เพลงคลื่นบนผืนแพร
๑).
โอ-เสียงคลื่นระงมเสียงลมระริน
แผ่วยินเสียงแล้วก็แว่วว่า
แม่กำลังคอยรับการกลับมา
ของดวงตาบอบช้ำยอมจำนน
คุ้นกลิ่นคาวน้ำเค็มที่เล็มฝั่ง
คุ้นกระทั่งเสียงไหวของใบสน
ลูกของแม่คนหนึ่งก็ซึ้งจน
ต้องมาเดินเลียบถนนอยู่คนเดียว
คนเดียวในดึกที่พรึกพยับ
เดินนับจำนวนก้าวอยู่เปล่าเปลี่ยว
ฟังแม่กล่อมเลี้ยงด้วยเสียงเกลียว
อันเคยเกรียวเกลียวหอมมากล่อมเกลา
อ่อนโยนเหลือเกินครับแม่ครับ
ดั่งสดับสรรพรสเพลงบทเก่า
แสงไฟจากเสาไฟก็ไล่เงา
ยิ่งความเหงาทอดยาวอีกเท่าตัว
๒).
ทอดเท้าบนผืนทราย-ชายหาด
แม่ก็กวาดหาดเลียบจนเรียบทั่ว
ให้เนียนทรายพรายเพรานั้นพราวตัว
รองเท้าคนสุดขั้วโศกหัวใจ
แม่เกลี่ยเนียนทรายเสียพรายแพร
ให้เหลือเพียงทรายแท้ต่างแพรไหม
ย่ำเถิดลูกเท้าเนื้อกรังเหงื่อไคล
เท้าเปื้อนใดดำด่างจงล้างเท้า
ด้วยละอองฟองคลื่นสาดผืนแพร
คือมือแม่เฝ้าเกลี่ยแล้วเกลี่ยเล่า
รสสัมผัสอุ่นไอแห่งวัยเยาว์
ก็โชยเร้าสำนึกคืนพรึกพราย
ดาวเอยเคยพราวฟ้ามหาศาล
ตระการดารดาษจนฉาดฉาย
เปลือกหอยหลากเปลือกแทรกเสือกทราย
มือเคยร้อยสร้อยสายเปลือกลายพร้อย
ราวว่าเพียงกระจิบกะพริบตา
เปลือกหอยชราคาสร้อย
ฟ้าพราวดาวพร่างก็ร้างรอย
เหลือน้อยดวงวับที่จับฟ้า
แสงไฟจากเสาส่องอยู่รองเรือง
แสงเมืองกลบดาวจนพราวพร่า
กลบสิ้นสรรพแสงแห่งแสงตา
อันทุเรศเวทนาคณานับ!
๓).
อ่อนโยนเหลือเกินครับแม่
เพลงคลื่นบนผืนแพรที่แม่ขับ
กล่อมดวงใจเหนื่อยแค้นที่แน่นคับ
ใต้พยับดาวดึกหนึ่งพรึกพราย
คุ้นกลิ่นคาวน้ำเค็มที่เล็มฝั่ง
คุ้นกระทั่งเสียงระงมแห่งลมหนาว
เท้าลูกมีแผลเป็น-มันเหม็นคาว
ถึงคราวล้างให้สิ้นซึ่งกลิ่นเมือง!