M-e-e P-e-d

ไร้เดียงสา ๑). หล่อนเป็นกะหรี่    แต่สูงชั้นหน่อยก็ตรงที่ประจำการใน ค็อกเทลเลาจน์หรูแห่งหนึ่ง  หล่อนสวยเอาการทีเดียว    มีคนทึกทักจะให้หล่อนเป็นคนเหนืออยู่เรื่อย    แม้จะพร่ำบอกถึงถิ่นกำเนิดแท้จริงก็ยังไม่มีใครยอมเชื่อ  ทำไม?    คนถิ่นอื่นจะเป็นกะหรี่บ้างไม่ได้หรือไง?    หล่อนมักจะค้อนและด่าผู้ชายเฮงซวยเหล่านี้ว่าไอ้พวกหน้าโง่อยู่ในใจ      หล่อนอยู่ในชุดแดงเลือดนก    ติดซิปหลังยาวแต่ก้นถึงต้นคอ    ผ่าข้างทั้งสองสูงพอเห็นขาอ่อนรำไร    ไม่มีแขนเสื้อ    และคว้านคอลึกลงมาถึงเนินอกขาวๆ    กะหรี่บางคนนึกอิจฉาหล่อน หล่อนนั่งชั่วโมงที่นี่นานแล้ว    เตะตาแขกด้วยสันจมูกสวย ปากเรียวบาง    และเรือนร่างเล็กๆได้ส่วน    ไม่ดัดจริตทำขวยอายเมื่อแขกมองมาหื่นๆ    หล่อนเข้าใจไอ้พวกกลัดมันเหล่านั้นดี    จึงสบตาตอบโต้อย่างท้าทายทุกครั้ง    นิ่งและหน้าตายจนแขกติดกับ    หล่อนคือผู้ล่า    เหยื่อไหนที่หล่อนไม่ปารถนาให้ลิ้มชิมรสเนื้อหวาน    หล่อนจะไม่แยแสแม้หางตา    หล่อนคือราชินี ณ ที่แห่งนี้    ความสวยของหล่อนสามารถต่อรองกับแม่เลาจน์เลือกคัดแขกได้ตามใจตน    และอาจจะเป็นความจองหองส่วนตัวของกะหรี่คนหนึ่ง    ที่เต้ายังไม่หย่อน  หล่อนทรนงในความเริดหรูของตน!    ความสวยที่พร้อมจะสยบผู้ชายกลัดมันทั้งโลก    ให้มาซุกซบหว่างขาเนียนๆขาวๆได้ไม่ยาก หล่อนเป็นคนเมืองมาจากจังหวัดไกลโพ้น    มีการศึกษาพอที่ จะแต่งหน้าได้ไม่รก    รู้จักซื้อเสื้อผ้าราคาพอประมาณแต่ดูดี    ชื่นชอบโออิชิแต่ก็รู้สึกแซบเสมอกับส้มตำปู    พ่อตายเมื่อหล่อนอายุได้ 5 ขวบ    แม่ผู้มีอาชีพหาบขนมจีนขายก็มีผัวใหม่ในปีถัดมา    หล่อนเริ่มเรียนหนังสือในโรงเรียนเทศบาล    แล้วไปต่อชั้นมัธยมในโรงเรียนที่ใกล้ปิดเต็มที    พบรักครั้งแรกเมื่ออายุ 15    รู้จักรสสัมผัสจูบกอดเมื่อรักกันได้สามเดือน    เดือนที่สี่หล่อนก็ย่ำวิมานฉิมพลีจนเป็นเทือก    มันเป็นความไร้เดียงสาของเด็กสาวคนหนึ่ง    ความไร้เดียงสาอันแสนบริสุทธิ์และน่ารัก    ความฝันแสนสวยประดังประดามามิรู้หยุดหย่อน    มันน่าแค้นใจก็ตรงที่หล่อนไม่รู้ราคาของตน    เทอดทูนความรักปานประหนึ่งบทเพลงบำบวงสรวงสวรรค์    ที่หล่อนต้องพลีร่างเซ่นสังเวย    หากรุ้เดียงสาสักนิดละก็    หล่อนคงมีเงินเก็บมากพอที่จะไม่ต้องมาเป็นกะหรี่เช่นปัจจุบัน รักครั้งแรกผ่านพ้นไปอย่างงุนงง    ไม่รู้ความผิดไม่มีสาเหตุ
