การสร้างสรรค์วรรณกรรมในภาวะวิกฤติสังคมไทย: บทวิเคราะห์กรณีศึกษาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษ,บ้านทรายทองและปีศาจ

by หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก @6 ก.ย.51 21.17 ( IP : 118...48 ) | Tags : บทสัมภาษณ์

การสร้างสรรค์วรรณกรรมในภาวะวิกฤติสังคมไทย: บทวิเคราะห์กรณีศึกษาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษ, บ้านทรายทองและปีศาจ


      โลกผ่านภาวะวิกฤติมานับครั้งไม่ถ้วน เกิดความแห้งแล้งอดอยาก เกิด

สงครามล้างเผ่าพันธุ์ เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายมาโดยเสมอ    ภาวะวิกฤติที่

เกิดขึ้นล้วนแล้วเป็นผลเกี่ยวเนื่องมาแต่การกระทำของมนุษย์ทั้งสิ้น มา

พร้อมกับความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงในแต่ละครั้ง  วิกฤติโลกครั้งใหญ่ๆก็

คงหนีไม่พ้นการล่าอาณานิคม การทำสงครามลัทธิ การทำสงครามตัวแทน

การปั่นหุ้น        การป่วนค่าดอลลาร์และบาท ภาวะโลกร้อน และราคา

น้ำมันที่พุ่งขึ้นจนแทบจะเอาน้ำคลองมาเติมรถยนต์แทน



      กระชับเข้ามาโฟกัสเพียงละติจูดประเทศไทย  ปรับเลนส์ซูมอีกนิดให้

กล้องจับตั้งแต่เหตุการณ์ 24 มิถุนายน 2475 หลังการเปลี่ยนแปลงการ

ปกครองครั้งใหญ่โตมโหฬารนั้น  สังคมไทยผ่านพบความแปลกใหม่หลาก

หลายมากมาย  ผู้ปกครองเปลี่ยนจากศักดินามาเป็นไพร่ที่มียศตำแหน่ง

เกิดความวุ่นวายทางการเมืองอยู่บ่อยครั้ง  ครั้งที่น่าปีติยินดีที่สุดคือ 14

ตุลาคม 2516  และครั้งที่น่าเศร้าที่สุดก็คือ 6 ตุลาคม 2519  ประเทศไทย

มีการสู้รบในเขตป่าเขาในทุกพื้นที่  กรณีถีบลงเขา-เผาถังแดง ในเขต

พัทลุงและรอยต่อของเทือกบรรทัด  ที่ต่อมาพบร่องรอยการสูญเสียไม่ต่ำ

กว่า 3000 ศพ นี่ยังไม่นับรวมถึงรายที่สูญหายไร้ร่องรอยอีกไม่รู้เท่าไหร่

ย่างเข้าสู่พฤษภาคม 2535 เราก็เกิดเหตุการณ์ฆ่าหมู่กลางถนนอีกครั้ง

ประวัติศาสตร์ส่วนนี้ทำให้สังคมไทยเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ  อย่าง

น้อยที่สุด-ก็อยู่ร่วมกันโดยลดความขัดแย้งชิงชังในความคิดในทัศนะที่แตก

ต่างต่อกัน  แทบไม่น่าเชื่อว่าคนคนเดียวที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  จะ

สามารถสร้างรอยปริแยกให้แก่สังคมขึ้นมาอีกได้อย่างกว้างขวาง  ในที่นี้ไม่

ได้หมายความว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเลวหรือดี  แต่เป็นความหมายของ

ปัจเจกคนหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อสังคมทั้งประเทศได้ใหญ่หลวง และ

ปัจจุบันเราพบว่าทุกคนต่างตกอยู่ในวังวนความขัดแย้ง  ที่ลุกลามขยายวง

กว้างออกไปไม่สิ้นสุด เราต้องเลือกฝ่ายแม้จะไม่เลือก เพราะเราจะโดน

ผลักให้อยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแม้ไม่เต็มใจ



      ตั้งแต่มนุษย์เริ่มเรียนรู้ที่จะถ่ายทอดกันด้วยภาษาภาพในถ้ำ มนุษย์ก็

เริ่มที่จะสื่อความในใจให้กันและกันได้รับสาร จนวิวัฒนาการมาเป็น

วรรณกรรมอันละเมียดละไม ซับซ้อน และดิ่งลึก การตรวจตราวรรณกรรม

อย่างหยาบๆพบว่า  วรรณกรรมถูกสร้างขึ้นมาด้วยความกดดันรู้สึกอึดอัดกับ

อะไรบางอย่างที่เกี่ยวอยู่กับการเมือง การเมืองอันส่งผลกระทบต่อคนทุกคน

อย่างแยกไม่ออกในชีวิตประจำวัน ดั่งคำกล่าวที่ว่าแม้เราไม่ยุ่งการเมือง แต่

การเมืองมันก็จะเข้ามายุ่งกับเราถึงในมุ้ง และวรรณกรรมระดับโลกทั้งมวล

ล้วนแล้วเป็นเรื่องราวของความกดดันอึดอัดทางการเมืองทั้งสิ้น เราจึงได้

รู้จักชื่อ แมกซิม กอร์กี้, ดอสโตเยฟสกี้,ตอลส์ตอย,เชคอฟ,ปุชกิ้น จา

กรัสเซีย ได้ยินชื่อ หลู่ซิ่น จากจีน , ปราโมทยา อนันตาตู จาก

อินโดนีเซีย, จอห์น สไตน์เบค,เฮมมิงเวย์ ,แจ๊ค ลอนดอน จากอเมริกา, กา

ร์เบรียล การ์เซ มาเกส จากโคลัมเบีย และอีกมากมายทั่วโลกตลอดจนจิตร

ภูมิศักดิ์,เสกสรร ประเสริฐกุล,นายผี,กุหลาบ สายประดิษฐ์, และพนม นันท

พฤกษ์ ที่เราจำเป็นต้องเอ่ยนามในสถานที่แห่งนี้


      วรรณกรรมคือผลิตผลจากสังคม สังคมเช่นไรก็ย่อมก่อกำเนิด

วรรณกรรมที่แอบอิงแนบชิดกับสังคมนั้น  ย้อนกลับไปศตวรรษที่ 18 เกิด

การปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษ  เทคโนโลยี่ใหม่ที่ค้นพบได้ก่อกำไร

มหาศาลให้แก่พ่อค้า เงินได้กลายเป็นอำนาจแทนที่ศรัทธาเดิมที่เคยมีต่อ

ศักดินา การเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬารได้กระทบไปทุกภาคส่วนของสังคม

ทั่วโลก ชนชั้นนายทุนได้เข้ามามีบทบาทอำนาจชี้นำและการปกครองแทน

ที่ศักดินา ได้ทำการบุกเบิกสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่เป็นของตนอย่างมีลักษณะ

เฉพาะ รุกล้ำก้าวล่วงไปยังพื้นที่ของเจ้าที่ดิน การแต่งกายที่ออกแบบให้มี

ความสง่างามทัดเทียมกับชุดราชสำนัก อิริยาบถต่างๆที่ถูกบัญญัติพิธีรีตอง

ให้เข้มขลังทัดเทียมกับราชพิธี  ยื้อแย่งอำนาจชี้นำของกษัตริย์ที่อิงอยู่กับ

กองทัพ ให้เป็นอำนาจของชนชั้นใหม่นายทุนที่เงินกลายเป็นปัจจัยสำคัญ

สูงสุด และที่ดินอันเป็นปัจจัยการผลิตพื้นฐานที่สำคัญสุด  ได้ถูกยึดครอง

เปลี่ยนมือแทนที่  รวมกับสภาพของสถาบันกษัตริย์ในแต่ละประเทศกำลัง

ง่อนแง่นอับจน


    เป็นช่วงศตวรรษที่ศักดินาเองเริ่มอ่อนแรง  ผลจากการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

ใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ และบริหารราชการงานเมืองไม่ทันโลก ทำให้ศักดินาต้อง

ยากจนลง ปราสาทราชวังหลายแห่งถูกกว้านซื้อโดยนายทุนเพื่อทำเป็น

บ้านพักตากอากาศ สถานที่รับรอง และฉากภาพยนตร์ เครื่องประดับสิ่งของ

มีค่าราคาสูงได้ถูกซื้อไปเสริมบารมีชนชั้นกลาง  ชีวิตที่ศักดินาเคยเป็นอยู่

ได้ถูกผ่องถ่ายมายังชนชั้นกลางโดยการจำลองและพยายามลอกเลียน

แบบ แต่สิ่งหนึ่งที่ชนชั้นกลางยุคนั้นไม่สามารถสร้างขึ้นมาเพื่อให้เทียบ

เทียมศักดินาได้ก็คือบารมี  บารมีที่ศักดินาได้สั่งสมจนกลายเป็นศรัทธาต่อ

ไพร่ฟ้ามาอย่างยาวนานหลายร้อยปี



      จะเป็นเจตนาของ ก.สุรางคนางค์ หรือไม่ไม่ทราบได้ แต่การปรากฏ

ตัวของ พจมาน สว่างวงศ์ ในชุดกระโปรงสีหวานสวมหมวกปีกกว้าง ยืนอยู่

เบื้องหน้าคฤหาสน์บ้านทรายทอง  มันคือการมาปรากฏตัวของโรแมนติก

ของชนชั้นใหม่เบื้องหน้าปราสาทราชวัง  ของชนชั้นกลางยุคปฏิวัติ

อุตสาหกรรม  นายทุนได้ลอกเลียนและดัดแปลงจำลองศิลปะยุควิกตอเรีย

ของศตวรรษที่17  จากเรื่องราวของจักรๆวงศ์ๆ ก็กลายมาเป็นเรื่องราวของ

คนชั้นกลาง ชนชั้นกลางได้พัฒนาวรรณกรรมของตนจนเป็นรูปแบบใหม่ที่

เรียกกันว่าสกุลโรแมนติโรแมนติกที่ปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้าสกุลคลาสสิค

อย่างท้าทาย การเผชิญหน้าเป็นไปอย่างดุเดือด  และเนื่องจากราชสำนัก

ทั้งหลายกำลังอ่อนแอทั้งในแง่ของความมั่งคั่งและมั่นคง จึงเป็นการง่ายที่

โรแมนติกจะยึดครองพื้นที่วรรณกรรมได้มากกว่าคลาสสิคที่ปิดตัวเองให้

อ่านกันเพียงเฉพาะราชสำนัก  สกุลโรแมนติกขยายขอบเขตไปถึง

ประชาชนอย่างทั่วถึง



      เมื่อชนชั้นกลางช่วงชิงการนำสังคมได้เบ็ดเสร็จ  ราชสำนักก็ยิ่งอยู่ใน

ภาวะถอยหลัง  แต่สิ่งที่ชนชั้นกลางไม่มีและไม่สามารถมีได้นั้นคือความจง

รักภักดีของประชาชน  ซึ่งเป็นสิ่งที่ราชสำนักมี ความจงรักภักดีฝังอยู่ในจิต

ใจของประชาชนทั่วทุกหัวระแหง  ชนชั้นกลางจึงจับมือร่วมกับศักดินาเจ้า

ที่ดิน เพื่ออาศัยสิ่งที่ตนไม่มีให้มีขึ้น เพื่อให้ประชาชนยอมรับการมีอยู่ของ

ชนชั้นนายทุนใหม่ที่เพิ่งก่อกำเนิดขึ้นมา  ราชสำนักเองก็ยินดีที่จะให้ความ

ร่วมมือนี้ ด้วยต่างพึ่งพาอาศัยกันอยู่  และนั่นส่งผลกระทบไปยังประชาชนผู้

ต่ำชั้นกว่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  ภายใต้การกดขี่ที่นายทุนร่วมมือกับ

ศักดินา ก่อเกิดความเคียดแค้นชิงชังขึ้น  อันนำไปสู่การลุกฮือครั้งใหญ่ใน

รัสเซีย ในจีน และวรรณกรรมแนวสัจจนิยมที่กุสตาฟ โฟร์แบร์ ริเริ่ม ก็ได้ทำ

หน้าต้นแบบของสกุลเพื่อชีวิตเป็นอาวุธวัฒนธรรมขึ้นมา  จนโลกเกิดการ

สั่นสะเทือนเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง


        ร้อยแก้วแบบตะวันตกเริ่มแพร่หลายเข้ามายังเมืองไทยประมาณสมัย

รัชกาลที่ ๕  ก่อนหน้านี้ร้อยแก้วของไทยยังอยู่ในรูปแบบนิทาน-ตำนาน

ไม่ได้เป็นเรื่องเล่า  พจมาน สว่างวงศ์ที่เดินเข้าบ้านทรายทองด้วย

ชุดกระโปรงสีหวานถักเปียสองข้าง  คือการก้าวย่างของงานสกุลโรแมนติก

เข้าไปเผชิญหน้าสกุลคลาสสิกอย่างท้าทาย    ก.สุรางคนางค์ได้สร้าง

ชายน้อยให้เป็นตัวละครง่อยเปลี้ยไม่สมประกอบ เพื่อแสดงถึงลักษณะของ

ศักดินาที่อ่อนแรงลงและเป็นภาระอย่างเสียดสีเหน็บแนม ให้การมาถึงของ

พจมานสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายแก่บ้านทรายทองตลอดเวลา  โดยมี

สาย สีมา ตัวเอกในหนังสือเรื่อง ปีศาจ ของ เสนีย์ เสาวพงศ์ ยืนมองข้าง

นอกด้วยดวงตาจับจ้องจริงจัง  การเปิดเรื่องปีศาจด้วยประโยค “ปีศาจตน

หนึ่ง ปีศาจแห่งลัทธิคอมมิวนิสม์ กำลังสยายปีกเหนือฟากฟ้ายุโรป” นั่นคือ

การยกประโยคสุดแสนจะคลาสสิกของ The Communism’s Manifesto:

แถลงการณ์ของพรรคคอมมิวนิสม์มาขึ้นนำ บทความมากมายของ จิตร ภูมิ

ศักดิ์ ได้ก่อเกิดกระแสพลังของหนุ่มสาว ภาวะการเมืองที่ไร้เสถียรภาพ

การปกครองกดขี่ขูดรีดของนายทุนขุนศึก และภาวะอึดอัดหายใจไม่ออกใน

ระบอบเผด็จการทหาร งานสกุลเพื่อชีวิตที่ได้รับอิทธิพลความคิดจากตอ

ลสตรอยใน “ศิลปะเพื่อชีวิต” และจิตร ภูมิศักดิ์ได้ย้ำอีกครั้งในหนังสือ

เรื่อง “ศิลปะเพื่อชีวิตศิลปะเพื่อประชาชน”  จึงกลายเป็นงานสกุลใหญ่อีก

สกุลหนึ่งที่ขึ้นมามีบทบาททางการเมือง  ในฉากที่คุณพ่อของคุณรัชนี

หญิงสาวสูงศักดิ์คนรักของสาย สีมาในเรื่องปีศาจ ได้เชิญสาย สีมาร่วมรับ

ประทานอาหารเย็นท่ามกลางหมู่ญาติเพื่อนฝูง  เพื่อกล่าวประณามความ

ยากจนของสาย สีมาที่ไม่ยอมเจียมเนื้อเจียมตัว  การประณามนั้นลุล่วงไป

อย่างอึดอัด แล้วสาย สีมาก็ได้ลุกขึ้นพูดอะไรบางอย่างที่ยาวเหยียด ก่อน

เดินออกจากห้องรับประทานอาหารนั้นอย่างสง่างาม  ฉากนี้คือการตอกย้ำ

ความจริงหนึ่ง นั่นคือการลุกขึ้นยืนอย่างอหังการ์ของชนชั้นล่างท่ามกลาง

วิกฤติสังคมกดขี่ข่มเหง และของวรรณกรรมเพื่อชีวิตวรรณกรรมฝ่ายก้าวหน้า

ว่ามีอยู่จริง และมีอยู่อย่างยิ่งใหญ่ไม่ด้อยน้อยหน้ากว่าสกุลคลาสสิกและ

โรแมนติกเลย



      จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ล้อมฆ่านักศึกษาประชาชนในธรรมศาสตร์เมื่อ

๖ ตุลา ๑๙  หนังสือฝ่ายซ้ายฝ่ายก้าวหน้า  ศิลปะเพื่อชีวิตทุกแขนงได้ถูก

กำจัดออกไปจากสังคมไทย  หนังสือหลายร้อยเล่มยังคงต้องห้ามอยู่ใน

ปัจจุบัน  การอ่านการเขียนของสังคมไทยจึงขาดช่วงตอนทางประวัติ

ศาสตร์อย่างน่าเสียดายยิ่ง  ในช่วงที่งานสกุลเพื่อชีวิตล้มหายตายจาก งาน

สกุลโรแมนติกก็ได้โอกาสกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง  ช่วงนี้เองที่วัฒนธรรม

ญี่ปุ่นรุกคืบเข้ามา เด็กสาวหลายคนยุคนั้นอยากเป็นสาวนิปปอน การ์ตูนซึ่ง

เป็นวัฒนธรรมหลักของชาวญี่ปุ่นถูกลำเลียงเข้ามาสังคมไทยอย่างหลาม

หลาก  ส่วนใหญ่เป็นตัวการ์ตูนน่ารักๆตาโตๆ  และเนื้อเรื่องที่วนเวียนอยู่

เพียงเรื่องของความรักแบบป๊อบปี้เลิฟ  นิตยสารวัยรุ่นอย่างเธอกับฉัน-วัย

หวาน  ก็เน้นไปที่ความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์, เพลง, แฟชั่น และ

แน่นอนที่มันย่อมอิงกระแสญี่ปุ่นเป็นหลัก ฮาราจูกุเป็นสถานที่ในฝันของ

เด็กหนุ่มสาว และสยามสแควร์ก็ได้กลายเป็นฮาราจูกุย่อยๆขึ้นมา

วัฒนธรรมใหม่ที่เรียกในปัจจุบันว่าแอ๊บแบ๊ว, คาวาอี้ ได้ถือกำเนิดในสังคม

ไทยมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า ๒๐ กว่าปีแล้ว






          โลกเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง เมื่อกำแพงเบอร์ลินได้ถูกทุบทิ้ง

ทำลาย จักรวรรดินิยมโซเวียตแตกย่อยเป็นประเทศเล็กประเทศน้อย  และ

จีนได้เข้าสู่แผนพัฒนาประเทศด้วยทุนนิยม ความโกลาหลอลหม่านครั้ง

มโหฬารนี้  ส่งผลกระเทือนไปยังศิลปะทุกแขนง  สกุลงานศิลปะใหม่ที่เกิด

ขึ้นเรียกกันว่าอัลเทอร์เนถีฟ  ได้เปิดตัวขึ้นมาอย่างงุนงงกับความเปลี่ยน

แปลงของโลก  จนมาเป็นโพสต์โมเดิร์นผู้ขี้หงุดหงิด  กระแสนิยมเกาหลีได้

เริ่มพรั่งพรูเข้ามาสังคมไทยแทนที่ญี่ปุ่น  ด้วยยุทธศาสตร์ยุทธวิธีซ้ำรอยที่

ญี่ปุ่นและฮอลลีวู้ดเคยประสบผลสำเร็จมาแล้ว โลกไร้พรมแดนด้วยโลกาภิ

วัตน์ อินเทอร์เนตเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตของคนรุ่นใหม่  และที่นี่ก่อเกิดนัก

เขียนหน้าใหม่วัยรุ่นมากมายหลายคน  เวบบอร์ดอันเปิดกว้างที่ใครก็

สามารถเข้าไปแต่งเรื่องให้อ่านกันได้ง่าย  มากมายที่กลายมาเป็นหนังสือ

เล่ม      เนื้อเรื่อง, ประเด็นเรื่อง, ภาษา, ทัศนะ, รสนิยม, ความสนใจของ

นักเขียนเหล่านี้สะท้อนได้ชัดเจนยิ่งถึงสังคมไทยปัจจุบัน เป็นบทสรุปที่ดี

ในประเด็นศิลปะกับสังคมแยกกันไม่ออก และเห็นพัฒนาการของ

วรรณกรรมไทยชัดเจนว่าเป็นอย่างไร



    ฉากจบของบ้านทรายทอง ชายกลางได้แต่งงานกับ พจมาน สว่างวงศ์

อย่างมีความสุขชื่นมื่น  ขณะที่ สาย สีมา เดินกลับไปยังบ้านหลังทรุด

โทรม พบ รัชนี ยืนรออยู่    ประเทศไทยภายใต้การปกครองของรัฐบาล

สมัครนี้ เราไม่สามารถทราบได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับลูกหลานของ

ชายกลางกับพจมาน แต่เราได้เห็น สาย สีมา หลายๆคนกำลังยืนเผชิญ

หน้าจ้องตากันอย่างเคียดแค้น สาย สีมา คนหนึ่งได้เขียนบทกวีตัดพ้อต่อ

ว่าไปยังสาย สีมา 2 คน  และสาย สีมา อีกหนึ่งคนก็เขียนบทกวีประณาม

สาย สีมา คนแรกอย่างรวดร้าวกราดเกรี้ยว บทเพลงอันนับเป็นวรรณกรรม

ชนิดหนึ่ง ถูกผลักให้เลือกข้างตามผู้สร้าง ขณะที่เวที นปก.ไม่อาจร้องเพลง

ของคาราวานได้ เวทีพธม.ก็ไม่สามารถร้องเพลงของวิสา คัญทัพ ได้เช่น

กัน แต่ไม่ทราบว่าด้วยเพราะเหตุไร ทั้งสองเวทีกลับไม่เล่นเพลงของแอ๊ด

คาราบาว เลย


  นับแต่ พ.ต.ท.ทักษิณก้าวเข้ามาเล่นการเมือง  เป็นช่วงที่กวีและนักเขียน

หันมาสนใจประเด็นการเมืองกันอย่างกว้างขวางอีกครั้ง  อินถา ร้องวัวแดง

ได้ขยับปากกาอยู่ในมติชนสุดสัปดาห์ติดต่อกันหลายสัปดาห์  เวที

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกำเนิดขึ้น คมทวน คันธนู ได้ออกไป

