ว่าด้วยชนชั้น

by หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก @15 เม.ย.54 20.45 ( IP : 113...173 ) | Tags : เรื่องสั้น-ความเรียง

1.


หลายปีมานี้ได้ยินคำว่าชนชั้นเยอะมาก แรกๆก็ตะลึง ด้วยไม่ได้ยินคำนี้มานานแล้ว ต่อมาก็ชินๆกันไป จำได้ว่าเมื่อสัก 20 กว่าปีก่อน หากใครพูดคำนี้ก็จะถูกมองด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ ความที่มันเป็นคำของคอมมิวนิสต์นั่นแหละ สังคมไทยตอนนั้นก็เพิ่งผ่านพ้นสงครามความคิดมาหมาดๆ (นับเอาจากนโยบาย 66/23) พอสังคมไทยเริ่มเข้าสู่โลกาภิวัตน์ คำๆนี้ก็แทบจะหายไปจากพจนานุกรมเลย  มันเป็นยุคทุนนิยมครองโลกเบ็ดเสร็จและเด็ดขาด  ทุนใหญ่มหึมาของไทยเองก็เรียนรู้วิธีเอาตัวรอดจากทุนข้ามชาติ การต่อสู้ระหว่างทุนดุเดือดอย่างยิ่ง ดำเนินการปะทะอย่างดุเดือดและสนุกสนาน จนผมเองยังคิดว่าสังคมเราคงจะต้องก้าวเดินไปบนหนทางแห่งทุนเช่นนั้น ยิ่งเมื่อคุณทักษิณเข้ามาเล่นการเมือง และบริหารราชการแผ่นดินด้วยระบบบริษัท ก็คิดว่าเราจะเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยทุนแน่แท้


เกริ่นพอหาตะเข็บน่ะครับ(ฮา)

ต่อมาในปีหลังๆผมก็ชินกับคำว่าชนชั้นที่ได้ยินพร่ำเพรื่อตลอด ครั้นถามว่าอะไรคือชนชั้น ดูกันตรงไหน ก็อึกอักๆอยู่ในคอ ในเฟสบุ๊คก็เคยถามเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนอีกที(ฮา) ว่าช่วยอธิบายคำว่าชนชั้นหน่อยได้ไหม บางทีคำๆนี้อาจถูกบัญญัตินิยามขึ้นใหม่แล้วผมไม่รู้ก็ได้ ก็ได้รับคำตอบว่าเธอไม่ได้เข้ามาเพื่อทะเลาะกับใคร เป็นซะงั้นไป ผมถามเธออย่างสุภาพครับ ด้วยความอยากรู้จริงๆ หรือบางทีที่ผมเข้าใจตลอดมานั้นผิดก็ได้

ผมมีช่างตัดผมเจ้าประจำ ตัดมา 20 กว่าปีแล้ว แกแดงแปร๊ดเลยล่ะ แต่เราคุยกันได้ ไม่มีทะเลาะทุ่มเถียง ทุกครั้งที่คุยสนุกสนานเฮฮา ทั้งที่ยืนคนละขั้ว ขอออกตัวก่อนนะครับ ผมไม่เหลืองนะครับ ที่เคยส่งบทกวีขึ้นเวทีเหลืองตอนโน่น ก็เพราะเข้าร่วมด้วยในฐานะที่ไม่เอาคุณทักษิณ (ซึ่งผมมีเหตุผลหนักแน่นส่วนตัว)  ครั้นหมดภารกิจนั้น และเห็นภารกิจของเหลืองที่ขยายกว้างออกไป ผมก็โจนตัวเองออกมาครับ แต่เอ่อ ผมก็ไม่ ปชป. นะครับ (ฮา) วุ้ย ทำไมการมีชีวิตในประเทศนี้ลำบากลำบนจริงๆวะเนี่ย

หากช่างตัดผมของผมเข้ามาอ่านมาเห็น ก็ขออนุญาตนะพี่ 555 ขอเอามาเขียนเล็กๆน้อยๆพอเป็นกรณีศึกษาเป็นวิทยาทานเท่านั้นนะครับ

แกก็พูดคำว่าชนชั้นนี้บ่อยมาก จนวันหนึ่งถามแกว่าชนชั้นหมายถึงอะไร ยังไง ลักษณะเป็นอย่างไร อะไรเป็นตัวกำหนด  แกก็ตอบไม่ได้ แกตอบไม่ได้แกก็บอกตรงๆว่าไม่รู้ ถามผมกลับ ก็บอกแกว่าผมไม่รู้หรอก เพราะผมไม่ใช่มาร์กซิสต์ ได้แต่เคยได้ยินคำๆนี้มานานมาก  แต่ก็บอกแกว่าจะจัดใครให้อยู่ชนชั้นไหนนั้น ก็ให้ดูที่การผลิตทั้งกระบวนการ คนทำนาปลุกข้าวก็เป็นชนชั้นชาวนา คนใช้แรงงานก็เป็นชนชั้นกรรมกร พ่อค้าทุนน้อยก็เป็นนายทุนน้อยหรือกระฎุมพี ทุนใหญ่ก็เป็นนายทุนใหญ่ เจ้าก็เป็นศักดินา

แต่-

จริงหรือที่ดูกันแค่นั้น?


เลยยกตัวอย่างของแกนี่แหละ ที่แกว่ามีที่นาอยู่ 200 กว่าไร่ ผมบอกว่านี่ไม่ใช่ไพร่ ไม่ใช่ชนชั้นชาวนาแล้วล่ะ แต่เป็นเจ้าที่ดิน แม้ว่าที่นานั้นจะปลุกอะไรไม่ได้ผลก็ตาม และเมื่อแกหันมาตัดผมในห้องแอร์ แกเป็นชนชั้นไหน? รายได้ที่พอต่อการส่งลุกเรียนหนังสือ + เรียนพิเศษ ค่าแอร์ค่าไฟ ซื้อบ้าน 1 หลัง นี่ย่อมเป็นชนชั้นกลางแน่นอน

หรือกรณีที่ทุนใหญ่กว้านซื้อที่ดินจำนวนมหาศาล เพื่อทำโครงการจัดสรร หรือปลุกข้าวพันธุ์เลวไว้เลี้ยงสัตว์ในฟาร์มของตน เขาเป็นแค่ชนชั้นกลางค่อนไปทางสูง,กระฎุมพี,หรือ? ก็ไม่น่าใช่ เพราะเขาสามารถที่จะบันดาลอะไรก้ได้ด้วยเงิน และจำนวนที่ดินมหาศาลนั้นก็ต้องเรียกเขาว่าศักดินาด้วย