หล่อนร้องไห้ฟุมฟายนานนับเดือน    จนมาพบรักครั้งใหม่ที่หมายจะเยียวยาหัวใจดวงบอบช้ำ    เหมือนกามเทพเล่นกล  หล่อนต้องรักแล้วเลิกรักแล้วเลิกเป็นครั้งที่สี่ที่ห้าตามมา    วิมานฉิมพลีอันอลังการกลายกลับเป็นนรกแต่ละขุมที่หล่อนทนทุกข์ทรมาน    วันหนึ่งหล่อนได้ยินคนเคยรักทั้งหลายพูดคุยถึงหล่อนอย่างสนุกปากโดยบังเอิญ    หล่อนร้องไห้ให้กับความไร้เดียงสาอย่างคับแค้น    สูญสิ้นหัวใจจะรักใครอีกต่อไป    ข่าวจากปากต่อปากล่วงไปถึงหูอาจารย์ฝ่ายปกครอง    หล่อนถูกเชิญให้ออกจากโรงเรียนเมื่อกลางเทอม ม.5    แม่ร้องไห้และหวดหล่อนด้วยไม้คานใส่หล่อนไม่ยั้ง    เสียงแม่ก่นด่าสารพัด  สาปแช่งไม่มีชิ้นดี    แม่หวังจะให้ลูกสาวคนเดียวของแม่เรียนจบชั้นสูงเท่าที่จะเรียนได้    แม่ไม่สนใจเรื่องวิมานฉิมพลีอะไรนั่น    ขอให้หล่อนเรียนให้จบชั้นสูงๆก็เป็นพอ  แม่เหนื่อยมามากเหลือเกินแล้ว    แม่พร่ำพรรณนาถึงความผิดหวังและคั่งแค้น    หล่อนกัดกรามแอ่นหลังรับไม่คานที่หวดกระหน่ำ
หล่อนล้มป่วย    แผลอักเสบกำเริบบวมเป่ง    รอยหวดเฆี่ยน แตกเป็นทางให้เลือดสาวไหลซิบ    น่าแปลกที่หัวใจหล่อนกลับแกร่งและกร้าวขึ้นทุกขณะ    พอกันทีกับความเจ็บปวดใดใด    ความซื่อใสบริสุทธิ์เป็นเพียงมายาภาพชั่วขณะหนึ่ง    อยากจะมีชีวิตอยู่ต้องแกร่ง    หล่อนสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่    ใช้ตีนเขี่ยชุดนักเรียนไปมุมห้อง    รอยปื้นแดงพาดเป็นทาง    ปาดน้ำตาเม็ดสุดท้ายทิ้งซะ    ไพล่มือไปแกะกระดุมเสื้อชั้นใน    ค่อยๆทำอย่างช้าช้า  นิ่มนวลที่สุด      นี่คือสิ่งมีค่าเพียงชิ้นเดียวที่หล่อนมี    ส่องกระจกดูหัวนมที่ยังไม่คล้ำ    เนินอกยังขาวเต้ายังเต่ง    หล่อนยังสาวอยู่    เป็นวัยสาวที่สะพรั่งไปด้วยเลือดฝาดกำดัด      เยื่อพรหมจรรย์นะเรอะ?    