มี ก อ ง วั ส ดุ บ น ไ ห ล่ ท า ง

by หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก @5 ต.ค.51 20.40 ( IP : 118...18 ) | Tags : บทสัมภาษณ์

มีกองวัสดุบนไหล่ทาง ๑).

บนระเบียงบ้านชั้นสองเป็นสถานที่ที่ผมมักยืนมองความเป็นไปที่เกิดขึ้นบน

ถนนสายหน้าบ้าน มันเป็นโลกส่วนตัวที่ผมหวงแหนยิ่ง ทุกเช้าในยามที่แดดตะวันออก

ส่องมาต้องบังตา ผมเคยเห็นพี่เทพในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวรีดเรียบกลีบโง้งผูกไทสี

สด  ยิ้มน้อยๆทะนุถนอมให้กับรถยนต์ยุโรปคันหรูสวยสีดำสนิท  หลังจากสูญเสียรถ

คันแรกไปในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งก่อน แกจะเดินวนรอบๆเอามือลูบเบาๆไปตาม

ตัวถัง ก่อนขึ้นนั่งติดเครื่องยนต์ แล้วรถยุโรปราคาแพงก็จะเคลื่อนล้อออกไปอย่างสง่า

งาม อ้อยอิ่งและทระนง นั่นคือภาพพี่เทพก่อนเหตุการณ์วุ่นวายบนถนนที่ผมยังรำลึก

ถึง หาดใหญ่ในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๑เงียบเหงาวังเวงจนน่าใจหาย  คล้ายๆกับว่าผู้

คนในเมืองได้อันตรธานหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยกว่าครึ่ง ถนนหน้าบ้านที่เคย

พลุกพล่านแออัดด้วยรถยนต์ก็กลับว่างเปล่า มีเพียงลมพัดฝุ่นกระจายทรายฟุ้งตลบ

อบอวลไปทั่วถนน มันลอยตัวขึ้นตามแรงลมหนักเบา ส่วนหนึ่งลอยคว้างหายไป และ

ส่วนหนึ่งก็ทิ้งตัวลงซบพื้นถนนดั่งเดิม ถนนฟากหน้าบ้านมีการขุดวางท่อระบายน้ำ

ขนาดใหญ่ ร่องนั้นกว้าง ๑ เมตรและลึก ๒ เมตรทอดยาวไปตามแนวถนน คนงาน

กำยำทำงานกันอย่างขันแข็งกลางแดดร้อนเปรี้ยง พวกเขาใช้จอบขุดดินที่รถตักไม่ถึง

ออกมา โกยดินออกมาวางตามขอบร่อง  เกลี่ยให้ราบเพื่อการวางท่อจะได้ระนาบ

แล้วรถยกท่อน้ำขนาดใหญ่ก็จะระมัดระวังมิให้เกิดความเสียหาย หย่อนท่อลงร่องทีละ

ปล้อง เสียงคนงานโกลาหลมิได้ศัพท์ พวกเขาเหนื่อย การหาความร่าเริงจากงานแสน

หนักจึงเป็นเสียงเพลงที่พวกเขาเปล่งออกมาเบาๆเหมือนคนพึมพำอะไรสักอย่าง

ท่ามกลางความอึกทึกอึงอลนั้นผมจับใจความไม่ได้เลยว่ามันเป็นเพลงอะไร จนเมื่อ

ท่อได้ถูกหย่อนลงมาต่อปล้อง เสียงไชโยโห่ร้องของคนงานก็จะเอิกเกริกเกรียวกราว

ด้วยความยินดี งานเริ่มเสร็จสิ้นไปทีละส่วนแล้ว ฝุ่นที่ฟุ้งว่อนใต้แดดร้อนแรงแผด

เปรี้ยง มันเป็นภาพที่ชวนหดหู่เศร้าหมอง เมื่อระคนไปด้วยเสียงกระหึ่มของเครื่องจักร

และคนงานเข้าไป หาดใหญ่ยิ่งดูเหมือนเมืองที่กำลังเริ่มต้น การเริ่มต้นอันไม่สิ้นสุด

โอ-การเริ่มต้นอันไม่สิ้นสุด!


ผมนั่งเท้าคางมองจากระเบียงบ้านชั้นบน นึกในใจว่าถ้าเกิดฝนตกลงมาสักห่า

ใหญ่ ให้พอถนนเจิ่งน้ำและนองเอ่อในร่องขุด ผมก็จะมีคูเมืองเป็นของส่วนตัวขึ้นมา

ทันที และสมมติให้น้ำในร่องนั้นสะอาดใส ผมอาจจะผุดดำผุดว่ายแก้ร้อน หรือทำเป็น

บ่อเลี้ยงปลาไปเสียเลย เมื่อยามที่อยากจะนั่งผ่อนคลายหรือใช้ความคิด ผมจะได้นั่ง

สวมหมวกตกปลาอ้อยสร้อย จิบเบียร์เย็นๆแล้วจมอยู่กับโลกส่วนตัว จริงๆแล้วผมก็จม

อยู่กับโลกส่วนตัวตลอดมา ประตูบ้านที่เปิดแง้มพอโผล่หน้าออกไปดูโลก ระเบียงชั้น

บนที่ใช้นั่งมองผู้คน มันก็พอเพียงแล้วสำหรับความสงบที่ผมต้องการ แต่บางครั้งไม่

ใช่หรือ บางครั้งเราก็อยากให้ใครต่อใครรับรู้ว่าเราอยู่ในโลกส่วนตัว เราปรารถนาจะ

อยู่กับความคิดตนเองเงียบๆ อยากให้ใครต่อใครได้เห็นว่าเรากำลังสงบและเหงาอยู่

ในโลกใบหนึ่ง ผมเคยถามแย้งตนเองว่านี่ผมต้องการบอกผู้คนว่าเป็นคนโดดเดี่ยว

หรือ? ว่าผมมีลักษณะพิเศษอันแตกต่างจากคนอื่นๆ ผมกำลังดึงดูดความสนใจใช่

ไหม? ไม่สิ ผมถามตัวเองใหม่ว่าผมกำลังเรียกร้องความสนใจอยู่ใช่ไหมต่างหาก มัน

เป็นความคิดที่แย่ ผมยอมรับ การต้องการมีตัวตนมันขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับโลกส่วน

ตัว ถ้าเช่นนั้นทำไมผมจึงคิดอยากตกปลาในร่องขุดนั้นเล่า? ผมไม่ได้ตอบคำถามนี้

ของตัวเอง แต่คิดว่าถ้ามีต้นไม้ใหญ่ใบดกสักต้นให้นั่งตกปลาก็จะดีไม่ใช่น้อย


ช่วงที่คนงานกำลังพักกินอาหารกลางวันนั้น ผมได้เดินไปพูดคุยกับพวกเขาด้วย

ความอยากรู้ในหลายๆเรื่องของการขุดวางท่อ พวกเขาไม่ได้ขุดวางกลบเพียงถนน

หน้าบ้านผมเท่านั้นหรอก แต่ขุดวางกลบกันไปทั่วทั้งเมือง โฟร์แมนอธิบายว่ามันเป็น

การป้องกันน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในปลายปี อย่างน้อยก็ป้องกันน้ำท่วมในปีถัดๆไป

หาดใหญ่บ้านผมเป็นเมืองทางน้ำผ่าน ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงลิ่ว เป็นแอ่งกระทะที่