หลายๆกรณีที่เป็นปัญหาใหญ่โต ไม่ว่าที่บ้านกรูด,เขื่อนลำมูน,ท่อก๊าซจะนะ,ป่าวัดจันทร์ เชียงใหม่, หรือการเผาสลัมใน กทม. กรณีนากุ้งที่ระโนดอันเคยเป็นแหล่งผลิตข้าวพันธุ์ดี ทำให้ผมสงสัยว่าชนชั้นไหนกันแน่ที่ทำร้ายคนยากคนจนมาอย่างเปิดเผย
ชนชั้นไหนกันแน่ที่ทำร้ายคนยากจน ที่สูบเลือดเอาจากปูมาโดยตลอด ที่ขุดรีดและไม่เคยสนองตอบกลับคืนแม้แต่น้อยเลย





ผมงงกับคำว่าชนชั้นในปัจจุบันพอสมควร วิถีชีวิตของทุน มองให้ดีก็ไม่ต่างเลยกับวิถีศักดินาในสมัยอยุธยา สงสัยว่าทำไมจึงไม่อธิบายคำว่าชนชั้นให้เข้าใจร่วมกันอย่างถูกต้อง  และจะจัดคุณทักษิณให้อยู่ในชนชั้นไหน? ทุน?


สำหรับผม คุณทักษิณนี่แหละคือโมเดลของศักดินาใหม่ที่ชัดเจนที่สุด


2.

สังคมเราทะเลาะด้วยเรื่องระบอบการปกครองมานานเนิ่นมาก ครั้นเหลียวมองโลก ผมกลับพบว่าไม่เคยมีการปกครองในประเทศไหนที่ดีเลย หมายความว่าไม่มีการปกครองไหนที่ไม่เป็นปัญหาต่อประชากร แม้จะอนุโลมเอาคนหมู่มากเป็นหลักก็ตาม ไม่มีการปกครองใดเลยที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมาแล้วอยู่ร่วมอย่างผาสุขถ้วนหน้า ปชต. อาจจะเป็นวิถีที่เลวน้อยกว่าตามความเข้าใจของเรา

แต่ ปชต. อย่างมะกัน,อังกฤษ,ฝรั่งเศส ก็มีปัญหาต่อประชากรประเทศอื่น หรือแม้กับของตนเองก็เถอะ กรณีลิเบียที่พันธมิตรร่วมมือกันกำราบกัดดาฟี่ มีคนกี่มากน้อยที่เชื่ออย่างบริเสุทธิ์ใจจริงว่าทำไปเพื่อพลเมืองลิเบีย เพราะดูแล้วก็คล้ายๆกับยุคหนึ่งของเขมรหรือเวียตนาม

ผมคิดว่าโลกเรามีการปกครองเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่เป็นอยู่มา คือเผด็จการ ทั้งเผด็จการชนชั้นกรรมาชีพและเผด็จการรัฐสภา ไม่เคยมีประเทศไหนทะลุขั้นตอนนี้ไปสู่สังคมอุดมคติได้เลย

ขีดวงกลมมา 1 รูป ตั้งต้นจรดปากกาลากเส้นมาทางขวาตามรอยขีด ให้หยุดตรงจุดที่ตั้งฉากกับจุดตั้งต้น แล้วสมมติเรียกส่วนนี้ว่าประชาธิปไตย จากนั้นก็ทำเ่ช่นเดียวกันเพียงแต่เป็นด้านซ้าย สมมติให้เป็นคอมมิวนิสต์

ทั้ง 2 ฟากนี้มีขั้นตอนเช่นเดียวกันคือ- 1.ปฏิวัติ เป็นการถอนรากถอนโคนสังคมเก่าทั้งระบบให้สิ้นซาก แล้วสถาปนาสังคมใหม่

2.ฮันนี่มูน เป็นช่วงเฉลิมฉลองความสำเร็จของการปฏิวัติ บ้านเมืองยังไร้ขื่อแป โกลาหลวุ่นวาย

3.เผด็จการชนชั้นกรรมาชีพ,เผด็จการรัฐสภา เป็นช่วงที่ผู้ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาตามอุดมคติของตน

4.สังคมคอมมิวนิสต์,สังคมประชาธิปไตย ซึ่งอยู่ในจุดเดียวกับจุดที่ตั้งฉากกับจุดตั้งต้น ความหมายของสังคมนี้อยู่ที่การละลายความแตกต่างล้ำเหลื่อมของคนออกไป มีความเท่าเทียม มีสิทธิเสรี

โลกผ่านมาเพียงขั้นตอนที่ 3 เท่านั้น ยังไม่มีประเทศไหนบรรลุวัตถุประสงค์ของการปฏิวัติได้เลย และว่ากันจริงๆนั้นเราคงไม่มีทางพบสังคมเช่นนั้นได้แน่บนโลกใบนี้

แต่เราก็ถกเถียงทะเลาะจนกระทั่งสามารถฆ่ากันได้ ด้วยเรื่องของวาทกรรม ปชต. ทั้งที่เราไม่เคยรู้จักมันจริงๆ ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมันมาเลย

วันก่อนมีน้องนักศึกษาคนหนึ่ง กล่าวว่า ปชต. นี้ไม่ดีเลย เพราะทำให้คนทะเลาะกัน และอีกมากที่เขาอธิบายด้วยความไม่รู้ ผมมาขบคิด ทำไมเราต้องเป็น ปชต.? หรือคอมมิวนิสต์? หรือเผด็จการ? เราหลงติดอยู่กับนิยามและรูปแบบใช่ไหม?

หากเรามีผู้ปกครองที่ชื่อฮิตเลอร์ขึ้นมา แล้วสามารถทำให้เราอยู่ดีมีสุข กินอิ่มนอนหลับ มีความสุข ไม่อายโลก มีเกียรติ เราจะยินยอมไหม?

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราต้องบอกตัวเราเองด้วย ว่าผู้ปกครองจะโกงกินทำเลวอย่างไรก็ได้ ขอให้ทำงานก็พอ-ไม่ได้เด็ดขาด เพราะคุณูปการคือคุณูปการ แต่ผิดคือผิด จะเอามาหักลบกันไม่ได้อย่างเด็ดขาดโดยสิ้นเชิง

3.