มันก็แค่เยื่อบางๆพอๆกับผังผืดสมองพวกผู้ชายเท่านั้น! ๒). หล่อนเป็นกะหรี่    และเขาเป็นแขกหนุ่มที่มาติดพันหล่อน อายุหล่อนคงจะห่างไม่มากไปกว่าสักสองปีสามปี    เขาเป็นแขกที่ซื่อสัตย์ชะมัด    คราใดที่หล่อนไม่ว่าง      เขาจะนั่งคอย    จิบเบียร์เย็นๆฆ่าเวลามองดูหล่อนแนบชิดกับแขกคนอื่น    แม่เลาจน์คอยเอาใจด้วยการเปิดเมนูรูปถ่ายเด็กในตู้    เขาจะพลิกๆไปทีละหน้า    ปิดแล้วส่งคืน    ขัดใจก็ขัดใจ    แต่ความที่เขาเป็นนักท่องราตรีกระเป๋าหนัก    แม่เลาจน์จึงจำเป็นต้องไปแอบยืนค้อนอยู่ห่างๆ    หล่อนเป็นราชินี    เขาก็น่าที่จะเป็นราชาได้    ตราบใดที่เงินยังสามารถสะกดทุกดวงวิญญาณเอาไว้โดยไร้เงื่อนไข
ร่ำลือจนเป็นที่เลื่องลือ    นักเที่ยวหนุ่มหลงรักกะหรี่คนหนึ่ง ไม่น่าจะเป็นไปได้    แต่ทุกคนก็เชื่อเช่นนั้น    เขาเคยซื้อนาฬิกาติโตนีราคาหลายพันมาฝาก    อีกครั้งที่มีน้ำหอมราคาแพงมายัดใส่ในร่องอก    วันหยุดมาฆบูชาที่ผ่าน    เขาชวนหล่อนนั่งรถยุโรปไปเที่ยวชายทะเล    พักค้างในบังกะโลหรู    สูดกลิ่นอายเค็มทะเลส่วนตัวของรีสอร์ท    ที่น่าระลึกถึงอย่างยิ่งก็คือเขาล้วงเอาเงินสองพันยัดเยียดให้หล่อนเป็นค่าตัว    โดยห้ามส่ายหน้า      แต่ขอให้หล่อนส่ายตะโพกแทน    เขาช่างน่าเอ็นดูกระไรเช่นนี้    ไม่มีใครอยากเชื่อ    แต่ทุกคนก็รู้ว่ามันเป็นไปแล้ว หล่อนล่ะ?    หล่อนรู้เพียงว่าเขารูปหล่อ    รวย    และลีลาร่วม รักอันเผ็ดร้อนหลากท่า    ท่อนลำของเขาแกร่งดังดุ้นเหล็ก    เขาเพรียบพร้อมขนาดนี้    ท่าทีสุภาพอ่อนโยนขนาดนี้    หล่อนรักเขาบ้างหรือไม่?    ไม่รู้และไม่เชื่อใจตนไม่เชื่อใจเขานัก      ไม่อยากจะคิด    หล่อนเป็นเพียงกะหรี่    เข้าใจใช่ไหมคำว่ากะหรี่    กระนั้นก็เถอะ-แสงตาของหล่อนก็เป็นประกายวูบวาบเสมอที่เจอเขา    มันเป็นสัญญาณที่หล่อนรอเรียวลิ้นพลิ้วอันแสนวิเศษโดยแท้!    หล่อนเบื่อหน่ายกับการวิดพื้นของไอ้พวกขี้เมาเต็มที    ขยะแขยงกับการตะกรุมตะกรามตายอดตายอยาก    ฟันเหลืองเรอเหม็นกลิ่นเบียร์เน่าๆ    ที่มักจะขบทึ้งหัวนมหล่อนให้ระบม    หล่อนรังเกียจท่านอนหงายพอๆกับที่ต้องขึ้นควบขี่ฝ่ายเดียว    หล่อนถวิลหาเรียวลิ้นและดุ้นเหล็กต่างหาก! เขาเคยเล่าให้ฟังว่า    พ่อเขาเป็นนักธุรกิจใหญ่    เขาดำเนิน ธุรกิจไปตามฐานะทายาทเพียงคนเดียว    พ่อเขาร่ำรวยและมีชื่อเสียงในสังคมชั้นสูง    เขาเอ่ยชื่อดารานักแสดงสาวสวยหลายคน    