ลุ่มเป็นก้นบาตรที่ลึก  ปีไหนฝนชุกน้ำมาก ก็จะหลากไหลถั่งโถมลงมาจากภูเขา

พร้อมๆกัน จมบ้านจมเมืองเสียหายยับเยินมานักต่อนัก คลองอู่ตะเภาอันเป็นคลอง

ระบายน้ำเพียงสิ่งเดียวที่เมืองมี นับวันก็จะตื้นเขิน โฟร์แมนถอนหายใจเฮือก ยิ้ม

เศร้าๆบอกผมว่ามันตัดต้นไม้กันป่าแทบโกร๋น น้ำโคลนแดงข้นจึงหลั่งไหลลงมา

เหมือนใครเปิดก๊อก อู่ตะเภาที่รองรับน้ำจากคลองสายอื่นจากต้นน้ำบนผาดำนั้นไม่มี

ทางรับมือไหว ภาวะโลกร้อนก็เป็นตัวเร่งให้เกิดเหตุการณ์วิปริต ใครมันจะเชื่อได้ว่า

ปีกลายนั้น น้ำทะเลหนุนขึ้นมาจนจวนเจียนจะถึงหาดใหญ่ เขาหัวเราะขำจนตัวโยน

เมื่อบอกผมว่าโชคดีที่น้ำหนุนนั้นติดไฟแดงตรงถนนลพบุรีราเมศวร์ แล้วเลี้ยวซ้ายไป

ลงที่ตัวเมืองสงขลา


พวกเขากางแผนที่หาดใหญ่บนโต๊ะ มองรายละเอียดแผนผังของเมืองอย่าง

ละเอียดลออ จากนั้นลากเส้นด้วยปากกาสีแดงกำหนดเส้นทางวางท่อขนาดใหญ่ ท่อ

นี้จะรองรับน้ำที่มาจากภูเขาทุกด้าน ส่งให้ไปลงทะเลที่อยู่ไม่ไกลนัก และหากเกิดน้ำ

หนุนขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาก็มีคลองขุดขนาดใหญ่รองรับไว้แล้วก่อนหน้า คลองลึกที่

ขุดรายรอบเมืองนั้นสามารถจุปริมาตรน้ำได้มหาศาล ท่อนี้แหละที่จะส่งน้ำป่าทั้งมวล

ให้ไปลงตามที่ต้องการ พวกเขารับประกันว่าไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำท่วมอีกต่อไปแล้ว


เส้นทางท่อระโยงระยางทั่วทั้งเมือง พวกเขาออกแบบเส้นทางอย่างรัดกุม คำนวณ

ความจุของท่อ แรงดันน้ำ วัสดุที่ใช้ ความเป็นไปได้และน่าจะเป็นในการลำเลียงเส้น

ทาง รวมทั้งภาวะเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ มีการถกเถียงกันใหญ่โตในห้อง

ประชุม มันเป็นโครงการที่คิดกันไว้หลายปีแล้ว เผอิญที่การเมืองในเทศบาลมีความ

เปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง การประมูลมีพิรุธแล้วถูกจับได้ แผนผังถูกกางแล้วพับเก็บไม่รู้

กี่หน จนเมื่อสองปีก่อนนี่เอง เกิดฝนตกห่าใหญ่ในช่วงครึ่งหลังของปี  หลังจากที่คลื่น

ร้อนกระหน่ำหาดใหญ่มานาน ท้องฟ้าเกิดสีแดงฉานไปด้วยความแห้งแล้ง  เราจึงยินดี

ปรีดายิ่งนักกับฝนหนาเม็ดที่ตกติดต่อกันสามวัน ผมยังได้เดินออกไปตากฝน กาง

แขนแหงนหน้าหัวเราะอย่างเปี่ยมสุข เม็ดฝนขนาดใหญ่ตกพรมลงมาทั่วตัว มันสาด

แต่ละเม็ดเข้าใบหน้าอย่างจัง แม้จะรู้สึกด้านชา แต่ความเย็นฉ่ำของมันก็ทำให้ผมอ้า

ปากรองรับแล้วกลืนลงไป ทุกครั้งที่ฟ้าแลบในยามค่ำ แสงสว่างเพียงพริบตานั้นก็เผย

ภาพเด็กๆที่ยังคงวิ่งเล่นตากฝนอยู่ พวกเขาไม่กลัวเป็นหวัดเอากันซะเลย มองจาก

ระเบียงบ้าน ภูเขาที่ติดกันเป็นเทือกนั้นครึ้มคลุมด้วยก้อนเมฆทะมึน ความหนักของ

มันทำให้ต้องหย่อนช่วงล่างเลียดติดกับภูเขา อีกครั้งที่ฟ้าแลบ ยอดเขาด้านหนึ่งมอง

เห็นฝนโปรยลงมาเป็นม่าน ฟ้าแลบอีกครั้งก็เห็นอีกด้านมีม่านฝน อีกครั้งก็อีกด้าน อีก

ครั้งฝนนั้นก็ไล่เข้ามาเรื่อย ผมชักกังวล วิตกว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ ก้มมองดูถนนก็เห็น

น้ำเจิ่งไหลลงคูไม่ทัน หนูวิ่งกันพลุกพล่าน ฟุตบาธหน้าบ้านทุกหลังยั้วเยี้ยไปด้วย

แมลงสาป ข้างฝาระเบียงนั้นผมเห็นมดชักแถวคาบไข่กันเป็นแนว เอะใจอะไร

บางอย่าง ผมจึงโทรศัพท์หาเพื่อนที่บ้านอยู่ริมอู่ตะเภา เขาบอกให้ผมรีบขนของขึ้น

ข้างบนโดยด่วนที่สุด น้ำในคลองเต็มจวนเจียนจะล้นฝั่งอยู่มะรอมมะร่อแล้ว คืนนั้นได้

พูดคุยกับพี่เทพ แกโผล่หน้ามาดูน้ำบนถนนจากทางระเบียง หน้าตาเลิ่กลั่กตื่นกลัว

ครั้นเห็นผมยืนจ้องอยู่แกก็ถามว่าน้ำจะท่วมไหม? ผมชี้ไปที่แถวมด ตอบแกเบาๆว่า

น่าจะ


พี่เทพยังคงหล่อเฟี้ยว ชุดนอนกลีบโง้งพรมน้ำหอมจนผมได้กลิ่น จากการคุย

กันคืนนั้นผมจึงได้รู้ว่าแกเป็นตัวแทนประกันชีวิต หลังจากหย่ากับเมียเมื่อหลายปี

ก่อน แกก็ไม่เคยคิดที่จะหาผู้หญิงคนไหนมาอยู่ร่วมด้วย ความว่าแกกลัวและเข็ดเสีย

แล้ว รายละเอียดอย่างไรนั้นผมไม่ได้ถาม ครั้นขยับปากจะถามว่ารู้สึกอย่างไรกับฝนที่

ตกติดต่อกันสามวันนี้ เราก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายมาจากข้างล่าง พี่เทพหันขวับไป

ดู ดวงตาตื่นโตจดจ้อง หูผึ่งหาสัญญาณเสียงที่สับสนวุ่นวายจับใจความไม่ได้ ด้วย

แสงไฟจากเสาริมถนนเราก็เห็นน้ำที่เจิ่งถนนเริ่มมีสีแดง น้ำป่าชัดๆ! แล้วเราก็เผ่นออก

จากระเบียงไปอย่างรวดเร็วทันที ผมโชคดีหน่อยที่ในบ้านไม่มีอะไรให้ต้องกังวล แค่

เดินลุยน้ำครึ่งแข้งเก็บข้าวของนิดๆหน่อยๆ ชะโงกดูเพื่อนบ้านแต่ละหลังที่กำลัง

อลหม่าน แล้วไฟฟ้าก็ดับพรึบลง น้ำเริ่มเอ่อขึ้นมาถึงเอวอย่างรวดเร็ว ได้ยินเสียงพี่

เทพโวยวาย ความว่ายังเก็บข้าวของได้ไม่หมดเลย มันจะรีบท่วมไปถึงไหนกัน นึก

อะไรขึ้นได้ผมก็เดินลุยน้ำไปที่ประตูบ้าน ตะโกนบอกพี่เทพว่าแกลืมเอารถไปเก็บไว้

ในที่สูง เสียงฝนที่ยังกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตากลบเสียงผมมิด เห็นหลังคารถพี่เทพลอย