ยืนบนเวทีอ่านฉันท์อย่างดุเดือด วิกฤติสังคมช่วงนั้นจบลงด้วยการรัฐ

ประหาร 19 กันยายน 2549  พรรคไทยรักไทยถูกตีแตกหนี ญญ่าย พ่ายจ๊ะ

แจ๋  ก่อนรวบรวมกำลังพลขึ้นใหม่ในนามพรรคพลังประชาชน เวทีพันธมิตรฯ

ได้กำเนิดขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้นักสร้างวรรณกรรมได้แยกตัวเป็น2 ฝั่ง

ฝ่ายชัดเจนกว้างขวางขึ้น ในขณะที่วิสา คัญทัพขึ้นเวทีของ นปก. และ

วัฒน์ วรรลยางกูร ได้เขียนสอดแทรกลงคอลัมน์ประจำในข่าวสด  และ

ไม้หนึ่ง ก กุนที เขียนบทกวีลงในมติชนสุดสัปดาห์  อังคาร กัลยาณพงศ์

และเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ก็ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ก่อเกิดการสร้างวรรณกรรม

การเมืองยุคใหม่ขึ้นมาทั้ง2ฟากฝั่ง สังคมวิกฤติแล้ววิกฤติเล่า การสร้าง

วรรณกรรมในภาวะวิกฤติกำเนิดขึ้นมาอย่างร้อนแรง เพื่อยืนยันว่าวรรณกรรม

คือสื่อที่ส่งสารไปยังผู้รับชนิดหนึ่ง เพื่อระบายความรู้สึกกดดันอึดอัดกับ

อะไรบางอย่างอันเกี่ยวเนื่องอยู่กับการเมือง สังคมแตกหักครั้งแล้วครั้งเล่า

วรรณกรรมกลายเป็นตัวเร่งหนึ่งไม่ว่าเราจะใช้คำเรียกมันว่าอาวุธทาง

ปัญญา,อาวุธทางวัฒนธรรม หรือการโจมตีด้วยปากกา วรรณกรรมที่ถูกสร้าง

ขึ้นมาเพื่อรับใช้ทัศนะความคิดใดหนึ่ง ที่เมื่อความขัดแย้งลุกลามบาน

ปลาย  มันก็พร้อมที่จะเป็นอาวุธอันทรงประสิทธิภาพ ที่ทั้งสร้างและ

ทำลาย  กว่าจะคลี่คลายไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เราต้องผ่านการ

เผชิญหน้าปะทะกันอย่างรุนแรงเสมอมา  เราต้องสูญเสียกันก่อน เราจึงจะ

สำนึกได้ในความสงบสุข  การเผชิญหน้ากันระหว่างฝ่ายเอาทักษิณกับไม่

เอาทักษิณ ตามความเข้าใจนั้น ทรท.หรือพปช. มี 2 กลุ่มอยู่ในพรรค หนึ่ง

นั้นคือนายทุน และหนึ่งนั้นคือฝ่ายซ้ายเก่า ไม่กี่ปีที่ผ่านมา สุรชัย แซ่ด่าน

แกนนำ นปก. คนหนึ่งได้ประกาศจัดตั้งและเปิดตัวพรรคคอมมิวนิสม์แห่ง

ประเทศไทยใหม่(เฟส2)  ต่อมามีข่าวความเคลื่อนไหวอย่างคึกคักของ

สหายเก่าในเขตภาคเหนือและอีสานใต้  ตอกย้ำด้วยการเดินสายพบปะ

สหายเก่าในพื้นที่ดังกล่าวของ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ภายหลังที่ได้รับ

แต่งตั้งเข้ามาเป็นนายกฯเฉพาะกิจเฉพาะกาล    ฝั่ง พธม. เองนั้น ก่อน

19 กันยายน 2549 เล็กน้อย สนธิ ลิ้มทองกุล ได้พูดถึงที่มาของผ้าพันคอสี

ฟ้า  และการถวายคืนพระราชอำนาจ ด้วยการร้องขอนายกฯพระราชทาน

ล่วงเข้าวิกฤติสังคมครั้งใหม่ พธม. เองรุกด้วยการนำเสนอความจงรักภักดี

ต่อสถาบัน ขุดคุ้ยนำเสนอเปิดโปงกระบวนการล้มล้างสถาบันอย่างต่อเนื่อง

และปลุกกระแสปราสาทพระวิหารขึ้นมาเป็นคนแรก  บรรยากาศอึดอัดเช่น

นี้ เสมือนหนึ่งเราย้อนกลับไปสู่ยุค 14 ตุลาคม 2516  เพียงแต่ภาวะการ

เมืองที่แสนสับสนสลับขั้วสลับหางผิดที่ผิดทางนี้  ฝ่ายซ้ายได้จับมือกับ

นายทุน และหลงลืมประวัติศาสตร์ 6 ตุลาคม 2519 ฝ่ายซ้ายอีกกลุ่มหนึ่ง ก็

จับมือร่วมกับตัวแทนศักดินา


        ช่วงปีที่ทักษิณก้าวเข้ามาเล่นการเมือง เป็นช่วงที่โลกเริ่มไร้พรมแดน

กระแสโลกาภิวัฒน์พัดพาทุนนิยมโหมไปทั่วทุกภูมิภาคโลก เป็นความ

เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกอีกครั้งหนึ่ง สังคมไทยที่เป็นประเทศสังคม

เปิด  รับกระแสทุนนิยมข้ามชาติไว้เต็มอ้อมแขน ทุกสิ่งทุกอย่างมีราคาซื้อ

ขายได้ นโยบายแปลงสินทรัพย์เป็นทุนทำให้เกิดการรวบหัวรวบหางผูก

ขาด  รัฐวิสาหกิจบางส่วนได้ถูกแปรรูปไปอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่

บางแห่งมีการต่อต้านตอบโต้จากสหภาพแรงงาน  โลกดูเหมือนจะไม่มี

ศรัทธาอื่นใดนอกจากเงินที่ทุนนิยมโปรยหว่าน แต่ความเป็นจริงที่ก่อตัว

เงียบๆจนเติบใหญ่ นั่นคือมีบางที่บางแห่งในโลกได้ปฏิเสธทุนนิยมอย่างสิ้น

เชิง เวเนซูเอล่าและหลายประเทศในละตินอเมริกา ได้ปฏิเสธกระแสโลกา

ภิวัตน์ที่คุกคามดินแดนอย่างไม่ใยดี  รัฐบาลของซาเวชได้ยึดกิจการโรง

กลั่นน้ำมันจากบรรษัทข้ามชาติกลับคืนมาเป็นของรัฐ ยึดกิจการรัฐวิสาหกิจ

ที่ถูกแปรรูปไปแล้วกลับมาเป็นของหลวง โดยไม่แยแสต่อมหาอำนาจ

อเมริกาและอื่นใด  โลกมีทฤษฎีเศรษฐกิจเพียงสองทฤษฎี  นั่นคือถ้าไม่ใช่

ทุนนิยมก็ต้องเป็นสังคมนิยม  ฝ่ายซ้ายทั้งโลกที่ว่ากันว่าสูญสิ้นไปหลัง

โซเวียตแตกและจีนเปิดประเทศ กลับดำรงอยู่ตลอดมาอย่างเข้มแข็ง โดยมี

คิวบาเป็นสังคมนิยมตัวอย่าง และเมื่อพรรคคอมมิวนิสม์นิยมลัทธิเหมาได้รับ

ชัยชนะในสงครามกลางเมืองเนปาล ก็ยิ่งตอกย้ำการมีอยู่ของฝ่ายซ้ายใน

โลกนี้



            การเมืองไทยได้แตกรูปไปเป็นขวาเฉียงซ้าย กับซ้ายทแยงขวา

วรรณกรรมที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาสับสนนี้ จึงส่วนใหญ่เลือกที่จะปิดดวงตา