ที่พ่อของเขาเคยพามาดื่มไวน์ที่บ้าน    ชื่อของสาวสังคมที่มักมากในกามคุณและต้องการเงินซื้อเครื่องเพชรประชันขันแข่ง    จนถึงชื่อของสถานบันเทิงครบวงจรที่พ่อเขาเป็นสมาชิกในวงเงินนับแสนบาท    แม่เขาตายเมื่อเขายังเล็ก    อีกสิบปีต่อมา    พ่อก็พาผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุมากกว่าเขา 3 ปีมาอยู่ร่วมชายคา นี่เมียใหม่ของพ่อ    และเป็นแม่ใหม่ของแก แม่ใหม่กระดากอายเมื่อเขายกมือไหว้    เขาไม่รังเกียจแต่อย่าง ใด    ที่แม่ใหม่จะมีวัยไล่เรี่ยกับเขา    วันที่ชิดใกล็และวัยที่ใกล้ชิด    ทำให้บรรยากาศในครอบครัวอบอุ่นอ่อนโยน    แม่ใหฒ่เป็นผู้หญิงสวย    การบ้านการเรือนเพียบพร้อมทุกอย่าง    พ่อหลงเมียใหม่มากนัก    ซื้อแหวนซื้อเครื่องประดับมาตบแต่งให้ดูสง่สมาราศีขึ้น    ราวกับนางฟ้า-เขารู้สึกภูมิใจแทนพ่อ    เพื่อนฝูงของพ่อหยอกล้อในความโชคดีนี้    และสายตาบางคู่    เขาแอบเห็นแววอิจฉาระคนหื่นหิวฉายชัด    เขาปรายตามองเหยียดๆ    เห็นใจแม่ใหม่ที่ต้องตกเป็นทาสกามทางสายตา    เมื่อมันกลับถึงบ้าน    มันคงเอาแม่ใหม่ของเขาเป็นจินตภาพในการบำบัดความใคร่กับใครสักคนของมันแน่ๆ! พ่อมีงานยุ่งเสมอ    แต่รสชาติข้าวใหม่ปลามันก็ช่างหอมหวาน ชวนให้อาวรณ์      บ่อยครั้งที่พ่อจะสะสางงานให้เสร็จโดยไว    เพื่อจะได้กลับมาคลอเคลียเมียสาว    สำหรับเขาพ่อก็ยังเอาใจใส่ดูแลไม่ขาดหาย    ยังคงเป็นพ่อที่เคยเป็นมา    ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง    บ้านเป็นบ้านที่สมบูรณ์    มีพ่อมีแม่มีลูก    มีเงินมีความสะดวกสบาย    ทุกวันสุดสัปดาห์    ครอบครัวเขาออกไปทานข้าวฟังเพลงนอกบ้าน      บางเดือนก็ไปคาราโอเกะ      พ่อมักจะทำให้เขากับแม่ใหม่ขำ    ด้วยเสียงร้องที่เพี้ยนแปร่งไปจากที่เคยได้ฟังเพลงนั้นๆ    พ่อไม่ได้แกล้ง    แต่พ่อมักจะทำหน้าเด๋อด๋าว่าแกล้งเสียยังงั้นแหละ    เป็นครอบครัวที่เปี่ยมสุข    แม่ใหม่เองก็ไม่อยากเชื่อว่านี่เป็นความจริง    เธอรู้สึกดีและอบอุ่นในบ้านหลังงาม    มองพ่อกับลูกหยอกล้อด้วยเรื่องสัพเพเหระอย่างรักใคร่    ไม่มีอะไรกั้นกางระหว่างคนทั้งสามได้เลย เขาเพียบพร้อมขนาดนี้      เขามารักหล่อนจริงๆหรือ?