ตุ๊บป่องๆเพยิบน้ำอยู่ ได้ยินเสียงพี่เทพแว่วๆว่า ชิบหาย ชิบหายแล้วกู แล้วรถญี่ปุ่น

คันแรกของพี่เทพ ก็ลอยตามแรงน้ำที่โถมกรากเชี่ยวนั้นลับหายไป ผมรีบลอย

คอกลับขึ้นระเบียงชั้นบน เมื่อเห็นฝูงหนูเกาะเป็นกลุ่มผ่านมาทางหน้าบ้าน


เมื่อน้ำลด กองขี้โคลนเศษขยะและซากสัตว์ต่างๆบนถนนถูกกวาดล้าง แต่ละ

บ้านทำความสะอาดกันอย่างใหญ่โต คราบโคลนตามฝาที่สูงถึงสามเมตรนั้นยังคงทิ้ง

คราบรอยเปื้อน ความเสียหายสุดประมาณได้ มีข่าวคนสาบสูญหายไปกับน้ำมากมาย

มีข่าวนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียตายหมู่ใต้ถุนที่จอดรถของโรงแรมใหญ่  มีคนเล่าให้

ฟังว่าหญิงสาวคนหนึ่งหนีน้ำขึ้นบนหลังคา ในคืนที่น่าสะพรึงกลัวนั้น กลับมีคนร้าย

ลอยคำไปขืนใจเธอ  หญิงสาวอีกคนหนีขึ้นหลังคาเช่นกัน แต่เธออยู่กึ่งกลางระหว่าง

หนูกับงูเห่าตัวหนึ่ง เธอตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรดี จึงกระโดดน้ำหนีไปหาที่พึ่ง

ข้างหน้า และข่าวว่าเธอจมหายอยู่ใต้สายน้ำเชี่ยวกรากอันหนาวเย็นนั้น


โครงการขุดวางท่อจึงก่อกำเนิดมาอย่างเร่งด่วน ไม่มีใครสนใจที่จะทักท้วงแต่

อย่างใดแล้ว ขอเพียงให้มีหลักประกันว่าเราจะไม่โดนน้ำท่วมจมเมืองเช่นที่ผ่านมาก็

พอ ฟากหนึ่งของถนนถูกขึงเส้นเป็นเขตห้ามเข้า ช่างสำรวจตั้งกล้องส่องอย่างเอาจริง

เอาจัง ถนนหน้าบ้านผมมีกระถางต้นไม้วางอยู่รายเรียงริมทางติดฟุตบาธ ขวามือนั้น

  เป็นต้นมะยมขนาดใหญ่ในกระถางใบโต รวมกลุ่มกับกระถางเล็กกระถางน้อยหลาก

หลายพันธุ์ไม้ ซ้ายมือเป็นภัตตาคารหรู ปลูกต้นมะยมและขนุนไว้ในกระถางเพื่อเป็น

สิริมงคล  แนวส่องของช่างสำรวจพาดทับกระถางต้นไม้เหล่านี้อย่างช่วยไม่ได้  พวก

เขาช่วยกันเลื่อนกระถางออกให้พ้นแนวเส้น แต่มะยมและขนุนของภัตตาคารนั้นใหญ่

โตเกินแรงคนจะเคลื่อนขยับ พวกเขาลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจทำอย่างไรนั้น เจ้า

ของภัตตาคารก็เดินมาเท้าสะเอวด่าอยู่เอ็ดอึง  แกกำชับเด็ดขาดว่าห้ามเคลื่อนขยับ

แม้สักเล็กน้อย กระถางได้ถูกวางไว้ในตำแหน่งที่ซินแสคำนวณฮวงจุ๊ยเอาไว้ดีแล้ว

ผมเห็นการถกเถียงกันนั้นรุนแรง ช่างสำรวจบอกว่าเขาทำตามหน้าที่ แม้เขาจะไม่

เคลื่อนขยับกระถาง แต่ช่างชุดอื่นก็ต้องเคลื่อนออกให้พ้นแนวเส้นอยู่ดี กระถางมะยม

และขนุนนั้นเป็นมงคล เขารู้ แต่มันอยู่ผิดที่ผิดทาง และถนนก็ไม่ใช่สวนส่วนตัวของ

ใครคนใดคนหนึ่ง บทสรุปก็คือทางภัตตาคารจำต้องให้พวกเขาเคลื่อนย้ายกระถาง

ออกพ้นแนวเส้นโดยดี แต่ดวงตาที่ยืนมองอยู่นั้นลุกแดงราวกับเปลวเพลิง


เสียงเครื่องกรีดผิวยางมะตอยเริ่มส่งเสียง มันบาดไปทั่วถนนอย่างกราดเกรี้ยว

ทะลุเยื่อบุแก้วหูไปถึงทรวงอก กรีดถนนออกเป็นรอยผ่าสองเส้นในความกว้าง ๑

เมตร เสียงอันสั่นประสาททำให้เกย์หนุ่มบ้านตรงข้ามเดินกระฟัดกระเฟียดออกมา

  นัยน์ตาขุ่นเคืองผมเผ้ายุ่งเหยิง  เขาตะคอกถามอะไรบางอย่างกับคนงานอย่าง

โมโห คนงานทำหน้าเหรอหราจับต้นชนปลายไม่ถูก พวกเขาจึงไม่สนใจที่จะต่อปาก

ต่อคำด้วย ยังคงกรีดผิวยางมะตอยง่วนอยู่ตามเดิม ผมเห็นเกย์หนุ่มรูปหล่อคนนั้น

แสดงอาการหงุดหงิด ยิ่งเขาเห็นผมยืนยิ้มกริ่มมองเช่นนั้น เขาแทบจะคลั่งเอาเสียให้

ได้ จะไม่ให้ผมยิ้มได้อย่างไรล่ะ? ในเมื่อเส้นเหลืองกลางถนนมันก็แบ่งฟากชัดเจน

แล้ว คนงานกำลังกรีดตัดขุดเจาะในฟากตรงข้ามบ้านเขา คนที่ควรโวยวายน่าจะเป็น

ผมมากกว่า มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่เขานอนไม่เป็นเวล่ำเวลาเหมือนชาวบ้าน  ที่

สำคัญก็คือโครงการนี้มันจะช่วยให้เมืองของเราปลอดภัยจากกระแสน้ำหลาก คนเรา

ควรที่จะเสียสละอะไรเล็กๆน้อยๆเพื่อคนส่วนใหญ่ไม่ใช่หรือ? ในละแวกนี้ผมไม่เป็น

ห่วงใครเท่ากับยายบ้านฝั่งเดียวกับผม แกอยู่ตัวคนเดียวในบ้านไม้โบราณชั้นเดียว

น้ำท่วมครั้งก่อนถ้าไม่มีใครคนหนึ่งว่ายไปพาแกขึ้นตึกอีกหลัง แกคงจมอยู่ใต้สายน้ำ

อันแดงเถือกนั้นอย่างเดียวดายเป็นแน่แท้

Comment #1
Posted @5 ต.ค.51 20.46 ip : 118...18

๒).