เราเป็นประเทศเกษตรกรรม อยากจะเป็นครัวโลก เราปลูกข้่าวพันธุ์ดีส่งขายต่างชาติ แล้วที่เหลือกากนั้นเอามาให้เรากิน สินค้าเกษตรเป็นรายได้หลัก

แต่เราผลิตปุ๋ยเองไม่ได้นี่สิเรื่องแปลก

จริงๆเราผลิตเองได้ และผลิตแล้วก็เหมาะกับสภาพเกษตรของเรา ทุกวันนี้ปุ๋ยสั่งมาจากสวีเดน ซึ่งทำให้เกษตรกรต้องใช้ปุ๋ยแพง ต้นทุนสูง ผู้บริโภคก็ต้องซื้อผลผลิตในราคาแพงตามไปด้วย

แต่ต้นทุนสูง โดยเฉพาะค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลง เกษตรกรก็ต้องพึ่งพิงอยู่กับดินฟ้าอากาศเป็นหลัก ปีไหนอาเพศก็วายป่วงกันถ้วนหน้า ในขณะที่โรงสี และพ่อค้าคนกลางที่ไม่ได้ลงทุนในการผลิต ยังคงกำไรเอาไว้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ยิ่งผลผลิตมีน้อย ราคาก็ยิ่งสูงขึ้น ตามลักษณะดีมานด์ซัพพลาย

เกษตรกรต้องใช้ปุ๋ยใช้ยาฆ่าแมลง เพราะต้องการปลุกพืชให้ได้ผลผลิตที่สูงเพื่อการส่งออก เป็นการปลูกพืชเชิงเดี่ยวเพื่อการพานิช นั่นทำให้เมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว สินค้าก็จะออกมาพร้อมกัน ทำให้เกิดการล้นตลาด และราคาก็จะลดลงฮวบ

นะครับ แผนพัฒนาฯระดมให้ปลูกพิชเชิงเดี่ยวเพื่อการพานิช ทำให้เกษตรกรใช้ปุ๋ย,ยา ที่มีราคาแพง ต่อมาผลผลิตล้นตลาด ราคาตก เกษตรกรขาดทุนยับ แต่นายหน้าพ่อค้าคนกลางยังคงกำไรเหมือนเดิม

มันเป็นทอดๆ แต่หากเราผลิตปุ๋ยเอง เกษตรกรก็จะใช้ปุ๋ยในราคาต่ำ ลดต้นทุนการผลิตได้

เราผลิตปุ๋ยเองได้ไหม?

ได้แน่นอน แต่ที่ไม่ผลิตเป็นเพราะอะไร?

การรวมกลุ่มของคนเสื้อแดง ส่วนใหญ่มาจากเหนือและอีสาน ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขารักทักษิณ นั่นเพราะทักษิณทำให้เขารู้สึกมีคุณค่าขึ้นมา หลังจากที่ทุกรัฐบาลเพิกเฉยละเลยพวกเขามาโดยตลอด และหากพรรคไหนอยากได้ใจคนพื้นที่นั้น ก็ต้องทำให้พวกเขารักและลืมทักษิณให้ได้ ซึ่งยากมาก

ตามจริงเรื่อง "รักทักษิณ" นี่แหละ คือหัวใจของการชุมนุม และการแก้ปัญหาเรื่องการชุมนุม ซึ่งตอนนี้ "รัก" นั้นได้หลอมคนเสื้อแดงให้คิดกลับไป "ไม่รัก" คนที่เขาคิดว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามทักษิณแล้วด้วยซ้ำ กระบวนการตรงนี้หากรัฐไม่คิดแบบย้อนไปย้อนมา ไล่หาโครงสร้างของ "รัก" รัฐก็มีแต่จะเพลี่ยงพล้ำ และที่สุดก็ต้องพ่ายแพ้ไปทั้งองคาพยพ ไม่ก็เกิดการนองเลือดขึ้นอย่างใหญ่โตมโหฬารแน่

กลับมาที่เรื่องคนเสื้อแดงชุมนุมกันต่อ

หลายปีมานี้เราจะเห็นได้ว่าเสื้อแดงเหนียวแน่นเพียงไร การชุมนุมแต่ละครั้งมากมายมหาศาล และพร้อมเพรียงพร้อมใจกัน ทุกคนภูมิใจในความเป็นไพร่ ไพร่ในความหมายของคู่ตรงข้ามกับศักดินา

แต่เสื้อแดงทุกคนเป็นไพร่จริงหรือ?


ชนชั้นไพร่คือชนชั้นล่างของสังคม มีรายได้เขม็ดแขม่ มีชีวิตที่ต้องดิ้นรนตามยถากรรม แต่การรวมกุล่มชุมนุมนั้น เรากลับพบว่ามีคนทุกชนชั้นเข้าร่วม แต่อาศัยวาทกรรม "ไพร่" เป็นศูนย์กลาง เพื่อสื่อเป็นสัญญลักษณืถึงการต่อสู้ ว่าศัตรูของตนนั้นคือชนชั้นไหน ด้วยการกล่าวหาถึงความอยุติธรรม การกดขี่ข่มเหง การแทรกแซงกระบวนการปกครองและศาล สองมาตรฐาน
ผมสนใจรากหญ้าที่มาจากเหนือกับอีสานมากกว่าคนชั้นกลางแดง เพราะสงสัยนักว่าพวกเขาเป็นชนชั้นไพร่จริงหรือ? ยากจนจริงหรือ?

