี่เป็นคนโง่ เพราะเป็นคนที่ตั้งใจทำลายสุขภาพของตัวเราเอง เป็นคนโง่ที่ทำมาหาเงินแล้วไปซื้อยาพิษมาใส่ตัว
ยาเสพติดมีอะไรบ้าง ครูถาม บุหรี่ค่ะ เหล้าค่ะ เฮโรอีนครับ.... นักเรียนแย่งกันตอบกันอย่างระเบ็งเซ็งแซ่ มันเป็นวิธีการสอนของครูที่ต้องการให้เด็กๆสนุกกับการเรียน กัญชาครับ สาวิต ตอบช้ากว่าเพื่อน เพราะสาวิตมักจะทำอะไรช้ากว่าเพื่อนเสมอ...ครูยิ้มอย่างพอใจในคำตอบของนักเรียน
แต่ยังไม่ทันที่รอยยิ้มของครูจะจางหาย นนท์ พูดออกมาเสียงดังว่า...กัญชา เป็นแท่งๆพันไม้แห้งๆ ครับ...แม่ผมก็ขาย... ฉาด... เป็นเสียงดังที่ทำให้เกิดปื้นแดงบนใบหน้าของนนท์...ครูเดินไปที่โต๊ะของนนท์ แล้วตบอย่างแรง สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักเรียนในชั้นเรียน
ครู ผู้ไม่เคยตีพวกเราเลยตั้งแต่เราเรียน ป. 4 กับครูมา พวกเราเงียบกริบ ครูเงียบ ตาครูแดง อาการของครูซึมเศร้า...ทุกคนได้แต่นั่งอยู่กับที่ มองครูเงียบๆ จนหมดเวลาเรียน
นนท์ เป็นเด็กกำพร้าพ่อ เพื่อนๆไม่เคยรู้ว่าพ่อของนนท์คือใคร เขาอาศัยอยู่กับแม่ในกระต๊อบจากเล็กๆกลางซอยวัดหลังบ้าน ถือได้ว่าบ้านของนนท์จนมากๆ แม่ของนนท์ทำมาหากินไปวันๆ รับจ้างบ้าง อยู่เฉยๆบ้าง เราทุกคนก็เพิ่งรู้ว่าแม่ของนนท์ขายกัญชาด้วย
วันอาทิตย์ สองวันถัดจากนั้น เราได้เห็นแม่ของนนท์หาบขนมมาขายหน้าวัด ใกล้ๆกับที่พ่อของตั๊กกวงขายกะลอจี๊ เราทราบหลังจากนั้นว่าครูไปบ้านของนนท์เมื่อเย็นวันเดียวกับเหตุการณ์ที่ครูตบหน้านนท์ในห้องเรียน
...ครูเจียดเงินของครูเองไปให้แม่ของนนท์ลงทุนซื้อของและทำขนมขายแลกกับการเลิกขายกัญชา
ครูเสียใจที่ต้องตบหน้านนท์ ครูพูดในห้องเรียนตอนเช้าวันจันทร์... แต่ครูเสียใจมากกว่าที่นนท์ไม่รู้จักคิด...นนท์...สิ่งที่เธอพูดถึงแม่ของเธอเมื่อวันศุกร์ที่มา หากใครคนอื่นได้ยิน แม่เธออาจต้องติดคุก เธอควรจะมาบอกครูเงียบๆ...ถ้าแม่ของเธอต้องติดคุก ก็เพราะที่เธอใช้วาจาเนรคุณอย่างไม่ตั้งใจ...แม่เธอก็จะลำบาก ตัวเธอก็จะลำบาก...จำไว้ หากนักเรียนมีอะไรที่อยากจะบอกครู และมันควรจะเป็นความลับ ให้มาบอกครูได้ตลอดเวลา...
นนท์ร้องไห้โฮ แล้วคลานเข้าไปกราบเท้าครู เหมือนกับครูเป็นเทพเจ้า พวกเราทุกคนน้ำตาซึม มีเสียงสะอื้นแทรกเป็นระยะๆ ครูสอนเราได้เสมอ ครูสอนเราด้วยหัวใจ ชีวิต และจิตวิญญาณ ของครูแท้ๆ ความไม่เห็นแก่ตัว เป็นสิ่งที่ครูสอน สอนมากกว่าที่เราสอบผ่านในชั้นเรียน เป็นสิ่งที่พวกเราหลายๆคนจำมาจนโต จำมาใช้ในชีวิตประจำวันและสอนลูกสอนหลาน...ครูเป็นผู้ให้ที่ฉลาดจริงๆ
เนื่องในโอกาสพิเศษที่ดวงอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าและตกในตอนเย็น ศิษย์คนหนึ่งของครูจึงหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาเขียนเล่าให้ผู้อื่นได้รับรู้อรรถรสแห่งการมีชีวิต เพื่อเป็นการบูชาครู และเพื่อเชิญชวนให้ผู้อ่านกระตือรือร้นมีส่วนร่วมในวิถีการแบ่งปันด้วยวิธีการต่างๆเท่าที่จะทำได้
หากต้องการแบ่งปันในฐานะอาสาสมัครสังคม ด้วยการสละทรัพย์ หรือแรงกาย หรือสติปัญญา ก็นับเป็นโอกาสดี เนื่องจากในปัจจุบัน มีกลุ่มองค์กรต่างๆที่ทำงานด้านสังคม ต้องการกำลังเหล่านั้นเข้ามาร่วมมือกันเป็นขบวนการ คนดี กิจกรรมดี ท่านสามารถเสาะหาโอกาสได้จากเว็บไซต์ต่างๆในโลกความเจริญแห่งเทคโนโลยีนี้ หรืออาจจะเข้าเยี่ยมชมได้ที่ www.bannok.com เลยก็ได้
วีรศักดิ์ บริบูรณ์สุข
veerasak@bannok.com
....................................................................
กำลังฟุ้งๆ อยากเขียนเรื่องครูๆเด็กๆในโรงเรียนบนดอย
แม้จะไม่ได้เอนท์เข้าคณะครู แต่ก็จะเรียนครูที่รามคำแหง
นำความรู้จากศิลปากรไปสอนเด็ก เอาจิตวิทยาไปใช้กับเด็ก
เอาปัญญา กำลังทรัพย์ กำลังใจไปช่วยเด็ก
รักแม่จัง - - แม่เป็นครู
ใครหน้าไหน เสนอหน้ามาโยกย้าย - - สมองหมาปัญญาควาย .. คิดไม่ได้ ไอ้ชาติทรพี กูอยู่ดีๆของกู มึงมาสู่รู้ได้อย่างไร กูอยู่กับตัวกูได้ ไม่เดือดร้อนประการไหน อย่าพาย้ายมาย้ายไป ศักดิ์ศรีกูมีไว้ - -
กูมีไว้ทำไม - - ถ้ามึงจะโยกย้ายง่ายๆ เหมือนกูไม่มีตัวตน