หล่อนเองก็ตอบได้ยากนัก      หล่อนเป็นกะหรี่    เขาเข้าใจไหมกับคำว่ากะหรี่      กะหรี่ที่มีผัวครึ่งค่อนเมือง    หากคำว่าผัวหมายถึงใครก็ได้ที่หล่อนหลับนอนด้วย    แต่หากเป็นความรักจริงๆล่ะ?    เป็นความรักจริงแท้ที่มีพื้นฐานความเป็นมนุษย์รองรับ    หล่อนเหยียดมุมปากด้านขวาโดยไว    แล้วรีบสลัดไล่ความคิดนั้นออกไปทันที หล่อนมองแขกที่กำลังชี้นิ้วมาที่หล่อน    เหงื่อหัวล้านเยิ้มดัง ตกมัน    คงเหม็นบรรลัยเลยนะมึง  พุงที่พลุ้ยนั้นแอ่นไปแอ่นมาด้วยความเมา    น่าคลื่นไส้น่าขยะแขยง    และน่าอ้วกใส่เป็นที่สุด ไปเอากับหมาเถอะไอ้ห่าจิก    หล่อนพึมพำอยู่ในตู้เบาๆ แม่เลาจน์เห็นปากขมุบขมิบและแววตารังเกียจ    แม้จะไม่สู้พอ ใจนักที่หล่อนเล่นตัวไม่สมอาชีพกะหรี่    แต่หล่อนก็มีความสวยเกินกว่าจะจิกหัวมาตบล้างน้ำได้      เสี่ยเจ้าของคงไม่พอใจแน่    หากเกิดเรื่องระหองระแหงจนเป็นเหตุให้หล่อนย้ายไปอยู่ที่อื่น      ธุระอะไรมิใช่ที่จะต้องเสี่ยงกับการตกงาน      หล่อนเป็นสินค้าชิ้นดีที่ต้องทะนุถนอมต่างหาก โดยไม่คาดคิด      นักเที่ยววัยหนุ่มคนนั้นก็เข้ามา    เขาหายไป นานทีเดียว      จนหล่อนนึกว่าเขาคงเบื่อหน่ายรสชาติเดิมๆของหล่อน    นี่เป็นเหตุใหญ่ที่หล่อนหงุดหงิดมานับเดือน      เดี๋ยวเถอะ    เดี๋ยวจะต่อว่าให้สาแก่ใจเลยคอยดู    เอ๊ะ?-นี่รักเขาแล้วหรือนี่?    ไม่หรอก  ไม่ใช่ความรัก    แต่เป็นอะไรล่ะ?    เป็นความคิดถึง    เป็นความห่วงหาห่วงใย    เป็นกามรสที่แสนเอร็ดอร่อย      หรือเป็นคำตอบที่เติมช่องว่างชีวิตให้เต็ม?    ช่างเถอะ-นั่นเขานั่งบนโซฟาแล้ว      หล่อนรู้เพียงว่าหล่อนดีใจ      ความเบื่อหน่ายจืดชืดถูกปลิดทิ้งโดยพลัน    หยิบกระเป๋าถือ    จัดชุดให้เรียบร้อย    แล้วเดินออกจากตู้โดยไม่แยแสไอ้หัวล้านแม้แต่น้อย เกิดอะไรขึ้น?    ตาฝาดไปหรือเปล่า?    นั่นเขากำลังนั่งหมด เรี่ยวแรงทอดตัวเหยียดยาว    ใบหน้าเหมือนเกรียมทุกข์มานับปี      กลิ่นเหล้าราคาถูกคลุ้งหึ่งทางลมหายใจ      หล่อนชะงักนิดหนึ่งเมื่อเห้นเขากำลังร้องไห้ ๓). เขาเดินเคียงคู่ขึ้นอพาร์ตเมนท์ที่หล่อนอาศัย    เขาควักกระเป๋า กางเกงจนปลิ้นเพื่อหาเศษเงินจ่ายค่าแท็กซี่      หล่อนกำลังรับรู้บางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเขาแล้ว เขาหลับไปโดยไม่ได้อาบน้ำ    ร่างสูงเพรียวแน่นิ่งราวซากศพ