ข้างหนึ่ง  เพื่อเปิดดวงตาข้างหนึ่งแล้วเข้าร่วมฝ่ายที่ตรงกับอุดมการณ์ตนที่

สุด  ด้วยเงื่อนไขภายใต้วิกฤติการณ์ของสังคมที่กลุ่มริบบิ้นสีขาวไม่อาจ

เปล่งเสียงใดออกมาผิดกาลเทศะได้แล้วนั้น เราต้องเลือกข้าง  เพราะแม้เรา

จะไม่เลือกเราก็ถูกถีบให้ไปอยู่ข้างใดข้างหนึ่งอยู่ดี  และไม่ว่าฝ่ายใดจะ

ชนะ สังคมไทยก็จะมีการเผชิญหน้าสร้างวิกฤติสังคมครั้งใหม่ขึ้นมา ด้วยเรา

ยังไม่เคยปูพื้นฐานมั่นคงแข็งแรงให้แก่ประชาชนในด้านการศึกษา ที่เรา

เรียนวิชาประวัติศาสตร์แล้วยังรู้สึกโกรธแค้นชิงชังพม่า ทั้งที่การเรียนประวัติ

ศาสตร์นั้นเรียนเพื่อรู้อดีต เพื่อการอยู่ร่วมในปัจจุบันและอนาคตอย่างสงบ

สุข แต่เรากลับเรียนเพื่อเจ็บแค้นฝังใจไม่รู้สิ้นไปยังลูกหลาน เราเรียน

ทฤษฎีการเมืองรัฐศาสตร์  เพียงเพื่อเข้าใจการเมืองอย่างผิวเผินในรูปแบบ

โดยไม่เคยเรียนเพื่อรู้ว่าเนื้อหาของการปกครองระบอบนั้นๆเป็นอย่างไร ผู้

ปกครองปฏิบัติต่อประชาชนอย่างไร  อย่างไรจึงเรียกว่าประชาธิปไตย

อย่างไหนเผด็จการ  เราเรียนเราสอนเพียงการวิเคราะห์วาทกรรมจำนวน

หนึ่งเท่านั้นเอง การศึกษาที่อ่อนแอเช่นนี้ ก็จะยังสร้างวิกฤติครั้งใหม่ขึ้นมา

บนความไม่รู้จริง และพร้อมที่จะแห่แหนตามผู้นำไหนก็ได้ ขอเพียงให้มี

วาทกรรมน่าพึงพอใจตน ภาระหนักหน่วงนี้ตกอยู่กับนักเขียน ที่จะต้องสร้าง

ความรู้โดยใช้กลวิธีอันแนบเนียน ภาระอันหนักหนาสาหัสสากรรจ์นี้  นัก

เขียนจึงต้องติดตามข่าวการเมือง เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และสร้างศรัทธาต่อ

การอยู่ร่วมในสังคมขึ้นมาให้ได้





    โลกผ่านวิกฤติการณ์มานับครั้งไม่ถ้วน  สังคมไทยก็เช่นเดียวกัน เราผ่าน

พบแล้วพ้นผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งแล้วครั้งเล่า ว่าไปแล้วมันคือวัตถุดิบ

และข้อมูลที่ดีในการหยิบเอามาเขียน  แต่การสร้างงานภายใต้แรงอัดหนัก

หน่วงนี้  นักเขียนต้องมั่นไว้ให้ได้ในบริบทความเชื่อของตน ในความสับสน

อลหม่านของเหตุการณ์อันซับซ้อนซ่อนเงื่อน นักเขียนต้องดูสถานการณ์ให้

ออก และพึงรำลึกไว้เสมอว่าการเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์  เพราะบาง

ครั้งการทุ่มสุดตัวลงคลุกกับเหตุการณ์นั้น  นักเขียนเองนั่นแหละที่สุดท้าย

จะกลายเป็นหมาหัวเน่า 


อย่าได้ลืมเป็นอันขาด  ว่าบทจบของบ้านทรายทองนั้น  ชายกลางแต่งงานกับพจมาน


ขอบคุณ พิเชฐ แสงทอง  และ  ชามา  ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล               


๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๑


“ปาฐกถาในงานการสร้างสรรค์วรรณกรรมภายใต้วิกฤติสังคมไทย ณ

สถาบันทักษิณคดี สงขลา เมื่อ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๑”


หมายเหตุ- บ้านทรายทอง  นิยายของ  ก.สุรางคนางค์, ปีศาจ นิยายของ

เสนีย์ เสาวพงศ์

Comment #1
Posted @7 ก.ย.51 22.53 ip : 210...93

+)

Comment #2
Posted @10 ก.ย.51 22.29 ip : 118...131

จุดกำเนิดของ พธม. ตามที่เห็นและเข้าใจ  คือการสูญเสียผลประโยชน์ของสนธิ และทักษิณไม่ช่วยเหลือ ซ้ำทักษิณยังคิดที่จะรวบยอดกิจการไปไว้เองด้วย


สนธิก็คือทักษิณ  นั่นคือมีความเหมือนกันอย่างกับเป็นบุคคลเดียวกัน ไม่ยอมตกเป็นรอง จำแม่นและนาน(บ้านผมเรียกว่าอาฆาต) สนธิจึงเล่นในเรื่องการคอรัปชั่นนำร่อง  เพราะทักษิณเหิมเกริมหนัก คิดว่าตนยิ่งใหญ่ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ ถูกจับคอรัปชั่นได้คาหนังคาเขาก็ลอยหน้าถามว่ามึงจะทำไมกู  เช่นนี้จึงก่อเกิดแนวร่วมเพิ่มขึ้น  อีกทั้งความเป็นทักษิณที่มีคนเกลียดชังมากมายพอๆกับที่รัก  จึงง่ายในการเชื้อชวนให้ออกมาต้าน


ประเด็นเรื่องสถาบันนั้น ผมเชื่อว่ามีขั้นตอนของมันจริง แต่ไม่ใช่ทักษิณแน่ที่เป็นคนวางยุทธศาสตร์  เพราะสันดานนายทุนจะไม่มีวันสู้รบกับคนที่เหนือกว่ากับคนที่มีบารมีกว่า  เพราะเกรงธุรกิจของตนจะเสียหายย่อยยับ

ผมจึงมองสงครามครั้งนี้ว่านี่คือการต่อสู้กันของกลุ่มเดิมๆที่เคยต่อสู้มาเมื่อ30ปีก่อน  นี่คือบรรยากาศของ 14 ตุลา โดยแท้  เพียงแต่มันสลับขั้วสลับหาง ตัวละครโยกย้ายวิกเท่านั้นเอง