อย่างที่เคยกล่าวไว้ ว่าชนชั้นนั้นดูกันที่การผลิตทั้งกระบวนการ และปัจจุบันก็ต้องดูไปถึงรายได้ ,วิถีชีวิตปฏิบัติด้วย

คนรวยคนจนดูกันตรงไหน? หากตอบเอาเท่ก็ต้องบอกว่า ดูที่ความพึงพอใจในตนเอง มีน้อยแต่สุข ก็รวย ประมาณนั้น หรือจะตอบตามกระแส ว่าดูกันที่เงินในกระเป๋าสิ หมายถึงดูที่การใช้จ่าย ดูที่เครดิต

แต่สิ่งหนึ่งที่่ดูเหมือนจะไม่มีใครนึกถึงเลย ก็คือการมีบ้านอยู่ มีที่ทำไร่นา พูดแบบกิ๊บเก๋ก็คือดูที่ปัจจัยการผลิต

ชาวนาที่ผลผลิตน้อย จะเพราะอะไรก็แล้วแต่ หรือชาวนาที่มีต้นทุนสูง แต่ขายขาดทุน อย่างน้อยเขาก็ยังมีที่นาให้ทำ ขี้หมูขี้หมาก็มีบ้านที่เป็นของตนเอง ซึ่งหากเทียบกับไอ้เคว็ดเพื่อนผม ที่เกิดในเมืองอย่างหาดใหญ่ ทุกวันนี้ยังทำงานงกๆ ไม่มีเงินซื้อบ้าน ไม่มีเครดิตไม่มีที่ดินค้ำ แต่มีซัมซุง กาแลกซี่ เวฟทู ด้วยการผ่อนกับแหล่งเงินกู้ตามกฏหมาย ใครจนกว่ากัน?

ความเหมือนของไอ้เคว้ดกับรากหญ้าแดงก็คือความจน ความจนที่จนเหมือนกัน แต่คนละแบบ ชาวนาไม่มีเวฟทู แต่เขามีบ้านที่ไม่ต้องเช่า เวฟทูและบ้านคือทรัพย์สินที่มีราคา หากจะขายต่อเวฟทูคงได้แค่ไม่กี่บาท แล้วไอ้เคว็ดก็คงหาซื้อโนเกียรุ่น 3310 มาใช้

การจัดชนชั้นในปัจจุบัน ด้วยวิธีคิดแบบสมัยอยุธยา จึงอิหลักอิเหลื่อและประดักประเดิกเหลือเกิน เพราะมันลื่นไหลได้ทุกเมื่อ เช่นเมื่อก่อนนี้ ฝ่ายซ้ายเคยจัดสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ในชนชั้นศักดินา ต่อมาไม่นานนี้ ก็จัดให้เป็นทุนเก่า จนปัจจุบันก็ยังสรุปไม่ได้ว่ากษัตริย์ควรอยู่ในชนชั้นไหนดี การปราศรัยจึงสะเปะสะปะเลอะเทอะเลื่อนเปื้อน ไปกันคนละทิศละทาง เพระาหากจัดในทุนเก่า ก็จะตอบคำถามถึงท่าทีต่อทุนใหม่ไม่ได้ หากจัดในศักดินา ก็จะตอบคำถามถึงลักษณะทางชนชั้นศักดินาใหม่ไม่ได้เช่นกัน

ทำไมเราไม่ผลิตปุ๋ยเอง? ทำไมเราไม่สร้างรถเอง? ทำไมเราส่งเสริมให้ปลูกต้นยูคาฯ แล้วซื้อกระดาษนำเข้า? อีกหลายทำไม ล้วนตั้งคำถามขึ้นเพื่อต้องการคำตอบ ว่าชนชั้นไหนกันแน่ในปัจจุบันที่ทำร้ายชนชั้นล่างมาโดยตลอด


เขียนเล่นๆลงโอเคเนชั่นน่ะครับ  เขียนบทแรกเสร็จก็ต่อบทสองบทสาม เพราะเห็นมันขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ  หากยังขึ้นอยู่อีกก็จะเขียนต่อให้จบ  ปรากฏว่าถูกดันตกไปแล้ว ก็เลยเซฟมาให้อ่านที่นี่รวดเดียว

จะมีเขียนต่ออีกไหม?  หากว่างจะมาว่ากันให้จบครับ

Comment #1
Essen (Not Member)
Posted @16 เม.ย.54 16.07 ip : 115...117

ท่านสับสนอะไรหรือเปล่าครับ?

บทที่  1 ท่านบอกว่ามึนงงกับคำว่า "ชนชั้น"  แต่ท่านกลับตั้งคำถามว่า "ชนชั้นไหนกันแน่ที่ทำร้ายคนยากจน" นั้นมิเท่ากับท่านเริ่มแบ่งแล้วหรือว่ามี คนจน - คนรวย ซึ่งอยู่กันคนละชั้นแล้ว ท่านเริ่มกระบวนการแบ่งชนชั้นแล้ว ท่านยังจะถามหาชนชั้นไหนอีก?

อยู่ ๆ ท่านก็สรุปว่า "คุณทักษิณนี่แหละคือโมเดลของศักดินาใหม่" อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ท่านยังอธิบายชนชั้นไม่ได้เลย ยังไม่อธิบายศักดินาเลย ท่านก็สรุปเสียแล้ว มึนเกินไปไหมท่าน?

บทที่ 2  อยู่ ๆ ท่านก็สรุปอย่างไม่มีที่มาที่ไปว่า "ผมคิดว่าโลกเรามีการปกครองเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่เป็นอยู่มา คือเผด็จการ ทั้งเผด็จการชนชั้นกรรมาชีพและเผด็จการรัฐสภา" แล้วเผด็จการมันเป็นอย่างไรครับ? ช่วยอธิบายหน่อย! หากข้อสรุปนี้เป็นจริง งั้นก็แสดงว่าตอนนี้เราอยู่ในยุคเผด็จการ ใช่ไหม?

บทที่ 3 เขียนค่อนข้างมั่วนะครับท่าน ขึ้นต้นด้วย ประเทศเกษตรกรรม จะผลิตปุ๋ยเอง ตามด้วยคนเสื้อแดงรักทักษิณ แล้วก็อธิบายเรื่องไพร่ด้วยวิธีคิดแบบสมัยอยุธยา แล้วก็สะเปะสะปะเรื่องทุน เรื่องกษัตริย์  วกไปตั้งคำถามเรื่องปุ๋ยเรื่องกระดาษอีก ผมว่าท่านค่อย ๆ คิดทีละเรื่องจะดีกว่าไหมครับ?

คิดเรื่องกระบวนการทำนาตั้งแต่เริ่นจนครบวงจรก่อนดีไหม?
คิดเรื่องผลิตปุ๋ยตั้งแต่เริ่มจนครบวงจรก่อนดีไหม?
คิดเรื่องทำกระดาษตั้งแต่เริ่มจนครบวงจรก่อนดีไหม?