หยดหยาดน้ำยังคงเกรอะกรังขนตาเป็นดวง    ค่อยๆเอามืออังหน้าผาก    ตัวร้อนผ่าวด้วยพิษแอลกอฮอร์    หล่อนคว้าขนหนูชุบน้ำเย็นๆ    บิดให้พอหมาดๆ    ชโลมน้ำหอมอ่อนลงบางๆ    ปิดไฟเพดานแล้วเปิดไฟหัวเตียง    พินิจพิจารณาดูก็พบว่าหนุ่มหน้ามนคนนี้บอบบางนัก    ดวงหน้านวลใยไร้สิวไร้ฝ้า    ฝ่ามือที่นุ่มแสนนุ่ม    มันน่าจะนุ่มกว่าเต้าของหล่อนด้วยซ้ำ    ขนแขนสีทองไรไรเข้ากันได้ดีกับผิวขาวเหลือง    เอ๊ะ-นาฬิกาและแหวนหัวไม้สักของเขาหายไปไหน? หล่อนเช็ดไปตามเรือนร่างเบาๆ    ซึมซับความร้อนระอุคลุ้ม คลั่งทั้งมวลให้สงบเย็น      มีรอยฟกช้ำเป็นปื้นๆบริเวณชายโครง    เขาโดนไม้คานฟาดมาหรือไร?      หล่อนเว้นรอยปื้นนั้น    มันควรจะใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นมากกว่า    แกะกระดุมกางเกงยีน      ยกก้นแล้วเลื่อนลงมาถึงหัวเข่า    ถอดออกจนหมด      หัวใจเต้นมิเป็นส่ำ    ความตื่นเต้นที่เคยรับปรากฏชัดในมโนภาพ    เขาน่าจะมีสติสักนิด    ลืมความทุกข์โศกชั่วคราวสักครึ่งชั่วโมง    นิ้วเรียวของหล่อนเกี่ยวขอบกางเกงในสีเลือดหมู    รูดลงมาทีละน้อย    ขนอันดกดำก็ฟูขึ้นเป็นอิสระ    หล่อนถอนหายใจเฮือกแล้วเข้าห้องน้ำ เขาตื่นมาเกือบเที่ยง    แดดกล้าส่องมาทางประตูหลังห้อง
เสียงพัดลมครางส่ายไปมา    คอแห้งดั่งดินแล้งผาก    ขมับปวดจนเส้นเต้นตุบตุบ    งุนงงและตกใจในความแปลกตา    เขาพยายามยันตนลุกขึ้นจากเตียง    แต่แล้วหัวอันหนักอึ้งกับท้องไส้ที่ปั่นป่วนก็ฉุดเขาให้ล้มตัวนอนหมดแรงดั่งเดิม    ลมหายใจเหม็นเหมือนละมุดเน่า    คลื่นไส้อยากจะอ้วก    เพดานห้องหมุนคว้างจนเขาหลับไปอีกครั้ง ตื่นอีกครั้งก็พบว่าไฟหัวเตียงเปิดสว่างจ้า    ประตูหลังห้องถูก ปิดลงกลอนแน่นหนา    อาการเมาค้างทุเลาลงไปมาก    ความหิวโหยจนไส้ขดขมเข้ามาแทนที่      นี่ที่ไหนวะ?    