ในบทความ "การสร้างสรรค์วรรณกรรมในภาวะวิกฤติสังคมไทย"ชิ้นนี้  ผมสอดประเด็นนี้เอาไว้ เพื่อชี้ให้เห็นร่องรอยยุคสมัยที่ตกค้างมา30ปี  เพียงแต่ในปาฐกถาบทความนั้น ผมไม่ได้อ้างถึงขบวนการที่เป็นรูปธรรมของซ้ายเก่า ทรท. เช่นที่ไม่ได้อ้างหนังสือฟ้าเดียวกัน,อ่าน,และอีกมากมายที่ปรากฏเป็นข่าว  รวมไปถึงบทความของ "กาหลิบ"


มีการคาดเดากันว่ากาหลิบคือจักรภพ เพ็ญแข  จริงเท็จเพียงใดไม่รู้  แต่ถ้าใช่  มันก็ยิ่งเห็นร่องรอยบางอย่างในบทความและตัวตนของกาหลิบ

คำของนิตยสาร Vote ว่าบทความนั้นเสมือนกาหลิบตั้งตัวเป็นกุนซือให้ทักษิณ  และแนะให้เล่นการเมืองนอกรูปแบบ โดยพุ่งเป้าไปที่สถาบันโดยตรง  ถ้าใช่จักรภพคนที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า"ผมอยากเห็นสงครามประชาชน" "ผมทนอยู่ร่วมกับศักดินาไม่ได้" ก็จะยิ่งชัดในการมองเห็น


จักรภพเป็นใคร?  นอกจากเคยร่วมรัฐบาลทรท. กับแกนนำ นปก. ครั้งบุกบ้านสี่เสา  มันก็ไม่เคยมีอะไรบ่งบอกมาก่อนว่าคนคนนี้เอียงซ้ายตกขอบ  เมื่อครั้งยังจัดรายการวิทยุก็ยังไม่ปรากฏเค้าของมาร์กซิสม์แต่อย่างใด แถมยังมีลักษณะคุณหนูเต็มเปี่ยมอีกต่างหาก


จึงมีความสงสัยน่าใคร่ครวญ    ว่าเหตุใดหนออยู่ๆจักรภพก็มาซ้ายเอาเฉียบพลัน


จักรภพสายตรงของทักษิณหรือไม่  ผมไม่ทราบ  เป็นสายตรงของจาตุรนต์,ภูมิธรรม,อดิศร,สุรชัยหรือไม่ก็ไม่ทราบ  แต่การเคลื่อนไหวในนาม นปก. ครั้งนั้น    นปก.ที่เดินเกมแรงที่นำโดยหมอเหวง,สุรชัย ก็น่าจะทำให้เชื่อในสายสัมพันธ์อันดีต่อกลุ่มซ้ายเก่าใน ทรท.เดิม

การที่จู่ๆคุณหนูคนหนึ่ง  ที่มีชีวิตสุขสบายกรีดกรายอรชรในวงสังคมจะหันหัวมาซ้ายนั้น  ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นง่ายนัก  และถ้าอยู่ในก๊วนทุนของ ทรท. ก็น่าจะไม่มีทางที่จะซ้ายได้อย่างตกขอบเช่นนี้    ทรท.หรือ พปช. นั้นมี 2 กลุ่มคือซ้ายกับทุนรวมกัน  การแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่างนี้เป็นไปเพื่ออะไรบางประการ

กลุ่มทุนต้องการอะไร?  เปลี่ยนแปลงการปกครองไปสู่รีพับลิก? อันนี้ความเป็นไปได้เท่ากับศูนย์  ล้มสถาบันเพื่อให้ตนขึ้นมาแทน? อาจเป็นไปได้ แต่เมื่อคำนึงถึงเหตุผลและกำลังของทุนใหญ่ในสังคมไทยตอนนี้  ก็ต้องตอบว่าแม้จะปรารถนาเพียงไร แต่ทุนก็ไม่กล้าที่ขัดแย้งโดยสิ้นเชิง ด้วยเพราะมันอาจทำให้ธุรกิจของตนย่อยยับลงไปเปล่าๆปลี้ๆ  แม้การปรากฏตัวของชนชั้นทุนเบื้องหน้าศักดินาตามที่เอ่ยถึงบ้านทรายทองและการปฏิวัติอุตสาหกรรมไปแล้วก็ตาม  แต่สังคมไทยตอนนี้ก็ยังไม่พร้อมที่จะเห็นลักษณภาพนั้น  การโหมหักเอาดื้อๆก็มีแต่จะพ่ายแพ้เจ็บปวด  เพราะศักดินาสำแดงพลังให้เห็นแล้วเมื่อกันยาปี50  ที่เสื้อเหลืองพรึบทั้งประเทศ

และโดยธรรมชาติแล้ว  ทุนจะไม่มีวันเป็นซ้ายได้เลย 


ดังนั้นการที่จักรภพจู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่าเป็นซ้ายดีกว่านี้  จึงต้องมองไปที่ซ้ายเก่าใน ทรท.


ตรงนี้ก็ต้องให้ไปหาหนังสือ "คนตุลาตายแล้ว" ที่ แคน สาลิกา เขียนไว้  มันจะเปิดโฉมหน้าคนตุลาที่มีบทบาทหลักๆในสงครามการเมืองครั้งนี้ออกมาทีละคน อย่างเห็นได้ชัดกระทั่งรอยสิวหรือตีนกา


การตัดสินใจที่จะเลือกข้างของคนในสังคมขณะนี้  มันมีทั้งแบบง่ายๆ  มองเห็นว่ารักใครชอบใครก็เลือกฝั่ง  กับอีกอย่างที่คิดแล้วคิดอีก  ชั่งตวงดูแล้วอย่างละเอียดถี่ถ้วนจึงเลือกข้าง


ฝั่ง พธม. นั้นชัดเจนยิ่ง  ว่าตอนนี้อาศัยสีเหลืองระดมกำลัง    ด้วยเรี่ยวแรงของ ทรท.หรือพปช.นั้นมากมายเกินที่คะเนเอาไว้  ข้อมูลด้านลึกที่เป็นจุดอ่อนถูกนำมาเผยแพร่และแนะยุให้มีคนที่กล้าพูดออกมาพูด เช่น ดา ตอร์ปิโด  สาวก นปก. ได้รับการไซโคแนวคิดมาร์กซ์มา    โดยเฉพาะเรื่องที่ดิน  ที่จะช่วงชิงที่ดินผืนมหึมาไพศาลอันกระจัดกระจายไปทุกหย่อมหญ้า  ให้มาเป็นของประชาชน  โดยมีความเชื่อมั่นว่ามันจะถูกผ่องถ่ายมายังประชาชนจริงๆ  ไม่ใช่การดึงจากปากคนหนึ่งมาป้อนอีกคนหนึ่ง  พธม.จึงได้ทีในการระดมกำลัง ทุนทรัพย์และจิตใจ


อย่างที่กล่าวไว้  ทุนไม่มีวันที่จะสู้รบกับคนที่เหนือกว่า ด้วยห่วงใยในธุรกิจและทรัพย์สินของตน แต่เมื่อร่วมลงเรือลำเดียวกัน โดยอาศัยความเป็นคนตุลาสร้างภาพพรรคให้ดูดีกว่าพรรคการเมืองอื่น  ทุนที่มีวิธีคิดเพียงกำไรจึงไม่อาจสลัดตนให้หลุดจากยุทธศาสตร์อันล้ำลึกทางการเมืองของคนเดือนตุลากลุ่มนั้นได้  จึงได้แต่ติ๊ดชึ่ง  และป่าวร้องถึงความจงรักภักดีไปวันๆเพื่อพยายามฟ้องประชาชน  ว่าตนยังมีจิตใจจงรักภักดีไม่เสื่อมคลาย





เมื่อเราล้วนต้องอยู่ในการเลือกข้างโดยปฏิเสธไม่ได้  ดังนั้นอะไรล่ะที่เราจะชั่งตวงเพื่อเลือก?