แล้วท่านจะมองเห็นผู้คนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตเป็นชั้น ๆ แล้วท่านจะเริ่มมองเห็นทุนเห็นที่ดินเข้าร้อยรัดในกระบวนการ แล้วท่านจะมองเห็นช่องว่างที่ดึงดูดให้แต่ละปัจจัยเข้าไปกระทบกระทั่งกัน มองเห็นอารมณ์แห่งยุคสมัย ความเป็นไปที่ธรรมดา

อ่านประวัติศาสตร์หลาย ๆ เล่มแล้วจะเห็นวงจรเดิม ๆ หมุนวนไม่รู้จบ แต่อย่าเพิ่งสรุป

ค่อย ๆ คิดทีละอย่างดีไหม มหากวี?


:d

Comment #2
Posted @17 เม.ย.54 17.29 ip : 118...183

สวัสดีครับคุณ Essen

คือถ้าอ่านรวดเดียวแล้วเข้าใจก็ต้องนับถือว่าเทพมากๆละครับ เพราะทั้งหมดนั้นผมพิพม์เอาสดๆลงโอเคเนชั่น จริงๆมันก็มีเพียงบทแรกบทเดียว พูดอย่างกว้างๆแค่รักษาสมาชิกภาพของที่นั่น ด้วยไม่ได้โพสอะไรเลยมานานพอควร ก็ไม่รู้หรอกครับว่าที่นั่นเขาจะตัดสมาชิกที่ไม่มีโพสอะไรเลยบ้างหรือเปล่า

มันไม่ใช่บทความเสียด้วยซ้ำไป เป็นแค่การเขียนเล่นๆ แต่แน่นอนที่ผมต้องรับผิดชอบมันอยู่

ส่วนบทที่ 2 กับ 3 นั้น ก็ตอบตามที่มีคนมาเมนต์เท่านั้นเอง เขาตอบอะไร ผมก็ว่าไปตามนั้น มีฉีกออกไปบ้างก็อย่าได้ถือสาเลย

บทที่ 1 นั้น

"บทที่  1 ท่านบอกว่ามึนงงกับคำว่า "ชนชั้น"  แต่ท่านกลับตั้งคำถามว่า "ชนชั้นไหนกันแน่ที่ทำร้ายคนยากจน" นั้นมิเท่ากับท่านเริ่มแบ่งแล้วหรือว่ามี คนจน - คนรวย ซึ่งอยู่กันคนละชั้นแล้ว ท่านเริ่มกระบวนการแบ่งชนชั้นแล้ว ท่านยังจะถามหาชนชั้นไหนอีก?"

ตอบ-

ทั้งหมดที่ผมเขียน เป็นการยกตัวอย่างที่ได้คุยกับผู้คนมา และผมเริ่มสงสัยในคำว่า "ชนชั้น"  ด้วยที่ผมเข้าใจเรื่องชนชั้นมามันไม่ได้เป็นลักษณะที่เห็นอยู่นี้ ผมอาจเข้าใจผิืดมาโดยตลอดก็ได้ คือเท่าที่พอรู้มาบ้าง คนที่จะพูดถึงชนชั้น ที่เข้าใจชนชั้น ที่เห็นและรู้ลักษณะทางชนชั้นนั้น ต้องเป็นมาร์กซิสต์ มันคนละอย่างกับคำว่า คนจนคนรวย หรืออาจจะจัดให้เป็นการแบ่งชนชั้นก็ได้ ไม่ว่ากัน แต่ก็คงเป็นการจัดที่กว้างมากๆ ยากแก่การอธิบาย

ผมไม่ได้ถามหาชนชั้น ผมคงเขียนไม่ชัดคุณจึงเข้าใจผิดไป ผมพูดว่า "ผมงงกับคำว่าชนชั้นในปัจจุบันพอสมควร" ครับ

คือผมกำลังงงกับคำว่าชนชั้นที่มีคนพูดและใช้กันเกร่อมากในปัจจุบัน เลยยกตัวอย่างที่ช่างตัดผมของผม แกแดงแว้งๆ ไปตัดผมทีไรก็คุยการเมืองทุกที สไตล์ใครสไตล์มัน แต่เวลากันลูกผมนี่ผมห้ามเด็ดขาด(ฮา) ไม่มีไรหรอกครับ แค่เห็นมีดโกนคมๆวาววับมาปาดลูกผมตั้งแต่ขมับยันท้ายทอยเลยไปถึงลูกกระเดือก ผมก็เสียววาบๆ  20 กว่าปีที่ตัดผมมาก็เลยไม่เคยกันครับ  พี่ช่างตัดผมแกเรียกตัวเองว่าไพร่ทุกคำ ผมเลยถามแกว่าไพร่คืออะไร เป็นอย่างไร แกก็บอกผมตรงๆว่าไม่รู้ ผมก็เลยอธิบายเท่าที่พอจะเข้าใจให้แกฟัง แต่ถ้าเป็นเสื้อแดงคนอื่นๆผมก็คงไม่กล้าอธิบาย นี่อาศัยว่าสนิทกัน พูดเล่นเรื่อยเปื่อยเอาจริงเอาจังกันได้ทุกเรื่องก็เลยไม่ต้องอาศัยความกล้าใดๆทั้งสิ้น ที่ไม่กล้าเสื้อแดงคนอื่นๆ ก็เพราะเข้าใจว่าพวกเขาคงเข้าใจในคำว่าชนชั้นดีกว่าผมแล้ว ด้วยบนเวทีพูดคำนี้บ่อยมาก ผมไม่ได้ติดตามเวทีหรอกครับ ไม่ว่าแดงหรือเหลือง แต่ก็เข้าใจเอาเองอีกนะแหละ ไม่เช่นนั้นเสื้อแดงจะภูมิใจในความเป็นชนชั้นไพร่ของตนได้อย่างไร เพราะคำๆนี้ความหมายในปัจจุบันมันได้กลายไปแล้ว

กลับมาที่พี่ตัดผมต่อ-

แกบอกผมว่าแกมีที่นาที่บ้านเกิด 200 กว่าไร่ ประโยคนี้เราจะจัดชนชั้นแกอย่างไรดีครับ? ในเมื่อมีปัจจัยการผลิตมากมายขนาดนั้น ก็ต้องเป็นชนชั้นเจ้าที่ดินแน่นอน ถือศักดิ์ตามที่นาที่ดิน ก็ต้องเป็นศักดินาน้อยๆล่ะ

แต่เอาล่ะ แกไม่ได้มีเชื้อเจ้า ก็ต้องอนุมานให้เป็นเจ้าที่ดินเอกชน ซึ่งก็คือทุนนั่นแหละ คราวนี้แกว่าที่นานั้นหากขายก็คงได้เงิน คงรวย ว่างั้น แสดงว่าที่นาของแกต้องเป็นผืนที่มีราคา ปัจจัยการผลิตของแกมีมูลค่าขึ้นมาแล้วล่ะ หากไม่ร้อนเงินก็บวกโน่นบวกนี่เป็นมูลค่าเพิ่มขึ้นมาได้อักโข

แต่แกเลือกจะมาเป็นช่างตัดผม!