เขามองไปรอบๆ    ผนังด้านหน้ามีตู้เย็นขนาดเล็ก    ถัดไปซ้ายมือเป็นโต๊ะมีกับข้าววางอยู่    ด้านขวาเป็นทีวีและสเตอริโอชุดแพง    ชั้นวางซีดี-ม้วนเทปเป็นระเบียบ    ด้านซ้ายเป็นตู้เสื้อผ้า      โต๊ะเครื่องสำอาง    นี่ที่ไหนวะ?    คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกสักที    เขามาที่นี่ได้อย่างไร?    ใครเป็นคนพามา?    เขาค่อยๆรื้อฟื้นความทรงจำลางเลือนนั้น    พ่อจับได้ว่าเขาแอบได้เสียกับแม่ใหม่    จับได้คาหนังคาเขาในขณะที่เขากำลังกระเด้าเอาเป็นเอาตาย    แล้วยังไงอีก?    ใช่!-พ่อชกต่อยเขาอุตลุด    เขาป้องปัดพัลวัน    แม่ใหม่หวีดลั่นอกสั่นขวัญแขวน    ไงอีก?-พ่อปรี่ไปจิกหัวแม่เลี้ยงแล้วตบไม่ยั้ง    เขาดึงแม่ใหม่มากอดเอาตัวขวางไว้    พ่อตัวสั่นริกริกโกรธจนไม่รับฟังอะไรอีกทั้งสิ้น    ไม้กอล์ฟข้างๆจึงถูกพ่อหวดมาอย่างแรง    เขานึกปะติดปะต่อได้เท่านี้    มือก็เผลอลูบไปบนรอยไม้กอล์ฟ
ชุดนอนใครวะ? ชุดสีชบา    ตัวเล็กไปหน่อย    ช่างมัน-เขาเพลียเกินจะทบทวน ความทรงจำ  หรือพิถีพิถันในเรื่องชุดนอนได้อีกต่อไป    โผเผคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ      ฝักบัวฉีดน้ำมาเป็นสาย    เขาหลับตานิ่ง    ปล่อยให้น้ำไหลรดผ่านจากเส้นผมจรดปลายเท้า    ชำระความร้อนผ่าวและคราบไคลสกปรกลงท่อให้สิ้น    สดชื่นและเหม่อลอยอยู่กับความเย็นฉ่ำ พ่อไม่เข้าใจ    จนป่านนี้พ่อยังไม่เชื่อว่าแม่ใหม่รักพ่อเพียงคน เดียวอีกหรือ?    พ่อเคยเห็นแววตาแจ่มใสเวลาพ่อกลับบ้านบ้างไหม?    เคยสังเกตุกิริยาร่าเริงดั่งลูกแมวตัวเล็กยามได้คลอเคลียบนตักเจ้าของบ้างไหม?    ความรักของพ่อมันคืออะไร?    คือการโอ้โลมสวาทกับสาวคราวลูกเนื้อหนั่น    คือการเป็นเจ้าของเพียงหนึ่งเดียว    ที่ห้ามขาดผู้หญิงในครอบครองจะหาความสุขในสิ่งที่พ่อให้ได้ไม่เต็มที่      พ่อรู้บ้างไหม?    ไอ้พวกสาวสวยผู้ดีที่พ่อเคยมีอะไรๆด้วยนั้น  ลับหลังมันพูดถึงพ่อว่าอย่างไร    ฝันไปเถอะพ่อ    ขอให้พ่อจ่อมจมอยู่กับความฝันไร้สาระนั่นต่อไป      ตกเป็นขี้ปากให้อีพวกนั้นหัวเราะเสียให้พอ      กระจอก!    พ่อกระจอกนัก    ยังมีวิธีหลายร้อยหลายพันอย่างวิธีให้พ่อเลือกใช้      งัดมาสักวิธีไม่ได้หรือพ่อ?      ให้แม่ใหม่ของผมได้มีความสุข      ความสุขอันสมบูรณ์ครบถ้วนจากชายคนรัก ตัดขาดกับผมแน่หรือ?      ผมเป็นลูกและพ่อเป็นพ่อนะ