ยายชราในวัย ๗๖ ผู้โดดเดี่ยว! ครั้งหนึ่งแกเคยเป็นคหบดีที่มั่งคั่งที่สุดใน

ละแวก บ้านไม้ชั้นเดียวแม้จะเป็นไม้เนื้อแข็ง แต่กาลเวลาก็กัดกร่อนความแข็งแรง

ลงไปทีละน้อย ลูกหลานที่มีอยู่มากมายนั้นได้ต่อเติมตกแต่งปรับปรุงและซ่อม

แซมอยู่ตลอดมา ผมเห็นยายคนนี้มาตั้งแต่เด็ก แกสุภาพอ่อนโยนเสมอ พวกเรา

เด็กๆแถวนั้นมักจะแวะเวียนไปหาขนมกินที่บ้านแก ในบริเวณลานดินหน้าบ้านกว้าง

ขวางนั้นมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นโดยรอบ  เราใช้เป็นสถานที่เล่นกันอย่างสนุกสนาน บ่อย

ครั้งที่เราชกต่อยกันเองในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ยายใจดีนี่แหละที่จะถือไม้เรียวเดินมา

แกไม่เคยเฆี่ยนใครหรอก ไม้เรียวในมือมีไว้ให้เรารู้สำนึกกลัวและเกรงเอาเอง ยาย

จะใช้ไม้เรียวฟาดลมขวับๆ พร้อมกับที่พร่ำสอนให้เรารู้จักการอยู่ร่วมรวมกลุ่ม ยาย

บอกว่าหากเราเล่นด้วยกันแล้ว เราต้องมีข้อตกลงกติการ่วมกัน และใครจะละเมิดไม่

ได้โดยเด็ดขาด หากใครละเมิด เราก็ต้องเตือนเขาคนนั้นให้รู้ตัว ผมเคยถาม

แย้งกลับไปว่าหากเราเตือนเขาแล้วเขายังไม่ฟัง เราควรจะทำอย่างไรดี? ยายยิ้ม

เงียบๆ ลูบหัวผมเบาๆแล้วบอกว่าผมต้องเชื่อมั่นในกติกาสิ ยายชี้ไปที่เด็กทุกคนใน

วันนั้น  ก่อนบอกว่าถ้าเช่นนั้นถามพวกเขาดูว่าควรจะทำอย่างไร กว่าผมจะเข้าใจ

ปริศนานี้ได้ก็เมื่อโตขึ้นแล้วประสบกับเหตุการณ์หนึ่ง  ในช่วงวัยที่กำลังคุกรุ่นไปด้วย

พลัง ผมเคยตั้งวงดนตรีซ้อมกันเล่นๆ ครั้นเมื่อพบว่าเข้าขาเข้าทางกันดีแล้ว เราจึง

ตระเวนหาผับเล่นเป็นอาชีพ เราเล่นดนตรีกันได้นานหลายปีอย่างมีความสุข จนวัน

หนึ่งนักร้องนำของเราเกิดขัดแย้งในเรื่องส่วนแบ่งรายได้กับวง ความขัดแย้งนั้น

รุนแรงจนถึงขั้นวางมวยกับมือกีตาร์ พวกเราเข้าห้ามปรามและพยายามหาข้อยุติที่ลง

ตัวให้ได้ ผมถามเพื่อนร่วมวงว่าจะเอากันอย่างไรดี และเสียงส่วนใหญ่ออกมาว่าเรา

จะหานักร้องนำคนใหม่เข้ามาแทน เรื่องนี้จบลงด้วยดี เราได้นักร้องนำคนใหม่เข้ามา

ในเวลาไม่นานนัก ก่อนที่เขาจะจับไมค์ร้องเพลง เราบอกกติการ่วมกันให้เขาเข้าใจ

ก่อน เมื่อเขาตกลง วงของเราก็กลายเป็นวงที่โดดเด่นที่สุดในหาดใหญ่ จนกระทั่ง

เราต่างแยกย้ายไปสร้างฐานะครอบครัวกัน ผมไม่มั่นใจว่านี่เป็นกรณีเฉลยปริศนา

ของยายหรือไม่  แต่มันได้กลายเป็นวิธีแก้ปัญหาความขัดแย้งสำหรับผมตลอดมา


บ้านยายอยู่ถัดไปทางขวามือประมาณ ๔๐๐ เมตร ก่อนน้ำท่วมใหญ่ครั้งนั้น


บ้านไม้ทรุดโทรมจนแทบจะเป็นบ้านร้างเปล่าเปลี่ยวแปลกแยกในเมืองใหญ่ ท่าม

กลางตึกสูงที่ผุดพรายขึ้นมาจนล้นฟาก ท่ามกลางเสียงอึกทึกจอแจของยวดยาน

ต่างๆที่วิ่งกันอยู่ไม่รู้หมดทั้งวันทั้งคืน พวกเราเติบโตขึ้นมาสู่วัยทำงาน ลานกว้างหน้า

บ้านยายที่เคยวิ่งเล่นได้ถูกตัดแบ่งขาย แล้วไม่นานบ้านไม้นั้นก็ถูกห้อมล้อมไปด้วย

สถานบันเทิงยามราตรี ในช่วงปีที่เศรษฐกิจฟูเฟื่อง ถนนหน้าบ้านผมจะหาที่ให้รถ

มอเตอร์ไซค์จอดสักคันก็ยังยาก เสียงตะโกนพูดคุยจากนักท่องเที่ยวเอ็ดอึงระงมไป

ทั่ว หญิงสาวในชุดรอแขกกรีดกรายกันตามถนน ข้ามฝั่งไปกินข้าว เดินเล่นมองหา

แขก เข้าร้านสะดวกซื้อ ขี้เมาเดินแอ่นอยู่บนถนน และมีไม่น้อยที่จับคู่กันโอบกอด

จูบกันตรงฟุตบาธหน้าบ้านยาย ทุกคนสามารถแสดงออกได้อย่างเต็มที่ และหลายๆ

ครั้งที่ผมเห็นการแสดงออกอันผิดกาลเทศะ ผมไม่รู้จริงๆว่ายายอยู่อย่างไรใน

สภาวการณ์เช่นนั้น เมื่อเกิดน้ำท่วมแต่ละหน ถนนหน้าบ้านก็จะเงียบเหงาไปครั้ง

หนึ่ง ก่อนจะกลับมาอู้ฟู่เหมือนเดิม ผู้คนในละแวกนี้มีรายได้ดี เราจึงไม่ค่อยกังวล

สนใจนักกับการใช้จ่าย และการชำรุดของบ้านไม้โบราณ


วันน้ำท่วมใหญ่ครั้งที่ผ่านมา ดูเหมือนเราจะหลงลืมยายชราคนนั้นไปเสียสนิท

ต่างคนต่างขนย้ายข้าวของของตัวเองกันจ้าละหวั่น กระเตงลูกหลานหนีน้ำขึ้นไปอยู่

ชั้นบนของตึก กว่าจะนึกขึ้นได้ว่าบ้านไม้ชั้นเดียวของยายกำลังโดนน้ำป่ากลืนกิน

กว่าจะนึกขึ้นได้ว่ายายกำลังแช่ตัวอยู่ในกระแสน้ำเชี่ยว  เราก็ตระหนกตกใจไปกับ

ความไม่ทันการนั้นเสียแล้ว มีหลายคนพยายามตะโกนบอกใครต่อใครให้ไปช่วย แต่

จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ยินเสียงใครกระโดดน้ำว่ายไปหาแก จนกระทั่งน้ำท่วมเกือบ

มิดหลังคานั่นแหละ เราจึงได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งว่ายน้ำไปอย่างเร่งรีบทำเวลา เขา