หมายความว่าแกเป็นช่างตัดผมที่มีที่นาจำนวน 200 กว่าไร่อยู่ในมือ แกซื้อบ้านที่ได้มาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานตัดผม ส่งลุก 2 คนเรียนหนังสือ+เรียนพิเศษ คนโตเรียนมหาวิทยาลัย คนสุดท้องเรียนมัธยมปลายรอเข้ามหาวิทยาลัย แค่การได้เรียนพิเศษนี่ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ไพร่แล้วล่ะครับ เพราะค่าเรียนพิเศษมันแพงมาก

นี่คือความสงสัยต่อคนเสื้อแดง ว่าที่เขาใช้เรียกตัวเองว่าไพร่นั้น จริงแท้แค่ไหน

เพราะการจัดชนชั้นตามที่ผมเข้าใจมา เขาดูกันที่การผลิตทั้งกระบวนการ อย่างพี่ตัดผมแกเปิดร้านติดแอร์ หัวละ 100 กว่าบาท กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแกเป็นใครครับ? ก็ต้องคนชั้นกลางขึ้นไปเท่านั้น แล้วรสนิยมคนชั้นกลางคุณก็น่าจะรู้อยู่ว่าวิไลแค่ไหน มันมีร้านตัดผมหัวละ 30 บาท 50 บาทอยู่ สภาพร้านเป็นยังไงก็คิดดูเอง การบริการเป็นยังไงก็ลองมาตัดผมดู แต่อย่าแคะขี้หูนะครับ หมอบอกว่าการให้ช่างตัดผมแคะขี้หูให้เสี่ยงต่อเนื้อเยื่อหูอักเสบและหนวก

การผลิตของพี่ตัดผม แกใช้ปัตตาเลี่ยนไฟฟ้า เปิดแอร์เย็นฉ่ำ มีไดร์ผมพร้อมเสร็จสรรพ มีสระผมด้วย ตัดเล็บมือเล็บเท้า ร้านของแกอยู่กลางเมืองใหญ่อย่างหาดใหญ่ ที่ได้ชื่อว่าที่ดินมีราคาแพงวายป่วงที่สุดแห่งหนึ่ง ดังนั้นบ้านเช่าจึงอย่าถามราคาเลยครับว่าเท่าไหร่ อ้อ แกซื้อบ้านไว้หลังหนึ่งด้วย แม้จะไม่ใช่ตรงไข่แดงของเมือง แต่อย่างที่กล่าวว่าราคาบ้านและที่ดินของหาดใหญ่แพงวายป่วงนี่ล่ะครับ มีเพื่อนทำงานที่ดินหรือธนาคารหรือคนที่เคยมาทำธุรกิจที่นี่ ก็ลองถามเขาดู

ไพร่ตรงไหน?

เพราะนอกจากที่ว่าแล้ว เราต้องมาดูเรื่องรสนิยม วืถีชีวิต วัฒนธรรมด้วย ทั้งหมดที่พูดถึงพี่ตัดผมนั้น ก็พอจะเห็นรสนิยม วิถีชีวิต วัฒนธรรม บางอย่างที่จัดอยู่ร่วมกับชนชั้นกลาง แกอาจจะกลางแบบย้อยๆลงมาต่ำเหมือนผมหรือใครต่อใครในประเทศนี้ แต่ก็ยังกลางอยู่ดี ในขณะที่ทักษิณเป็นชั้นกลางที่ค่อนข้างสูงสุดปิรามิดของชนชั้นนี้

ผมไม่เคยทำงานบริษัทหรือราชการ แต่ก็พอได้เห็นวิถีหลายๆอย่างของกลุ่มคนจำแนกนี้อยู่ ง่ายๆก็ลูกค้าที่ร้านหมี่ของผม ครูผู้หญิงคนหนึ่ง อายุประมาณ 50 จริตกิริยาการแต่งตัวดูปั๊บก็ต้องบอกว่าผู้ดี ซึ่งแกก็ผู้ดีจริง พูดจาอ่อนหวานมีคะมีขาไม่กระโชกโฮกฮาก ซึ่งแกจะเป็นผู้ดีตามคติเก่าของเราหรือไม่ผมก็ไม่ทราบ และไม่คิดถาม แต่เอาเป็นว่านี่คือจริตมารยาทของผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ชนชั้นกลาง มีรถเก๋งขับแม้จะเป็นวีออสไม่ใช่รถยุโรป แต่ที่ผมหัวเสียทุกครั้งก็คือการพยายามให้ผมเลาะกระดูกเป็ดออกให้ทุกครั้ง ผมทำให้ได้ อย่างเต็มใจ(แรกๆ) ทั้งที่สงสัยไม่หายว่าทำไมเอาออกเองไม่ได้(วะ) ในเมื่อเป็ดเปื่อยออกขนาดนี้ เด็ก ป.2 มันยังกินเองได้ และไม่มีทางเปื้อนชุดผ้าไหมของแกแน่ หากแกไม่มูมมามตระกละตระกราม วันหนึ่งลูกค้าผมล้นร้าน แรงงานร้านผมมีแค่ 3 คน ยังไงก็เอาไม่ทัน ผมเลยคิดว่าแกคงหยวนๆ ส่งเสริฟไปทั้งกระดูก ปรากฏว่าแกไม่พอใจ ยกกลับมาและชี้นิ้วออกคำสั่งให้ผมเอากระดูกออกให้

จริตมารยาทยังงี้ล่ะครับ ที่พอเป็นตัวอย่างให้เห็นการลื่นไหลทางชนชั้น จากชั้นกลางกลางๆ ก็ขยับไปค่อนข้างสูง หากคุกเข่าเสริฟได้แกก็คงพอใจ

นินทา เอ๊ย ยกตัวอย่างลูกค้าผมมาก็เพื่อให้เห้นชัดถึงการลื่นไหลทางชนชั้นในปัจจุบัน ที่เราจะแบ่งแยกจำแนกตามสมัยอยุธยาไม่ได้แล้ว อีกทั้งยังมีกลุ่มคนประเภทไม่ใช่แต่พยายามทำให้เหมือนใช่อยู่เยอะเแยะ

นี่คือความสงสัยต่อคำว่าชนชั้นที่เสื้อแดงใช้อย่างยิ่งของผม

เรื่องมันมีแค่นี้

Comment #3
Posted @17 เม.ย.54 17.50 ip : 118...183

ต่อๆ-

ในบทที่ 2 นี้ ผมก็คุยกับคนที่คอมเมนต์ในโอเคเนชั่นเท่านั้น แน่นอนที่มันไม่ต่อเนื่องกับบทแรก ซึ่งผมใส่มารว่มด้วยทำไม?

