ชายง่อยกับเด็กน้อย
๑).
ท่องโลกโยกเฟืองไปเบื้องหน้า
ดวงตาเข้มแข็งแกร่งกร้าน
เงียบนิ่งราวรูปสลักดักดาน
บนอานบนเบาะเฉพาะตน
เพียงมือขวาซ้ายที่ไหวสั่น
กลฟันเฟืองรถก็บดถนน
ช้าช้าคืบเลื่อนล้อเคลื่อนจน
ผ่านต้นมะขามหวานหน้าบ้านนี้
เด็กน้อยกำลังนั่งเล่น
ลมเย็นโชยพลิ้วมาหวิววี่
โลกทั้งโลกสดใสอยู่ในที
โลกสีลูกโป่งใบโป่งพอง
ผูกปลายด้ายถือข้อมือตน
ซุกซนลูกโป่งน้อยจะลอยล่อง
เด็กนั่งนิ่งแล้วเอนเขม้นมอง
เป็นเจ้าของลูกโป่งโลกทั้งใบ
ลมพัดโยกซ้ายแล้วย้ายขวา
ระบัดไหวไปมาอยู่ไหวไหว
เด็กน้อยหัวเราะชอบใจ
กระโดดเต้นทันใดก็ทันที
เชือกคลายจากข้อน้อยแล้วลอยหลุด
ลอยสุดเชือกสายคลายหนี
ตกใจไห้โฮมือโบกวี
โชคดีกิ่งขามช่วยค้ำไว้
๒).
ช้าช้าคืบเลื่อนล้อเคลื่อนจน
ผ่านต้นมะขามหวานกิ่งก้านใหญ่
เห็นเด็กตกอกก็ตกใจ
รีบเลื่อนเคลื่อนใกล้ถามไถ่พลัน
เห็นเชือกด้ายปลายสุดนั้นหยุดอยู่
กิ่งคู้คลุมครอบเป็นขอบกั้น
ร่มขามปกแต่งปิดแสงวัน
กัดฟันเอื้อมฉุดจนสุดมือ
ยื่นให้เด็กน้อยชายง่อยหนอ
ผูกช่อปลายเชือกให้เด็กถือ
ปลอบเด็กผู้ตกใจไห้ฮือ
ถามชื่อถามแหล่งบ้านแห่งใด
ตบหัวเด็กเบาเบาแล้วกล่าวลา
ดวงตาเข้มขลับช่างวับใส
ลมพัดพรูพรำมะขามไม้
ชายง่อยโยกเฟืองไปเบื้องหน้าแล้ว