Contents
ความงามอันหวานเศร้าในม่านหมอกขาว แสงดาวมิแตะต้องสวยสายแดดส่อง สีทองแสนหวานม่านหมอกแห่งนั้น คล้ายฝันวันวานล่วงแล้วเลยผ่าน เหมือนการจากไป ฉันกระซิบเธอ ผ่านลมฤดูฝนซากดอกไม้หล่น ฉันยังเก็บไว้ความหอมนั้นซึ้งตราตรึงกินใจเกินกว่าข้างใน จะกลั้นน้ำตา ฉันกระซิบเธอ ผ่านลมฤดูฝนดอกไม้งา
ฉัน -หญิงสาวผู้ไม่มีกลิ่นหอมประจำกายทุรนทุราย เช้าค่ำปรารถนากลิ่นหอมรสประจำเพื่อโชยกลิ่นลำนำ เพื่อจำได้ !เธอว่า -กลิ่นบางจางหอมให้หวั่นไหวกลิ่นเย้ารู้สึกกระตุกใจจึงไหวหวั่นกลิ่นนวลหอมไกลระหว่างวันกลิ่นหวานคืนนั้น , มิใช่เธอกลิ่นใด กลิ่นใด คำตอบกลิ่นให้เธอชอบ เช่นไหน , โปรดเสนอกลิ่นรักค
อิฐเก่า เงากาลแสงของวันแต่งสาดวาดเงาอิฐเรียงเป็นชั้นซ้อนชิดอยู่เบื้องหน้าล้วนด่างรอยเปื้อนดำธรรมดาปรากฏแก่สายตาผู้พบพานเป็นอิฐเก่า วัดเก่า ในกรุงเก่าล้วนเรื่องราวเรื่องเล่าโบราณสถานหลากภาพพร้อยรอยแผลและตำนานผ่านอดีตกาลมาชี้แจงเป็นภาพพร้อยรอยผ่านของความรักซึ่งสลักเสลาในอิฐแกร่งและเป็นค
วัจนกรรมกวีปาริชาต : ตัวตนคนของเรา1โอ---มศว.สงขลารังสรรค์ค่าสังคมอุดมศิลป์ปาริชาตเบ่งบานตระการจินต์สืบศักดิ์ศรีแผ่นดินระบิลนามหลากศิษย์เก่าเหล่ากวี ที่สรรค์สร้างเป็นแบบอย่างผู้คนอันล้นหลามเกียรติยศมั่นคงบ่งนิยามสง่างามเอกลักษณ์ประจักษ์ใจ2ใน ยงานวัจนกรรมกวีฯยหลากชีวีผู้คนจนขวักไขว่ข
1.หยาดน้ำค้างแห่งเช้าสายลมหยอกเย้าเจ้าไหวแดดฉายประกายเรืองไรสะท้อนในวอมวาวเจ้านั้น ยิ่งลมกระเซ้ากระซิกใบพฤกษ์พลันพลิกไหวสั่นเจ้าหยาดเจ้าหยดลงพลันลดหลั่นที่เกาะที่กุม แตะแต้มตรงนั้นตรงนี้จนพร่างประกายพฤกษ์พุ่มชื่นหอมละอองคลี่คลุมเจ้าทำข้าลุ่มหลง "เช้า" 2.ไม่ว่าย่างไปทางไหน
ควายขบถจะทูนเทิดเชิดชูกูทำไมสูหว่านไถกลางไอแดดร้อนแผดเผายังอุตส่าห์พากูออกจากคอกเล้ามาลุยโคลนเหม็นเน่าเช้าจนเย็นจะทูนเทิดเชิดชูกูทำไมกูขัดขืนอย่างไรสูไม่เห็นสูได้แต่เอาแส้ฟาดบาดเนื้อเอ็นที่กูอยู่เพราะจำเป็น-ไม่เห็นทางจะทูนเทิดเชิดชูกูทำไมมิทันไรคมมีดก็กรีดร่างสูแทงคอจนเลือดนองกูร้องครา
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดขอบคุณครับน้าน้องเอ้ได้รับพัสดุแล้วดีใจ๊ดีใจพอดีให้ส่งไปบ้านแม่แม่ถามว่าใครส่งมาน่ะกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดปวีซีไรท์ไงหม่าม๊ากวีซีไรท์ส่งของมาให้น้องเอ้เชียวนาคุยไปได้อีกหลายปีเลยล่ะน้า 555ขอบคุณคร๊าบบบบบบบบบบบรับรองได้ผมต้องจัดการมันให้เสร็จก่อน"ณ ที่นี้มีดา
โปรดอย่าร้องไห้ ในความเหงานั้น พระจันทร์อ่อนหวานทอดแสงแตะม่าน นิ่มนวลพลิ้วไหวหน้าต่างเงียบเชียบ ปล่อยลมล่องไล้หอบกลิ่นดอกไม้ จากทุ่งเงียบงัน สัมผัสความเหงา บางเบาลึกซึ้งชั่วขณะหนึ่งดวงตาไหวสั่นขมปร่าเพียงใด อ่อนหวานเพียงกันเพลงในพระจันทร์ กังวานในใจ ฉันกระซิบเธอ ผ่
ทรยศส่ำสัตว์อาศัย อยู่ในผืนป่าพืชพรรณนานา หลายหลากมากมีเจ้ากา เจ้าเหยี่ยว โฉบเฉี่ยวเสรีมอบมิตรไมตรีแก่กันเนิ่นนานยพรึบพรับ พรึบพรับย ขยับปีกต้านพลิ้วลมพรมผ่าน แดดกร้านรานเนื้อหากินบินคู่ หาอยู่จุนเจือมากน้อยเอื้อเฟื้อ แบ่ง
กระพือลมพรมผ่านม่านเม็ดฝุ่นขณะอรุณหมุนคว้างกลางแก้วน้ำยับแยกแหลกย่อยในถ้อยคำพรูพรำฝนดาบหอกตอกเนื้อใจ ขณะเราเฝ้ามองสองฟากฝั่งขุ่นโคลนคลั่งอึดอัดซัดไหลลมหวีดหวิวผิวปากแล้วจากไปโยกดอกใบไหววูบลงจูบดิน คนหว่านแหแซ่เสียง,ฟ้าเปรี้ยงปร้างท่ามกลางเสียงหดหู่มิรู้สิ้นเขาปวดร้าวเท่าใดใครแว่วยินขว