แบกยายขึ้นหลังว่ายไปหาตึกที่อยู่ใกล้ที่สุด แม้ยายจะปลอดภัยดี แต่บ้านไม้นั้นก็

โดนกระแสน้ำแทงจนเสาทรุดเอียงกะเท่เร่ไปข้าง  ลูกหลานที่รอดพ้นจากภัยพิบัติ

น้ำท่วมได้ช่วยกันก่อร่างสร้างบ้านให้ใหม่ แล้วก็ปล่อยให้ยายอยู่บ้านใหม่นั้นอย่าง

โดดเดี่ยวเช่นเคย ผมไม่ทราบว่าทำไมพวกเขาจึงไม่อยู่ร่วมกับยายด้วย เคยถาม

เพื่อนคนหนึ่งที่เป็นหลานยาย เขาตอบผมอย่างรู้สึกผิดว่าเขาเองก็มีครอบครัว และ

แยกไปตั้งถิ่นฐานบ้านช่องอยู่มานานแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ทอดทิ้งยายให้อยู่

คนเดียวอย่างที่เข้าใจ เขายังหมั่นแวะเวียนไปหายายเสมอเช่นเดียวกับลูกหลานคน

อื่นๆ    เครื่องตัดผิวยางมะตอยผ่านหน้าบ้านผมไปได้ไม่กี่สิบเมตร ทิ้งรอยกรีดเป็น

แนวตรงไว้ด้านหลัง กองดินที่โกยขึ้นมาพูนขอบนั้นต่อกันเป็นเทือก เหมือนภูเขาที่

ติดกันเป็นพืด คนงานขนป้ายขนาดใหญ่บอกผู้ใช้รถใช้ถนนว่า มีกองวัสดุบนไหล่

ทาง อีกป้ายเขียนไว้ว่า เครื่องจักรกำลังทำงาน โปรดใช้ทางเบี่ยง พร้อมกับลูก

ศรอันใหญ่ชี้ทางไป


หาดใหญ่ในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๑ มันช่างเงียบเหงาวังเวงเหลือเกิน หมดสิ้น

สภาพเมืองธุรกิจอันคึกคักมั่งคั่งไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ร้านอาหารสองฟากถนน

ต่างเงียบเหงาอยู่ในความอัดอั้นอึดอัด ลมพัดฝุ่นฟุ้งแต่ละครั้งก็หอบเอาฝุ่นทรายเข้า

ไปในบ้านเรือนผู้คน ยายเคยเล่าว่าตรงข้ามฟากบ้านเราที่เป็นวัดจีน ในนั้นมีพระ

พุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แบบจีนประดิษฐานอยู่ เป็นที่สักการบูชาแก่คนทั่วไป  ผมเองยัง

ไม่เคยย่างเข้าไปข้างในวัดเลยสักครั้ง แม้จะเดินผ่านเห็นอยู่ทุกวันก็ตามที อาจ

เพราะผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องไร้สาระที่ยายเล่าให้ฟังถึงอภินิหารต่างๆของพระพุทธ

รูปนั้นก็เป็นได้ ยายเล่าต่อว่าพระพุทธรูปองค์นั้นสูงใหญ่ เปี่ยมด้วยเมตตามหานิยม

พ่อค้าแม่ขายมักจะมากราบไหว้ขอพรอยู่เสมอ หน้าองค์พระจะมีติ้วเสี่ยงทาย เสียง

เขย่าติ้วจึงดังสนั่นอยู่แทบจะทุกเวลาที่ผมมองผาดผ่านไปยังวัด  มันมีข้อห้ามเด็ด

ขาดอยู่เรื่องหนึ่งที่พึงปฏิบัติโดยเข้มงวด เมื่อใครก็ตามที่เดินเข้าไปในวัด เขาผู้นั้น

จะต้องถอดรองเท้าเก็บไว้ให้เป็นที่เป็นทาง และห้ามเตะหมาที่วิ่งกันกลาดเกลื่อนวัด

นั้นเด็ดขาด มันเป็นกฎเหล็ก-ยายบอก ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนออกกฎเหล็กนี้ และ

เมื่อใดก็ตามที่หมาตัวหนึ่งถูกเตะ มันจะเกิดอาเพศวิปริตขึ้นมาในทันทีนั้น


แม้จะมองว่ามันช่างไร้สาระเหลือเกิน แต่ผมก็ใจหายวาบเมื่อนึกขึ้นได้ว่าหลายวัน

ก่อนนี้เอง ที่มีคนเมามาจากไหนไม่รู้ เดินเซเข้าไปในบริเวณวัดยามดึกสงัด เสียง

หมาเห่ากรรโชกขู่คนเมาระงมไปทั่ว จนแม้ผมหลับสนิทยังต้องลุกขึ้นตื่นมาดู เห็น

เขาคนนั้นแอ่นหน้าแอ่นหลังตะเพิดหมายกใหญ่ เขาใช้รองเท้าปาไปที่หมาตัวหนึ่ง

แล้วใช้อีกข้างตบไปที่ปากหมาอีกตัว เขาด่าอึงขรมไม่ได้หยุดหย่อน จังหวะที่เขาเซ

หน้าเซหลังหาที่นอนสักแห่งในวัด หมาตัวหนึ่งก็กระโจนงับเอาแขนขวา เขาเข้า เขา

ร้องเสียงดัง สะบัดหมาหลุดแล้วหวดด้วยแข้งซ้ายเต็มแรงจนกระเด็นออกไป เขายิ่ง

คลุ้มคลั่ง คว้าเก้าอี้พลาสติกแถวนั้นได้ก็วิ่งไล่ตีหมาทุกตัว จนกระทั่งเขาอ้วกออกมา

ก่อนทรุดตัวลงนั่งหมดแรง และฝูงหมาก็กลุ้มรุมกัดทึ้งจนเหวอะหวะไปทั่วทั้งตัว เขา

ตายในไม่กี่อึดใจ ผมยืนตะลึงตัวชา จากระเบียงบ้านที่มองไปนั้น เหมือนเห็นดวง

ตาขอความช่วยเหลือจากเขา ผมทำอะไรไม่ถูก เหลียวซ้ายแลขวาก็ล้วนเห็นผู้คน

ต่างโผล่หน้าออกมาดูจากหน้าต่างจากระเบียงบ้านตน ผมตะโกนบอกให้ช่วยเหลือ

โดยด่วน เขากำลังจะตาย! แล้วเสียงตะโกนบอกไปยังคนอื่นๆก็ไล่ดังไปทีละบ้าน

ไล่ไปจนครบทุกบ้านก็ยังไม่มีใครเดินเปิดประตูไปช่วย  เขาสิ้นใจต่อหน้าพวกเรา

ทุกคน รุ่งเช้าพวกเราพูดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างตื่นเต้น เราละเลยที่จะพูดถึงการ

ให้ความช่วยเหลือผู้ตาย เราแกล้งทำเป็นลืมพูดว่าถ้าใครสักคนเปิดประตูบ้านออก

ไป เขาอาจแค่บาดเจ็บ


แต่ถึงอย่างไรผมก็ยังไม่เชื่อ ว่าหากจะเกิดน้ำท่วมใหญ่อีกครั้ง มันจะมาจาก

สาเหตุที่คนเมาเตะหมาในวัด มันไม่มีเหตุผลเพียงพอแก่ตรรกะใดใดเลย ผมยังจำ

ได้ว่ามีคนหลายคนที่สมน้ำหน้าเขา ที่สาปแช่งการตายของเขาว่าเป็นต้นตอแห่ง

หายนะใหญ่หลวงที่ตามมา เกิดการถกเถียงว่าด้วยมนุษยธรรมอย่างเอาเป็นเอา

ตาย  อาแป๊ะขายกาแฟร้านตรงข้ามบอกว่าอีกไม่นานหรอก มิคสัญญีและภัยพิบัติจะ

เกิดขึ้นกับพวกเรา เขาเสนอให้มีการจุดประทัดหนึ่งหมื่นดอกขอขมาองค์พระ พร้อม

ทั้งจัดพิธีสะเดาะเคราะห์ให้แก่คนในชุมชน การถกเถียงแปรประเด็นไปสู่ทัศนะที่

แตกต่าง มีคนกลุ่มหนึ่งไม่เห็นด้วย และเห็นว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ แค่คนเมาคนหนึ่ง

