เดียงสา
๑).
ตาเธอเพ้อพร่ำน้ำตา
ต่างคำพรรณนา
อกร้าวราวถูกชะแลง
ตาก่ำช้ำชอกบอกแจง
อันเจิดแจรง
นั้นคืองามแห่งอรุณ
หอมกลิ่นแรกผลิพิกุล
หอมดังดรุณ
ผลิกรุ่นกลิ่นแพงแห่งวัย
เมื่อนั่นอาทิตย์อุทัย
พิกุลกรุ่นไกล
หัวใจดรุณกรุ่นตาม
โลกนี้สวยหล้าฟ้าคราม
ดั่งเพลงพรพราหมณ์
โศลกบูชิตโลกา
เยาว์ยอบกายหมายบูชา
อาทิตยา
ถวายพรหมจารี
รักแล้วดังแก้วเนื้อดี
มิกลัวราคี
มิเกรงราคินกลิ่นคาว
ถวายกลิ่นแพงแห่งสาว
พิกุลร่วงกราว
มือน้าวดอกน้อมค้อมใจ
๒).
ใครเลยเคยคิด-ผิดใด?
ซื่อเขลาเยาว์วัย
หรือใช่โง่เขลาเง่างม
อุทัย ไหมหมอก ดอกลม
เกินพร่ำคำชม
เกินจินตนารมณ์ไร้
ยิ่งเยาว์เขลาซื่อเท่าใด
โอเจ้าเยาว์วัย
ยิ่งซื่อยิ่งเขลาเท่านั้น
รักเพื่อบำบวงสรวลสันต์
แด่สรวงสวรรค์
ควรหรือซื่อเขลาเท่านี้
รักนั้นปานแก้วเนื้อดี
โอดรุณี
ค่าควรสงวนนวลตน
กลีบดอกชอกช้ำจ้ำหม่น
พิกุลพิกล
เมื่อฟ้าอุ้มฝนลมแรง
ตาก่ำช้ำชอกบอกแจง
แสยะแสยง
สยดสยองสิขวัญ
ฟ้าแปลบแปลบเผาเมามัน
ลมใคร่ใครกัน
กระสันต์สวาทสิโหม
ตะบันตะบึงประหนึ่งสิโจม
ถากเนื้อเถือโนม
ตะกละตะโบมตะกลาม
เยาว์เอ๋ยเคยไหมใครห้าม?
ชิงสุกก่อนห่าม
กลับหามกลับแบกแอกเสา
เยาว์เอ๋ยเคยไหมนัยน์เยาว์?
อุทัยพรายเงา
นิ่งลำเพาบูรพา
ตาเธอเอ่องำน้ำตา
เดียงสาเดียงสา
เจ้าไร้เสียจริงจริงหนอ
๒๘ สิงห์ ๒๕๓๗