ไม่ทราบครับ (ฮา)

ผมไม่อยากเปิดหัวข้อเอนทรี่ใหม่ในโอเคเนชั่นน่ะครับ ก็เลยตอบแกไว้ในนั้น แล้วพอเอามาลงที่นี่ ผมก็เอามาใส่รวมกันด้วยสิ พับผ่า อันนี้เป็นความบกพร่องของผมเอง เหอๆ

คุณถามว่าเผด็จการเป็นยังไง?

ผมไม่คิดว่าคุณต้องการคำตอบจริงๆหรอก หรือต้องการ?

เพราะคุณสามารถหาเอาจากกูเกิลได้อยู่ และผมไม่คิดว่าคุณไม่รู้ คุณรู้แน่นอน

ในขั้นตอน 4 ขั้นที่ผมว่า ก็จำไม่ได้แล้วล่ะว่าเคยอ่านมาจากหนังสือเล่มไหนเมือ่ปี 2530 ครั้นพิจารณาแล้วก็เห็นด้วยกับขั้นตอน 4 ขั้นนี้ ผมเลยยกเอามาเป็นคำตอบให้คุณอะไรไม่รู้ จำชื่อไม่ได้แล้วที่โอเคเนชั่น เพียงเพื่อชี้ให้เห็นวิวัฒนาการของการปฏิวัติ ที่ประวัติศาสตร์โลกเคยมีมา แล้วพบว่าเราไม่เคยบรรลุถึงสังคมอุดมคตินั้นเลย และแน่นอนที่ปัจจุบันหรือยุคไหนๆ เราล้วนอยู่ภายใต้การปกครองระบอบเผด็จการทั้งสิ้น

สมบูรณาญาสิทธิราช,ฟาสต์ซิสต์,นาซี  ก็เผด็จการบุคคลเดียว คอมมิวนิสต์,ประชาธิปไตย  ก็เผด็จการคณะกลุ่ม

ประโยคช้างบนนั้น ใครที่รักประชาธิปไตยสุดใจขาดดิ้นอ่านแล้วอย่าเพิ่งด่าผมล่ะ(ฮา)

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้คนทุกคนได้รับความเท่าเทียม นี่ไม่ได้หมายความว่าผมสนับสนุนให้ลิดรอนความเท่าเทียมกันนะ

อย่างน้อยมันก็ยังมีชนชั้นปกครองกับผู้ถูกปกครองอยู่ และคนร้อยพ่อพันแม่ในสังคมมันก็ไม่เหมือนกัน สังคมจึงต้องมีกฏระเบียบเพื่อบังคับวินัยสมาชิก ซึ่งก็ไม่ได้ผล 100% ปชต. อาจจะเลวน้อยสุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะสามารถเสรีทางความคิดได้ มันจึงต้องมีกติกาออกมาว่าอย่าเสรีจนไปทับสิทธิผู้อื่น นี่คือการจำกัดขอบเขตเสรีและอิสระ คนหมู่มากไม่เห็นด้วย แต่อำนาจการปกครองอยู่ในมือคนกลุ่มหนึ่ง ที่เขาอ้างว่าประชาชนเลือกเข้ามา อย่างเมกาที่ทำสงครามเวียตนาม หากรัฐบาลเมกาชุดนั้น(ใครแล้วหว่า นิกสันป่าว?) ฟังเสียงประชาชนก็คงยับยั้งการเข้าร่วมสงคราม

ปชต. ที่โลกเป็นอยู่ ทำได้เพียงแค่ตัวแทนเท่านั้นเอง

ครับ คุณเข้าใจที่ผมพูดถูกแล้ว เราอยู่ในการปกครองเผด็จการตลอดมาและตลอดไป

จริงๆแล้วผมว่าเราอย่าซีเรียสกับคำว่าระบอบการปกครองเลย แต่น่าจะดูกันตรงที่ผู้ปกครองปฏิบัติกับเราอย่างไร กินอิ่มนอนอุ่นไหม มีความปลอดภัยในชีวิตและทัพย์สินไหม อายชาวโลกไหม ประมาณนี้ เพราะไม่ยังงั้นเราก็จะติดอยู่เพียงรูปแบบ

ผมอาจเข้าใจอะไรผิดก็ได้ครับ ลองคุยกันดู

Comment #4
Posted @17 เม.ย.54 18.22 ip : 118...183

ในบทที่ 3-

ทั้งปุ๋ย,รถยนต์,นากุ้ง,กระดาษ และอื่นๆอีกที่ไม่ได้เอ่ย ผมเพียงยกตัวอย่างเท่านั้น ก็ด้วยความสงสัยอีกนะแหละว่าทำไมเราไม่ผลิตใช้เอง(วะ) โดยเฉพาะปุ๋ยกับยาฆ่าแมลง เพราะเราเป็นประเทศเกษตรกรรม ที่สนับสนุนการปลูกพิชเชิงเดี่ยวเพื่อการพานิช น่าจะช่วยลดต้นทุนเกษตรกรบ้าง

ก็แล้วใครล่ะที่เป็นผู้นำเข้า?

