รักของคนทุกข์
๑).
อกเอ๋ยมิเคยหวั่น
ก็มาพรั่นระรัวรัว
จิตเอ๋ยมิเคยกลัว
ก็ตบะจะแตกร้าว
ขื่นเข็ญ ฤ เป็นทุกข์
ยังคือมุกวะวาววาว
คืนมืดจะยืดยาว
ยังรู้ดาวพระพราวพราย
ฟ้าหม่นยังทนฝ่า
ฤ ฝนกล้าสยายสาย
ลมโบยชะโชยชาย
ต่อลมร้ายระลอกแรง
น้ำท่วมจะเทียมฟ้า
ฤ น้ำท่าจะแล้งแหล่ง
แดดแดงตะแลงแกง
ตะพายแล่ง-ตะแคงรับ
คลุกฝุ่นยังคุ้นกลิ่น
ซบแนบดินไปจนหลับ
ทุกข์โหมที่โถมทับ
ท้ากัปกัลป์อนันต์กาล
๒).
โออกทุกกระบิ
จะแตกปริก็มิปาน
ลนลานละลนลาน
กระวนกายกระวายใจ
จมทุกข์จนมิท้อ
ยังกล้าพอเริ่มต้นใหม่
หวานชื่นสิขื่นใจ
มิกล้าใกล้มิกล้าพบ
เพียงลมพรมพลิ้วแผ่ว
พลันดอกแก้วร่วงเป็นศพ
ดื่มรักจากทำนบ
กระอักรักสำลักซึ้ง
๓).
อกเอ๋ยมิเคยหวั่น
สิมาหวั่นสะพรั่นพรึง
งูใหญ่ซ่อนในบึง
ใบบัวบัง ฤ อย่างไร
เพียงลมพรมพลิ้วแผ่ว
พลันดอกแก้วสะดุ้งไหว
รัวรัวในหัวใจ
มิกล้าใกล้-มิกล้ารัก!!
กุลสตรี ปักษ์หลัง ฉบับที่ ๕๕๙ เมษายน ๒๕๓๗