เดินเข้าไปในวัดยามดึก หมาที่มีอยู่มากมายนั้นมันมีสัญชาติญาณการหวงแหนพื้นที่

และการระแวงระวังคนแปลกหน้าในห้วงยามผิดเวลา เรื่องมันมีอยู่เพียงเท่านี้เอง วัน

นั้นไม่มีข้อสรุปในการถกเถียง แต่เกิดผลที่ตามมาคือชาวบ้านฟากร้านอาแป๊ะกับ

ฟากตรงข้ามเป็นศัตรูกัน


ฝุ่นฝอยฟุ้งขึ้นมาเป็นระลอก มันโหมกราวเข้าไปในบ้านในร้านค้าทั้งสองฟาก<br />



จนแดงไปทั่ว พ่อค้าแม่ขายต่างเช็ดถูกันอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่นานก็ต่างอารมณ์

เสีย ผมได้ยินเสียงด่าทอกันของร้านข้าวแกงกับร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เหมือนเกิด

อุปาทานหมู่ขึ้นในทันใด ฟากถนนหน้าบ้านผมที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขุด

เจาะ ต่างโกยเอากองดินนั้นไปถมหน้าบ้านฝั่งตรงข้าม เกิดการโต้เถียงด่าทอกัน

ชุลมุน และจบลงด้วยการยกพวกเข้าห้ำหั่นกันเองตลอดสายถนน พี่เทพเพิ่งกลับมา

จากธุระ ไม่ได้สนใจเหตุการณ์วุ่นวายนั้นสักเท่าไหร่ แกคิดว่าไม่ใช่เรื่องของแก ใคร

มันจะทะเลาะเบาะแว้งกับใครก็ว่ากันเอาเอง ก้าวลงจากรถยืนมองสงครามกลางถนน

อยู่ครู่หนึ่ง ก็หันมายิ้มให้ผมในทำนองว่าคนเหล่านั้นไร้สาระ จังหวะที่แกกำลังจะก้าว

พ้นฟุตบาธเพื่อเปิดประตูบ้านนั่นเอง ก้อนดินขนาดใหญ่ที่เกรียมแดดแห้งแข็งมา

อย่างดีก็ลอยลิ่วมาปะทะกับตัวถังรถยุโรปอย่างจัง พี่เทพสะดุ้งเฮือกหันขวับ กรีด

ร้องอย่างคนเสียสติ วิ่งไปดูรอยบุบขนาดเท่ากับก้อนดินนั้น ความโกรธเกรี้ยวของพี่

เทพทำให้ผมรีบแอบตัวเองเข้าไปในบ้าน ปิดประตูพอแง้มๆหัวโผล่ออกไปดูได้

เห็นพี่เทพในชุดหล่อเฟี้ยวหยิบปืนสั้นจากในรถวิ่งไปฝั่งตรงข้าม แล้วยกเล็ง

กระหน่ำรัวกระสุนใส่ไม่ยั้ง ผมตกใจ ปิดประตูดึงบังตาบ้านสนิท เผ่นขึ้นไปห้องนอน

ทันที จากนั้นผมก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างบนถนน 


ผมอยากให้น้ำท่วมใหญ่อีกสักครั้ง แต่เมื่อคิดถึงยายที่อยู่คนเดียวในบ้านโดดเดี่ยว

ผมกลับรู้สึกอยากให้มีเพียงฤดูร้อน บ้านหลังใหม่ของยายยังคงเป็นบ้านไม้เนื้อแข็ง

ลูกหลานที่ช่วยกันซ่อมแซมได้ช่วยกันดูแลรักษาต้นไม้ใหญ่ที่เหลืออยู่  มันจึงยังร่ม

ครึ้มทอดเงาชวนเชิญให้เข้าไปหลบแดดพักร้อนเสมอ เสียดายที่ลานกว้างหน้าบ้าน

ยายถูกตัดแบ่งขายไปบ้างแล้ว ไม่เช่นนั้นเราคงมีที่ว่างพอจะนั่งเล่นให้เด็กๆวิ่งกัน

สนุกสนานได้  เสียงรถขุดดินกระหึ่มอยู่ไม่ไกลนัก คนงานวางท่อแล้วกลบไปทีละ

ส่วน ไล่เรื่อยมาจนถึงหน้าบ้านผม ว่าไปแล้วพวกเขาก็ทำงานกันรวดเร็วเอาการอยู่

ผมคิดว่าเขาคงขุดแล้วกลบดินให้เสร็จสิ้นไปก่อน จากนั้นก็จะราดยางมะตอยกลบ

หน้าดินอีกที

Comment #2
Posted @5 ต.ค.51 20.49 ip : 118...18

ผ่านมาร่วมเดือนสงครามกลางถนนยังไม่จบ เพียงแต่มันเปลี่ยนรูปแบบไปเป็น

สงครามเย็นแทน  ชาวบ้านสองฟากตั้งตัวเป็นฝ่ายตรงข้าม ผมไม่สามารถข้ามฟาก

ไปซื้อข้าวแกงมื้อเที่ยงกินได้ เช่นที่ไอ้นุ้ยเพื่อนผมก็ไม่สามารถข้ามฟากมานั่งดื่ม

กับผมยามเย็นได้เหมือนเช่นเคย ผมอึดอัดกับภาวการณ์เช่นนี้  ในขณะที่เครื่องตัด

ผิวถนนยังกรีดรอย รถเจาะรถขุดรถตักก็ยังกระหึ่มเครื่องทำงานของมันไป  กองดิน

ยังคงถูกตักขึ้นมากองอยู่ริมร่อง ป้ายถูกย้ายที่ตามไปข้างหน้าเรื่อยๆ ร่องขุดนั้นกิน

ถนนเข้าไปเกือบเต็มฟาก เหลือที่นิดเดียวให้รถสองเลนวิ่ง  ครั้นเมื่อยามเที่ยง รถที่

วิ่งมาหามื้อเที่ยงก็ติดกึกอยู่บนถนน กว่าจะทยอยหลุดออกไปจากการติดขัดได้ก็เนิ่น

นาน เกิดการต่อว่าอารมณ์เสียของคนใช้รถใช้ถนนเพิ่มเข้ามาสมทบ ผมนั่งมองจาก

ตัวบ้านอย่างรู้สึกเบื่อหน่าย  อยากให้มันวางท่อให้เสร็จสิ้นไปสักที แล้ววันหนึ่ง

เครื่องจักรทั้งหลายก็หยุดทำงานดื้อๆ  ลูกศรป้ายทางเบี่ยงแดงเข้มมองเห็นเด่นชัด

ผมรู้สึกว่ามันหยุดทำงานมาได้หลายวันแล้วนี่นา ผมมัวแต่กังวลและสนใจสงคราม

กลางถนนจนไม่ทันสังเกต  มองฟ้าอย่างไร้จุดหมาย แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าอีกไม่นานก็