มันจึงไปตอบคำถามที่ว่าชนชั้นใดกันแน่ที่ทำร้ายคนยากจน

จริงๆคุณน่าจะเอะใจเรื่อง"รัก"ในบทนี้มากกว่า

"ตามจริงเรื่อง "รักทักษิณ" นี่แหละ คือหัวใจของการชุมนุม และการแก้ปัญหาเรื่องการชุมนุม ซึ่งตอนนี้ "รัก" นั้นได้หลอมคนเสื้อแดงให้คิดกลับไป "ไม่รัก" คนที่เขาคิดว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามทักษิณแล้วด้วยซ้ำ กระบวนการตรงนี้หากรัฐไม่คิดแบบย้อนไปย้อนมา ไล่หาโครงสร้างของ "รัก" รัฐก็มีแต่จะเพลี่ยงพล้ำ และที่สุดก็ต้องพ่ายแพ้ไปทั้งองคาพยพ ไม่ก็เกิดการนองเลือดขึ้นอย่างใหญ่โตมโหฬารแน่"

ผมใส่เครื่องหมาย ".." เอาไว้ให้สังเกตด้วยนะ

พูดกลับไปเรื่องเสื้อแดงก็ด้วยเชื่อว่าคำว่าชนชั้นและไพร่ ถูกนำมาผลิตซ้ำใหม่อีกครั้งนั้น เจตนาไม่บริสุทธิ์ คำว่าชนชั้น,ไพร๋,อำมาตย์, อะไรเทือกนี้ เป็นคำที่มีมานานแล้วนะครับ ต่อมาคัฟเวอร์ใหม่โดยฝ่ายซ้ายยุคเดือนตุลา และถูกนำมาทรีบิวท์อีกครั้งโดยแกนนำเสื้อแดง
ผมว่ามันมีความหมายมากกว่าแค่การชี้ชนชั้น ผมจึงเน้นใส่เครื่องหมาย "..." และพูดถึงรัก,ไม่รัก

ไพร่เป็นวาทกรรมเก่าที่ถูกนำมาใช้ใหม่ ในความหมายคู่ตรงข้ามกับคำว่าศักดินา เพื่ออะไรนั้นผมไม่ทราบ(ฮา) คิดเอาดิ

และคุณน่าจะเอะใจในคำว่าทุนเก่าด้วย

คำว่าทุนเก่า เป็นคำที่ซ้ายใช้เรียกศักดินาปัจจุบัน นั่นหมายความว่าเกิดการลื่นไหลของชนชั้นขึ้นมาแล้วโดยฝ่ายซ้ายจัดให้ ดังนั้นศักดินาเก่าก็กลายเป็นทุนขึ้นมาทันที เพราะเริ่มมีการเก็งกำไร หาผลประโยชน์เข้าองค์กร การถือหุ้นต่างๆ

สิ่งที่ผมตะหงิดหัวใจก็คือ ในเมื่อเคยจัดศักดินาให้อยู่ในชนชั้นนายทุน แล้วทำไมจึงไม่พูดถึงทุนใหม่(ใหญ่โตมโหฬาร)อย่างทักษิณด้วย?

นี่คือความเป็นสองมาตรฐานอย่างแท้จริง คือการหลับตาข้างหนึ่ง แล้วขยิบตาอีกข้างหนึ่ง

ครั้นเข้าไคลทางการแย่งชิงมวลชน ก็เรียกทุนเก่านั้นว่าศักดินาอีกครั้ง ตรงนี้ไงครับ ที่ผมบอกว่าผมกำลังงงกับคำว่าชนชั้นที่แกนนำเสื้อแดงใช้ในตอนนี้

เพราะปัจจุบันชนชั้นลื่นไหลไปมา คนขายผักในกระจาด อาจหาทุนเล้กๆเปิดร้านแผงลอย แล้วขยับเข้าในตลาดสด รายได้ที่เพิ่มขึ้นทำให้เขาไม่อาจเป็นชนชั้นล่างขายผักวางกองถนนได้อีก เช่นที่ศักดินาเมื่อเข้าสู่วงจรธุรกิจก็กลายเป็นทุน การแทรกแซงนั้นที่เห็นมาก็ทำกันทุกคณะกลุ่มที่มีอำนาจ เด็กโดนจราจรจับรถ ก็หานายพันนายพลไปเอารถออก ทักษิณเป็นนายกฯก็แทรกแซงไปทุกกระทรวง จนกระทั่งแทรกแซงไปเป็นครูด้วยซ้ำ

ไม่ได้บอกว่านี่เป็นปรากฏการณ์ธรรมดาหรอกนะครับ แต่กำลังบอกว่านี่คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่กับสังคมไทย

คราวนี้ เมื่อศักดินาเข้าสู่กระบวนการทุน กลายชนชั้นตนเองเป็นทุน ภาวะคนยากจนที่โดนรังแกอยู่ก็คือภาวะที่โดนรังแกจากทุนนี่เอง ดั่งตัวอย่างเรื่องปุ๋ย,รถยนต์,ยาฆ่าแมลง,ฯลฯ

ทั้งหมดนี้ผมคิดเรื่องเดียวนั่นละครับ

เสียดายที่คุณไม่ลงชื่อจริง(แบบจริงๆ) แต่ก็นั่นแหละ อินเทอร์เนตก็คืออินเทอร์เนต ไม่เป็นไรครับ

อย่างที่ว่าไว้ ว่าว่างๆจะมาต่อให้จบ ซึ่งอาจหมายถึงการขัดเกลาให้เป็นระเบียบสักหน่อย คือผมทำได้ครับ สม่าชิกทุกคนก็ทำได้ แค่ล็อกอินแล้วเข้าไปจัดเนื้อหาใหม่ ทำให้อ่านง่ายขึ้น

ยินดีคุยครับคุณ Essen เพียงแต่4-5 วันนี้ผมจะไปธุระต่างจังหวัด อาจไม่ได้มาอ่านที่คุณตอบ เอ่อ "ผมจะไม่ได้ใช้เนต 4-5 วันนะครับ"

ส่วนท่านอื่นๆที่จะเข้ามาตอบแสดงความเห็น ก็เชิญครับ ผมไม่ได้คิดถูกไปหมดหรอก ไม่มีทางเช่นนั้นแน่ แต่ขออย่างหนึ่ง กรุณาอย่าตอบส่อเสียด เกิดการทะเลาะกันขึ้นมานะครับ และกรุณาตอบแบบให้ห่างคุกไว้ด้วย และขออนุญาตลบความเห็นที่ไร้สาระ,หมิ่นเหม่,น่ารังเกียจนะครับ

คุณลูกหมีเวบมาสเตอร์จัดการลบทันทีได้เลยครับ

แสดงความคิดเห็น

« 3575
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 2 user(s)

User count is 2278195 person(s) and 9090265 hit(s) since 25 เม.ย. 2567 , Total 550 member(s).