ห่วง…
จึงเมื่อดวงตาเธอได้เพ้อพร่ำ
ถ้อยคำแห่งความทุกข์ก็สุกปลั่ง
มาคลอตาวาววับระยับประดัง
แล้วร่วงหลั่งรินรอยจนพร้อยปราง
น้ำตาเธอเสมอพรายประกายเพชร
อันก่องเก็จแก้วผลึกที่ดึกสร้าง
ที่คืนกลึงคลึงเกลาจนเงาราง
ประยอดหญ้าคาค้างจนพร่างพราย
ยินบ้างไหมหัวใจอีกหนึ่งดวง
ที่ขับท่วงเพลงหมองทำนองสลาย
เห็นบ้างไหมรอยร้าวอีกดาวประกาย
อันวับรายวาวแต้มจนแวมตา
เช่นที่ดาววาวงามอันวามแวม
มาแตะแต้มแก้มน้ำที่ฉ่ำหญ้า
วอมดาววาวแวมที่แต้มฟ้า
นั่นสะท้อนดวงหน้าในดวงน้ำ
หากผกายพรายเพชรอันเก็จก่อง
ที่ไหลร่องล่องปรางจนพร่างฉ่ำ
ถ้อยคำแห่งความทุกข์ทุกทุกคำ
คงไหลหลั่งถั่งช้ำจนก่ำตา
บางที-เธออาจเลือกการเกลือกทุกข์
จึงคำปลุกปลอบใจดูไร้ค่า
บางที-ความว้าเหว่บางเวลา
เธออาจปรารถนาบางนาที
เช่นที่น้ำค้างแก้วพรายแววเศร้า
โดยให้เหงาโอบอายสยายคลี่
เธอเก็บความเจ็บร้าวเท่าที่มี
คงไว้แต่สายตาที่แสนปวดร้าว
เช่นที่ดาววาววามอันงามแวว
นั้นพรายแพร้วแพรวพรึกเมื่อดึกหนาว
ฉันปล่อยให้แพรวทาบกับภาพพราว
ของแสงดาวที่ครวญคร่ำผิวน้ำค้าง
ยิ่งเมื่อดวงตาเธอยิ่งเพ้อพร่ำ
ถ้อยคำแห่งความทุกข์ยิ่งรุกพร่าง
ฉันป้ายนิ้วแล้วเช็ดซึ่งเก็จราง
สะท้อนอกสะทกครางระหว่างเช็ด
ยินบ้างไหมหัวใจอีกหนึ่งดวง
ที่ขับท่วงเพลงหนึ่งอันอึงเอ็ด
ในอกซึ่งเสียงพรอดได้ลอดเล็ด
กล่อมน้ำค้างพร่างเม็ดซึ่งเก็จวับ
เมื่อตาเธอเพ้อพร่ำแต่คำเศร้า
ตาอีกเงาก็เหงาร่ำในดำขลับ
หยาดน้ำค้างพร่างหญ้าคณานับ
แสงเศร้าแห่งดาวซับได้ไหมเธอ?..