จะเข้าหน้าฝนแล้ว


ผมมองจากระเบียงไปทางบ้านยาย เห็นแกนั่งมองถนนอยู่ใต้ร่มไม้ใบหนาดก ตะบัน

หมากเคี้ยวหยุบหยับไปตามเรื่อง วันนี้ไม่มีสถานบันเทิงยามราตรีอยู่ล้อมรอบ ไม่มีขี้

เมาเดินแอ่นเที่ยวกอดจูบหญิงสาวคาราโอเกะ เศรษฐกิจซบเซาจนใจหาย เมืองทั้ง

เมืองอึกทึกด้วยเสียงด่าทอ ฝุ่นที่ฟุ้งยังคงกระจัดกระจายตลบไปทั่ว ผมออกจาก

บ้าน ผ่านการชี้หน้าด่ากันของคนสองฟากถนน เดินตามทางขนานกับร่องลึกที่มิด

หัว รู้สึกเศร้าและหดหู่อย่างไม่รู้สาเหตุ ป่านนี้พี่เทพคงกำลังกินข้าวแดงในเรือนจำ

ร่างสะโอดสะองสำอางจะรับไหวหรือกับชีวิตในคุก อารมณ์ชั่ววูบแท้ๆเชียว ผมหยุด

ดูบ่อพักน้ำครู่หนึ่ง มันถูกก่อด้วยปูนเสริมเหล็กเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีขนาดความกว้าง

กว่าร่องเล็กน้อย หากมีน้ำสะอาดท่วมขัง และท่อลำเลียงน้ำสามารถใช้งานได้ดี  ผม

อยากเลี้ยงปลาสักฝูงใหญ่  และหากเป็นไปได้ก็อยากจะปลูกต้นไม้ใหญ่สักต้นสอง

ต้นตรงคันร่อง ไว้นั่งตกปลาใช้ความคิดเงียบๆตามลำพัง  เสียงตะบันหมากของยาย

ดังอยู่แผ่วเบาไม่ไกลนัก ผมก้าวเท้าเดินเข้าไปในร่มไม้ลานดิน เห็นยายยิ้มให้แต่

ไกล เชื้อเชิญให้นั่งร่วมวงกับแก ผมถามยายว่าไม่หนวกหูบ้างหรือกับเสียงเครื่อง

จักร แกตอบมาว่าไม่หรอก ถ้าเสียงอึกทึกครึกโครมนั้นจะนำมาซึ่งความอยู่เย็นเป็น

สุขความเจริญ ยายก็ยินดีที่จะนั่งฟังมัน ครั้นถามถึงสงครามประสาทกลางถนน ยายก็

ยังยิ้มอย่างใจดีอีก ตอบว่าความขัดแย้งนี้ไม่มีใครลุกขึ้นมาถามคนทั้งสองฟาก ว่า

อยากให้เรื่องมันยุติอย่างไร และจะประสานความขัดแย้งนั้นให้กลมเกลียวกันได้หรือ

ไม่,อย่างไร ผมไม่รู้จะคุยอะไรกับยายอีกจึงขอตัวลากลับด้วยความรู้สึกเบาโหวง


ร่องลึกนั้นยังทอดตัวนิ่งสงบไปตามแนว ส่วนที่มีการวางท่อไปแล้วก็ได้มีการกลบถม

จนเต็มร่องด้วยการอัดดินเข้าไปแล้วใช้รถบด ผมมองย้อนขึ้นไป เห็นแนวระโยง

ระยางเชื่อมผสานกับร่องหลายๆเส้น มองไปอีกปลายด้านเห็นแนวรังวัดตีเส้นยาวไป

เชื่อมต่อกับแนวเส้นอื่น นึกสงสัยครามครันว่าเหตุใดเครื่องจักรทั้งหลายจึงจอดนิ่งอยู่

อย่างนั้น ชะโงกดูเข้าไปในร่องที่ยังค้างคา เห็นฝูงหนูยั้วเยี้ยกันอยู่เต็ม ผมขยะ

แขยงจนคลื่นไส้ อยากจะกลบดินลงมาฝังมันทั้งเป็นอย่างนั้นให้สูญพันธุ์ ให้มันขาด

อากาศหายใจไปทั้งหมด อย่าได้ออกลูกออกหลานมาอีกเลย ระหว่างที่กำลังเดินหนี

จากความมืดดำของจิตใจตัวเองนั้น ผมนึกถึงคลองเตยหลังบ้าน  เมื่อยามหนุ่มรุ่นผม

เคยนั่งตกปลาอยู่ริมตลิ่ง คลองเล็กๆที่เชื่อมต่อมาจากคลองอู่ตะเภานั้นร่มรื่นไปด้วย

เงาไม้ น้ำใสเต็มปริ่มตลอดสาย บัดนี้มันแห้งขอดจนแทบจะไม่มีแอ่งน้ำหลงเหลือ

ต้นไม้ริมตลิ่งถูกโค่นทิ้งแล้วปลูกเสาไฟฟ้าเข้ามาแทน ทางเดินสองฟากคลองเตย

กลายเป็นถนนให้รถวิ่ง และนั่นผมไม่มีที่สงบให้นั่งตกปลาได้อีกเลย 


กองดินลูกใหญ่ถูกโกยขึ้นมาอยู่กลางถนน ตรงช่วงที่มีบ่อพักน้ำนั้น คนงานได้ขุดลง

ไปลึกและกว้างกว่าส่วนอื่นๆ มันคร่อมเลนสองฟากจนเต็ม เส้นเหลืองกลางถนนถูก

กลืนหาย ไม่มีช่องทางการจราจรหลงเหลือ ถนนตรงนั้นแน่นพืดไปด้วยกองดิน รถรา

ถูกบังคับให้เลือกวิ่งเลนใดเลนหนึ่งที่แสนแคบ  หรือไม่ก็ใช้ทางเบี่ยงตามป้ายบอก

ทาง  และเมื่อคืนนี่เอง มีรถคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็ว เขาไม่เห็นป้ายหรืออย่างไร

ไม่ทราบ รถจึงเสือกหัวชนหายเข้าไปครึ่งคัน คนขับที่อยู่ในอาการเมาหนักออกมา

โวยวายด่าทอเอ็ดตะโรลั่น ผมโผล่ออกมาดูตรงระเบียงด้วยเสียงเอะอะของเขา

พร้อมกับชาวบ้านสองฟากต่างโผล่ออกมาดูเหตุการณ์กันทั่วหน้า เขายังด่าสบถลั่น

และประกาศก้องว่าพรุ่งนี้เขาจะฟ้องร้องให้ดำเนินคดีกับทางเทศบาล ข้อหาวางวัสดุ

กีดขวางการจราจร เรายืนดูครู่ใหญ่ แล้วต่างก็กลับเข้าไปนอนกันต่อเหมือนไม่มี

อะไรเกิดขึ้น  รถถูกลากไปในไม่ช้า แต่กองดินนั้นยังคงมีรอยยุบเว้าเข้าไปอยู่


กรมอุตุฯได้พยากรณ์อากาศว่าปีนี้ฝนจะมาเร็ว ภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีฝน

มากกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ ทะเลมีคลื่นสูง ขอให้ชาวเรืองดออกจากฝั่ง และในพื้นที่

