กลับบ้าน
๑).
ดึกนี้ลูกหนาวแท้-แม่จ๋า
มองฝ่าทางไหนก็ไม่เห็น
ฝนม่านซ่านฟองละอองเย็น
ลมพัดกระทบเต้นกระเซ็นละออง
มากระทบกระจกเต้นอยู่เป็นเม็ด
เต้นเสร็จก็แตกพรายแล้ววายฟ่อง
บานเกล็ดสะท้อนเงา-ลูกเฝ้ามอง
ตาสบตาตนจ้องเต็มสองตา
นี่หรือลูกชายแม่-ขี้แยจริง
ขี้แยยิ่งลูกแหง่เชียวแม่จ๋า
ชีวิตอันดายเดียวลูกเยียวยา
สุดแต่เอื้อมมือคว้าได้ยาใด
นอกหน้าต่างบานเกล็ด-ฝนตกหนัก
ลูกรักของแม่เฝ้าแงไห้
คิดถึงบ้าน ชานระเบียง ตะเกียงไฟ
ที่จากไกลแสนนาน-ตราบป่านนี้
๒).
สะพายความทุกข์ยากมาจากบ้าน
ข้ามสะพานความหวังมาต่างที่
หลายฤดูฝนผ่านนับนานปี
แต่สักกี่หนฤดู-มิรู้นับ
หากดวงตาซื่อใสแห่งวัยเยาว์
ได้เข้มเงาเหงางำตามลำดับ
หากดวงใจไร้เดียงสาดวงอาภัพ
การณ์กลับขมเข้มจนเต็มดวง
เป็นเพียงนกพลัดคอน-ลูกจรมา
ตะเกียกตะกายว่ายฟ้ามหาห้วง
พลัดฝูงหลงทางจากรังรวง
เหน็ดหน่วงเหนื่อยเหนี่ยวอยู่เดียวดาย
ใช้ชีวิตเท่าที่ชีวิตมี
ตราตีคุณค่าราคาขาย
มิตายก็มิต่างจากการตาย
สุดท้ายความขื่นช้ำ-ลูกสำลัก
ลูกร้องไห้อยู่เสมอ-แม่จ๋า
โหยหาอุ่นอกเคยปกปัก
อกแม่เคยอุ้มเคยฟูมฟัก
ตักหอมถนอมรักมานักแล้ว
๓).
เมื่อสะพานแห่งหวังได้พังทลาย
ก็สูญหายพรายค่าศรัทธาแก้ว
ลูกตากฝนนับย่างตามทางแนว
คิดถึงแถวถิ่นบ้าน-โอนานแล้วกระมัง?
นอกหน้าต่างบานเกล็ด-ฝนตกหนัก
เมื่อลูกรักนี้ใช่เป็นไอ้งั่ง
จะมิให้ซากช้ำสิ้นกำลัง
เหลือเซ่นความบ้าคลั่งเลยสังคม
คิดถึงบ้าน-คิดถึงแม่
ยาเยียวแผลแสนหมื่นก็ขื่นขม
เอออกนกพลัดคอนที่นอนซม
จะทวนลมระหกเพระเหพัด
จะกอบเก็บเศษซากจากนรก
ไปบ่งอกพุพองที่หนองกลัด
ขอเพียงพรุ่งรุ่งรางสว่างชัด
ลูกที่พลัดหลงเรือน-จะเยือนคืน
.
ดอกเบี้ยการเมือง ๒๑-๒๗ กรกฎาคม ๒๕๓๙