ผมมีคำตอบของผม  ผมจึงเลือกที่จะยืนอยู่ข้าง พธม. แต่เป็นการเลือกข้างโดยยืนยันว่าไม่ได้เห็นด้วยไปหมดทุกเรื่อง  ผมเพียงปิดตาข้างหนึ่งปิดหูข้างหนึ่งเข้าร่วม  เพราะสิ่งที่ซ้ายเก่าใน ทรท.เดิมกำลังดำเนินงานนั้น  ผมเชื่อว่ามันเป็นการเร่งสถานการณ์ให้สุกงอมเร็วเกินไป สังคมไทยยังรับไม่ได้ และจะนำมาซึ่งการแตกแยกในสังคมอย่างรุนแรง  อย่างรุนแรงเพราะนี่คือสิ่งที่สถาบันกษัตรย์กำลังโดนเขย่าครั้งใหญ่หลวงที่สุด  ผมอาจเป็นพวกทร็อตสกี้ในสายตาซ้าย ทรท.  แต่ผมเชื่อว่ายังดีกว่าพวกสตาลินมากมายนัก

Comment #3
Posted @10 ก.ย.51 22.32 ip : 118...131

อย่างที่กล่าวไว้ การมาถึงของทักษิณเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ย้ำอีกครั้งว่าในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าทักษิณจะเลวหรือดี แต่ทักษิณสร้างความสั่นสะเทือนระดับ 9 ริกเตอร์ได้อย่างน่าสนใจยิ่ง ด้วยอำนาจเงินที่มีมาล้นฟ้า ชนิดที่ใช้วันละล้านก็ยังไม่หมด และทุนนิยมที่โลกกำลังสำเริงสำราญอยู่ ก็กระตุ้นให้คนมีเงินคิดที่จะครอบครองอะไรๆเอาไว้เพียงลำพัง โดยเฉพาะทรัพยากร ซึ่งมันก็คือ "ที่ดิน" นั่นเอง ที่ดินอันมีอะไรๆมากมายกลบฝังอยู่ ที่ดินที่เป็นทั้งเนื้อดิน,เนื้อน้ำ,เนื้ออากาศ ที่สามารถฉวยจับมันมาทำธุรกิจได้

ไทยเป็นสังคมประชาธิปไตยครึ่งใบ มาแต่ครั้งเคลื่อนผ่านเข้า 24 มิถุนา 2475 ก็มีการแบ่งสันปันส่วนที่ดินออกมาให้ประชากร จะแบ่งอย่างไรนั้นยังไม่ได้ทำการศึกษา จึงไม่ขอพูดถึงก่อน กว่ากระแสชนชั้นกลางนายทุนใหม่จะมาถึงสังคมไทย เราก็ล่าช้ากว่าตะวันตกไปมากโข บทความข้างต้นจึงจับสังเกตุเอาจากนิยายเรี่องบ้านทรายทองมาเป็นแกน ด้วย ก.สุรางคนางก์เขียนเรื่องนี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 เป็นช่วงที่สังคมไทยถูกเขย่าอย่างรุนแรงครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะสถาบันกษัตริย์

แต่สังคมไทยก็ยังผูกพันกับสถาบันกษัตริย์อย่างแน่นแฟ้น การปฏิวัติเมื่อ 2475 จึงไม่กล้าพอที่จะล้มล้างออกไปจากสังคม เพียงแต่ลิดทอนอำนาจกษัตริย์ให้จำกัดวงแคบเข้ามา

การมาถึงของทักษิณ คือการมาถึงของชนชั้นกลางนายทุนใหม่อย่างแท้จริง หลังจากที่ผ่านยุคผู้ครองนครรัฐ ยุคขุนศึก ยุคพลเรือนที่ยังไงก็อิงอยู่กับขุนศึก ทักษิณมาถึงพร้อมด้วยเงินเท่านั้น เริ่มต้นด้วยการร่วมกับฝ่ายซ้ายเก่าที่เคยเข้าป่า  สร้างเป็นพรรคไทยรักไทย (ไม่นับเมื่อครั้งที่ทักษิณเข้าร่วมพรรคพลังธรรม) นโยบายประชานิยมได้รับความสนใจล้นหลาม เช่นเดียวกับเสียงคัดค้านต่อต้านรุนแรง นโยบายดึงอบายมุกทั้งมวลให้ถูกกฏหมาย ได้รับการสนับสนุนเต็มที่ เช่นเดียวกับการทักท้วงดุเดือด นโยบายของ ทรท. ช่วงนี้ล้วนแล้วหมิ่นเหม่ต่อการตัดสินใจในด้านจริยธรรม ผมไม่อาจตอบได้ว่าถูกหรือผิด ดีหรือเลว นโยบายเช่นที่กล่าวนี้ มันคือนโยบายที่ปอกเปลือกตัวตนของคนในสังคมออกมาล่อนจ้อน ใครที่รู้ทันก็รีบคว้าอาภรณ์มาปกปิด ไม่ก็ยอมรับโดยดีถึงจิตด้านมืดของคน และเชื่อว่าหากทำให้มันถูกกฏหมาย การควบคุมก็น่าจะได้ผลเป็นรูปธรรมมากกว่า

สังคมเริ่มขัดแย้ง มหาจำลองนำคนกลุ่มหนึ่งเดินขบวนท้วงติงคัดค้านการเข้าตลาดหุ้นของเบียร์ช้าง โดยอ้างระหว่างเงินกับคุณธรรมที่สังคมควรมี เสียงตอบโต้กลับมาว่าไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วคนไทยไม่เมาหรือ นโยบายของเบียร์ช้างเช่นนี้ สอดคล้องกับนโยบายหวยบนดิน,กาสิโน และอะไรต่อมิอะไรที่รัฐบาลทักษิณนำเสนอ เค้าลางแห่งความคิดแตกต่างเริ่มก่อหวอด

ต่อมามีการนำเสนอถึงเรื่องที่ดินที่ปล่อยรกร้างว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ รัฐบาลจะจัดสรรใหม่เพื่อให้คนยากจนครอบครองทำกิน นโยบายนี้ได้รับเสียงตอบรับสูงจากคนจน มีการเปิดโปงถึงผู้ถือหุ้นบางราย มีการแฉว่าธุรกิจอะไรบ้างที่มีใครบางคนทำมาหากินล่ำสันโดยไม่เสียภาษี และอีกมากมายในนิตยสารฟ้าเดียวกัน

องค์กรหนึ่งถูกกระทบอย่างรุนแรง  และเป็นส่วนหนึ่งที่ พธม. นำมาเสนอให้ประชาชนได้รับรู้ ต่อมาพธม.แฉขบวนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างต่อเนื่อง นับแต่กรณีทักษิณใช้วัดพระแก้วกระทำพิธีทางศาสนาโดยสวมใส่ชุดลำลอง และเริ่มรุนแรงขึ้นกรณีมีคนไม่ยืนถวายความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงหนัง หนักหน่วงสุดก็กรณี ดา ตอร์ปิโด