เสี่ยงภัยให้ระวังดินถล่ม  มองร่องที่ขุดเพื่อรองรับกระแสน้ำยามหลากยังไม่เสร็จสิ้น

ท่อยังวางลงร่องได้ไม่ครบจำนวน ผมชักกังวลใจและกระสับกระส่าย ความสูญเสีย

จากน้ำท่วมใหญ่ปีนั้นยังฝังจำอยู่ด้วยความหวาดกลัว ผมไม่รู้ว่าชาวบ้านสองฟากได้

ยินคำพยากรณ์อากาศบ้างหรือไม่  เห็นแต่การขนดินจากหน้าบ้านตนไปโยนลงหน้า

บ้านฟากตรงข้าม สลับกับการด่าทอกันไปมาอย่างน่าเบื่อหน่าย หน้าบ้านผมเอง

ตอนนี้กองดินก็แทบจะท่วมหัวแล้ว ผมไม่เล่นเป็นเด็กๆเหมือนพวกเขาหรอก อยาก

โกยมาก็เชิญ ขอเพียงเหลือทางให้ผมได้เดินเข้าออกได้สักนิดก็พอ


ความกังวลใจต่อสภาพดินฟ้าอากาศที่จะมาถึง  ทำให้ผมต้องรีบโทรศัพท์ถามไปที่

เทศบาล ว่าเหตุใดการวางท่อจึงหยุดชะงัก และเมื่อไหร่จึงจะดำเนินการได้แล้ว

เสร็จ คำตอบกลับมาคือเหตุที่หยุดชะงักนั้นมีสองกรณี หนึ่งนั้นคือชาวบ้านได้ขัด

ขวางการทำงาน และรบกวนวัสดุบนไหล่ทางจนเสียหาย อีกหนึ่งนั้นก็คืองบประมาณ

ของปีนี้หมด  เมื่องบประมาณใหม่ของปีหน้ามาถึงก็จะดำเนินการเริ่มต้นใหม่ต่อ

ทันที โอ-การเริ่มต้นอันไม่เคยสิ้นสุด! โอ-งบประมาณที่ไม่เคยเหลือทอน! นี่ผมจะ

ต้องพบเห็นการเริ่มต้นใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่าไปอีกนานเท่าไหร่? นี่ผมอยู่ในเมืองที่สิ้น

หวังแท้ๆหรือนี่ แกวกดินหน้าบ้านที่ตกหล่นเรี่ยบนทางนิดเดียวนั้น เข้าบ้านได้ก็คว้า

ปากกาเคมีเขียนบนกระดาษขาว-เทาว่า เครื่องจักรชำรุด ขายถูกๆ ด่วน! แล้วเดิน

เอาไปแปะที่ตัวถังรถขุดคันหนึ่ง ด้วยความโมโหอันพลุ่งพล่านไม่รู้สาเหตุ ผมจึงเดิน

ไปยกป้าย มีกองวัสดุบนไหล่ทาง ไปวางไว้กลางเลนทั้งสองฟากถนน ขีดฆ่าข้อ

ความ เครื่องจักรกำลังทำงานทิ้ง ให้เหลือเพียงข้อความ โปรดใช้ทางเบี่ยง ผม

ใช้เท้าที่เหยียบกองขี้หมามาอย่างตั้งใจนั้น บดขยี้ข้อความลงไปอย่างรุนแรงสะใจ

แล้วเหวี่ยงทิ้งไปในร่องร้างที่มีหนูยั้วเยี้ย  ฝนเริ่มตั้งเค้าทะมึน เกิดเสียงกัมปนาทกึก

ก้องไปทั่ว ทุกบ้านต่างรีบปิดประตูหน้าต่างเมื่อฝนเม็ดแรกตกลงมา ผมวิ่งจ้ำอ้าวเข้า

บ้านไม่คิดชีวิต ผมไม่อยากเปียกฝน ผมกลัวเป็นหวัด ได้ยินเสียงอาแป๊ะขายกาแฟ

ตะโกนอย่างเสียสติ ว่าอาเพศเกิดขึ้นแล้วๆ ให้เรารีบสะเดาะเคราะห์และขอขมาองค์

พระโดยเร็ว


เข้าบ้านได้ฝนก็กระหน่ำลงมาไม่ลืมหูลืมตา กระแสไฟฟ้าขัดข้องขึ้นในทันใด ผมยืน

มองกองดินลูกใหญ่กลางถนนนั้น ในใจคิดอยากให้มีใครสักคนที่มันชอบขับรถ

ทะเล่อทะล่าไม่ดูตาม้าตาเรือวิ่งชนเข้าอีกสักครั้ง อยากให้กองดินที่พูนขอบร่องนั้น

ถล่มลงมากลบไอ้หนูบัดซบสกปรกนั้นให้หมดสิ้นไป มันจะได้กลายเป็นแอ่งน้ำที่ใส

สะอาด มีพันธุ์ปลามากมายให้ผมได้นั่งเงียบๆตามลำพัง


เงาเมฆทะมึนครึ้มคลุ้มได้ทาบทับลงบนหลังคาบ้านยาย แรงลมกรรโชกยอดไม้ใหญ่

ใบดกจนโงนเงน หลังคากระเบื้องดินเผาเริ่มหลุดปลิวทีละชิ้นทีละใบ ฝุ่นจากกอง

ดินฟุ้งว่อนหนาทึบสาดซัดเม็ดกรวดไปยังบ้านทุกหลัง ฟ้าแลบแล้วผ่าเปรี้ยงเป็น

ระยะ ท้องฟ้ามืดดำเหมือนคืนเดือนมืด ท่ามกลางความตระหนกขวัญหายอันอึกทึก

ครึกโครมนั้น ผมแว่วยินเสียงตะบันหมากของยายเงียบๆ  เสียงนั้นช้าลงๆ เบาลงๆ

จนแทบไม่ได้ยิน ผมเสียใจที่ความคิดอยากมีแอ่งน้ำไว้ตกปลาทำให้ยายเดือดร้อน

จริงอยู่ที่แม้ว่ามันจะมีสาเหตุมาจากขี้เมาคนนั้นเตะหมาในวัดก็ตาม หรือมาจากการ

วางท่อระบายน้ำที่ไม่เคยเสร็จสิ้นสมบูรณ์สักครั้ง แต่ไม่ว่าจะด้วยเพราะเหตุใดก็

เถอะ เสียงตะบันหมากของยายก็ราลงไปแล้ว ผมปิดประตูหน้าต่างทุกบาน วิ่งขึ้น

เข้าห้องนอนซ่อนตัวจากโลกโกลาหล  ตัวสั่นงันงกด้วยความตกใจ มือเท้าเย็นเฉียบ

ทำอะไรไม่ถูก ยายจะตายในหน้าฝนนี้ไหม? เรือนไม้นั้นจะแข็งแกร่งเพียงพอแค่

ไหนกับแรงลมที่โหมปะทะ? หากเกิดน้ำท่วมเราจะยังพอเรียกขอความช่วยเหลือ

จากใครไหนได้บ้าง? สารพัดคำถามวนเวียนตอกย้ำหาคำตอบ ผมทรุดตัวลงนั่งหมด

แรง กำมือที่เปียกชื้นด้วยเหงื่อไว้แน่น เงอะๆงะๆทำอะไรไม่ถูก  แล้วผมก็ตัดสินใจ

ร้องไห้สะอื้นเสียงดัง





๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๑

Comment #3
Posted @5 ต.ค.51 20.50 ip : 118...18

ผมยังงงต่อวิธีการจัดวางเลยแฮะ


ทนๆอ่านหน่อยนะครับ 555555


อ้อ นี่เป็นเรื่องสั้นรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๕๑ ที่เพิ่งประกาศเมื่อวันก่อนครับ

Comment #4
Posted @5 ต.ค.51 21.42 ip : 210...108

ถ้าพี่ paste จากเวิร์ดโดยตรงเลย โดยที่ตอนที่พี่หมี่พิมพ์มีการกด Tab

มันจะเป็นแบบนี้แหละพี่ ผมก็เคยเป็น ต้องเอา Tab ออกก่อน

...

ขอเซฟไว้อ่านนาน ๆ เหมือนเดิมนะครับ

Comment #5
Posted @6 ต.ค.51 1.16 ip : 202...206

:d  :d  :d  +)

Comment #6
น้องคุณครับ (Not Member)
Posted @15 ต.ค.51 23.33 ip : 118...166

สงสารยายจัง ขออย่าให้น้ำท่อมหาดใหญ่น๊ะครับ

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 48 user(s)

User count is 2429796 person(s) and 10181968 hit(s) since 18 พ.ย. 2567 , Total 550 member(s).