ชายสวมแว่นวันศุกร์ในเสื้อเหลือง
๑). เป็นวันที่แดดจัดและลมสด
ตลอดทางของรถสายสงขลา
เธอนั่งหน้าต่างซ้ายอยู่ปลายตา
ด้านขวาหน้าต่าง-ฉันนั่งชิด
เป็นเบาะแถวสุดท้ายของรถตู้
อุดอู้แน่นเอี๊ยดนั่งเบียดติด
ในความเงียบ-ต่างคนก็ต่างคิด
กับโลกใบจิดริดเฉพาะตน
ชายสวมแว่นวันศุกร์ในเสื้อเหลือง
แอบชำเลืองกรอบซ้ายอยู่หลายหน
เบาะหลังสุดรถตู้อุดอู้จน
หัวเข่าคนเบียดชิดอยู่ติดกัน
แอบชำเลืองไปทางหน้าต่างซ้าย
ข้ามคู่รักหญิงชายที่นั่งคั่น
เธอนิ่งสงบเงียบอยู่เงียบงัน
กับความฝันหอมหวล-โลกส่วนตัว
๒).
ฝันได้ด่ำดื่มทั้งลืมตา
เบื้องนอกแดดจ้าทาบทาทั่ว
แลบเลียอิดเอื้อนทุกเรือนครัว
เปรี้ยงแผดเผาหัวทุกตัวคน
เราดึงม่านปิดบังภาพทั้งหลาย
อยู่ภายในแอร์รถแผ่พ่น
ในความเงียบ-ต่างคนก็ต่างค้น
อาณาเขตตนเท่าที่มี
สีสันสดใสโลกในฝัน
รั้วกั้นด้านหน้าและทาสี
ไร้วันคืนเคลื่อนไร้เดือนปี
คงที่อย่างนั้นนิรันดร์ไป
ฉันเลียบรั้วโลกเธอด้วยสายตา
มิกล้าขยับเขยื้อนการเคลื่อนไหว
รั้วโลกทุกด้านลั่นดาลไว้
อยากรื้อรั้วด้านใดสักด้านลง
ขยับแว่น-ชำเลืองไปเบื้องซ้าย
หวั่นโลกแหลกทลายเป็นผุยผง
ค่อยเอื้อมมือเคาะรั้วอย่างบรรจง
พลันเธอส่งวงตาขึ้นมาพบ!
๓).
เย็นวาบสันหลังไปทั้งแถบ
ค่อยค่อยแอบก้มหน้าเบนตาหลบ
พนักหลังพิงรีบอิงซบ
องคาพยพหนาวสั่นขึ้นทันใด
สวยเหลือเกิน!
จนเคอะเขินอกสั่นอยู่หวั่นไหว
มิรู้แล้วล้อรถวิ่งบดไป
สงขลาหาดใหญ่หรือไหนกัน
เธอนั่งหน้าต่างซ้าย-ฉันนั่งขวา
สบตาเพียงแวบชั่วสั้นสั้น
ดั่งอายุกลางคนวัยฉกรรจ์
สามสิบห้าแห่งฉันในวันนี้
ดิ่งลงเป็นปรอทในน้ำแข็ง
เต้นแรงหัวใจและไหวถี่
ราววัยหนุ่มที่สูญหายมาหลายปี
เต็มปรี่ขึ้นมาอีกคราครั้ง
ฉันคว้าม่านมาดม-แล้วอมยิ้ม
กริ่มกริ่มคนเดียวในที่นั่ง
เบื้องนอกแดดร้อนโลกกร่อนพัง
ไม่ฟังไม่รู้ไม่ดูแล้ว!
๔).
ฉันดึงแขนเสื้อเหลือง-เหล่เบื้องซ้าย
เกิดลูกคลื่นเทถ่ายไปทั้งแถว
รถตู้แออัดขนัดแนว
แอบแขม่วหน้าท้องไปสองที
เผลอลูบหน้าผากที่เถิกเปิด
รีดกลีบเชิ้ตเหลืองพราวให้เข้าที่
โลกจะแหลกป่นลงเป็นผงคลี
ก็ไม่รู้ไม่ชี้แต่อย่างไร
เราสร้างโลกสวยสดในรถตู้
ไปสู่สงขลา-จากหาดใหญ่
ดึงม่านปิดทัศน์ทิว-รถลิ่วไป
ในความเงียบ-ของใครก็ของมัน!
. .
ดึงม่านบังภาพทุกภาพไว้
โลกจะร้อนอย่างไรก็ช่างมัน!
๑๓ กันย์ ๒๕๔๖
หนังสือพิมพ์โฟกัสภาคใต้