นี่เองที่ทำให้เกิดความไข้เขวและมึนงงของคนในสังคม มีมากมายที่เชื่อว่าศึกครั้งนี้คือศึกระหว่างสนธิกับทักษิณ ทักษิณพยายามพร่ำบอกฟ้องกล่าวแก่สังคมว่าตนมีความจงรักภักดีอยู่เสมอมา แต่ดูเหมือนจะไม่ได้รับการเชื่อถือจากสังคมสักเท่าไร การตกกระไดพลอยโจนครั้งนี้ ทักษิณจึงกลายเป็นเพียงตัวตลกหนึ่ง ด้วยความเหิมเกริมในอำนาจเงินที่ตนมี การคอรัปชั่นต่างๆที่ถูกจับได้ ทำให้ทักษิณลอยหน้าลอยตาและเถียงอยู่เสมอ จุดนี้ทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อแน่ว่าเขาคือผู้ร้ายที่วางยุทธศาสตร์ต่างๆทางการเมืองเอาไว้ เพื่อผลลัพท์บางอย่าง ผลลัพท์ที่เกิดขึ้นมาด้วยข่าวลือว่าเขากำลังตั้งราชวงศ์ใหม่ โดยลืมมองจิตใจนายทุนที่แท้ ว่านายทุนนักธุรกิจจะไม่สู้รบปรบมือกับผู้ที่เหนือกว่าตนเด็ดขาด ด้วยความห่วงใยในทรัพย์สินสมบัติและธุรกิจของตน

เบื้องต้นได้เอ่ยถึงยุคนครรัฐ ที่ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวผ่องถ่ายมาเป็นยุคประชาธิปไตยแบบขุนศึก-ศักดินา จนปัจจุบันนี้เราผ่านห้วงเวลานั้นมานานเท่าไหร่? 76 ปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง 76ปีที่เด้กแรกเกิดคนนั้นกลายเป็นผู้เฒ่าชรา เราทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งแตกต่างกันมากี่ครั้ง และแต่ละครั้งรุนแรงถึงเลือดเนื้อกันมากน้อยเพียงไร การเปลี่ยนมือผู้ปกครองศักดินามาเป็นขุนศึกสลับสับเปลี่ยนกับขุนนาง แม้สมัยนายบรรหาร.นายชวนจะเป็นนายกรัฐมนตรีพลเรือนก็จริง แต่ด้วยวิธีคิดก็ไม่ได้ต่างอันใดเลยกับข้าราชการ  ทำให้เราคาดหวังว่าสักวันหนึ่ง เราจะมีผู้ปกครองที่มาจากประชาชนของเราเอง แม้ภาพทักษิณที่ควงคู่มากับคนเดือนตุลาจะพยายามทฉายภาพนั้นให้เห็น แต่นายทุนก็ยังคือนายทุน วิธีคิดจึงเป็นไปแบบทุน ที่กำไรสูงสุดโดยลงทุนต่ำสุด และมือใครยาวสาวได้สาวเอาอยู่ดี  โดยเห็นได้จากการพยายามผสมผสานแนวคิดสังคมนิยมในทางเศรษฐกิจออกมาเป็นประชานิยม

Comment #4
Posted @11 ก.ย.51 21.29 ip : 202...155

ยาวนิ... อ่านข้างหลังก็เกือบลืมข้างหน้าไปแล้ว  แต่ก็พอสรุปใจความได้....

อยากให้นักเขียน นำเสนอบทความในเชิงวิเคราะห์เช่นนี้ ต่อสังคมให้มากๆ  ผมเชื่อว่ายังมีคนอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งในฝั่ง ของ พธม. และ นปก. กำลังก้าวไปข้างหน้าด้วยความลังเลใจ และหวาดหวั่น  ไม่สามารถแสดงจุดยืนที่แท้จริงของตนเองได้  เพราะว่ามันมีทางเลือกให้เลือกแค่สองข้าง  ถึงจะไม่อยากเลือก ก็จะได้รับการเลือกให้โดยอัตโนมัติ.......หวังว่าเมื่อ พวกเขาได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและไม่เอนเอียง มีการคิด การวิเคราะห์อย่างเป็นหลักเกณฑ์และมีเหตุผลแล้ว ก็น่าจะเชื่อได้ว่าการตัดสินใจของพวกเขาในอนาคตย่อม จะอยู่บนพื้นฐานของความเที่ยงธรรมและเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม  อย่างแท้จริง.....ไม่ถูกชี้นำอย่างไร้เหตุผล  และไม่ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด


ลุงหมี่  ช่วยเล่าเรื่องของ นายฮูโก  ชาเวซ  ให้ฟังหน่อยครับ  มีอะไรน่าสนใจบ้างเกี่ยวกับคนคนนี้

ปล.ขอหมี่น้ำมาแกล้มสักชามก็ดีไม่น้อย  :d

Comment #5
ปรางแก้ว (Not Member)
Posted @5 พ.ย.51 21.51 ip : 58...84

พี่หมี่ , ปรางยืมไปใช้คิดเขียนพูดเป็นอังกฤษพรุ่งนี้หน่อยนะ นิดนุงๆ .

Comment #6
ปรางแก้ว (Not Member)
Posted @5 พ.ย.51 21.56 ip : 58...84

หมัน .

Comment #7
Posted @6 พ.ย.51 7.42 ip : 118...183

น้าปภพครับ-

ผมไม่ค่อยรู้เรื่องซาเวชสักเท่าไหร่หรอก  แต่รับรู้ว่าแกแข็งข้อต่ออเมริกาอย่างยิ่ง

นโยบายเศรษฐกิจสังคมนิยม  และมีคิวบาเป็นสังคมนิยมตัวอย่าง  ฮือฮาอย่างยิ่ง

เมื่อแกรวบยึดโรงกลั่นน้ำมันเอกชนบรรษัทข้ามชาติมาเป็นของรัฐ  ทำให้เมกาเป็น

ฟืนเป็นไฟ และพยายามโค่นล้มแกลงไปให้ได้


ในส่วนสังคมไทยนั้น  ผมคิดว่าเราต้องปฏิวัติการศึกษาใหม่หมด  เราอาจไม่ทัน

ทัศนะการเมือง-สังคมที่ดีงาม  แต่ลูกหลานเราจะเห็นมัน และจะสร้างมันขึ้นมาเอง

การเมืองใหม่จะเกิดขึ้นเองโดยไม่มีความรุนแรง และพฤติกรรมอย่างของรัฐบาล,

นปช. ก็จะหมดสิ้นไปจากสำนึกการเมือง


ปราง-

ก็เอาไปใช้อย่างมีวิจารณญาณละกัน  แต่อยากให้คิดเองมากกว่า  อย่างน้อิย

ต่อยอดหรือวิจารณ์บทความไปด้วย

Comment #8
ปรางแก้ว (Not Member)
Posted @6 พ.ย.51 19.54 ip : 58...245

จารย์ไม่มา

ไม่มีเรียบ แฟ้บกันไป .

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 45 user(s)

User count is 2474554 person(s) and 10473318 hit(s) since 31 ธ.ค. 2567 , Total 550 member(s).