ถ้าวิญญาณแม่รู้พ่อจะอธิบายอย่างไร?    ไอ้ลูกสารเลวมันตีท้ายครัว?    ไอ้ลูกระยำมันเหี้ยเกินจะเลี้ยงขุนต่อไปได้?    เชื่อเถอะแม่ไม่เชื่อหรอก    เพราะความกระจอกของพ่อ      แม่รู้เต็มอกจนตายไป พ่อเข้าใจบ้างไหม?    แม่ใหม่ของผมรักพ่อ      และลูกคนนี้ ของพ่อก็รักพ่อสุดซึ้ง    ผมเป็นผู้ต่อเติมชีวิตของพ่อให้เต็ม    คนที่ได้รับความสุขเต็มอิ่มคือแม่ใหม่    และพ่อเป็นผู้ได้รับความสุขจากแม่ใหม่ในรูปของความอบอุ่นเกลียวกลม    พ่อไม่ปารถนาชีวิตคู่ที่ยืนยาวหรือ?    แม่ใหม่นั้นเหมือนลูกแมว    ร่าเริงคุ้นมือแต่เจ้าของ    แต่พ่ออย่าลืม-ความซุกซนอยากรู้อยากเห็นมันก็เป็นนิสัยของลูกแมวด้วย! หล่อนกลับถึงห้องตี 3      เขายังไม่หลับ      ตาต่อตาสบกันเป็น ครู่      หล่อนเลิกคิ้วให้แล้วเดินไปนั่งบนเตียง      แต่เขากลับขมวดคิ้ว เป็นคุณ? ฮื่อ-เป็นไง?  สบายขึ้นไหม? ผมเมาหนักไปหน่อย ซื้อราดหน้ามา 2 ห่อ  กินเลยไหมล่ะ? ผมเมาขาด    ไม่รู้เกะกะอะไรไปบ้างไหม? มีโค้กเย็นๆมาด้วยนะ กลิ่นราดหน้าโชยกรุ่น    ทำให้ต้องรีบลุกจากเตียง
อร่อยดีนี่ หิวอยู่แน่ๆเลย ๔). ก็ไม่น่าไปเอาเมียพ่อนี่นา ผมกำลังช่วยพ่อ หมายถึง? ยังไม่เข้าใจอีกหรือ?    พ่อผมกระจอก    และแม่ใหม่ก็ยังสาว    ผมไม่เชื่อว่าความรักเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง    ไม่เชื่อว่าความรักจะดลบันดาลใดใดให้ได้ดั่งใจคิด ฟังนะ-ผมรักพ่อ    ผมรู้ว่าพ่อมีความสุขมากกับเมียใหม่    แต่แม่ใหม่ของผมยังสาวซ้ำยังสวย      วันแรกที่เราทำผิดในสายตาของพ่อนั้น      เธอร้องไห้เพราะอารมณ์ค้าง    พ่อเดินออกจากห้องไป      โดยแม่ใหม่ต้องช่วยเหลือตัวเอง หล่อนไม่ได้ฟังเขาเลย    ภาพครั้งหล่อนยังสวมชุดนักเรียนผุด ขึ้นมาโดยพลัน    เหตุการณ์ที่แม่ใหม่ของเขาประสบ    หล่อนก็เคยเจอ    จำไม่ได้หรอกว่ากับผู้ชายคนไหน    แต่ไม่ใช่สามคนแรกในชีวิตของหล่อนแน่    วันเวลานั้นหล่อนเจนจัดเสียแล้วกับกามคุณ    รู้รุกรู้ถอย    รู้พลิกรู้แพลง    และรู้ผ่อนคลายอีกฝ่าย    ผู้ชายคนนั้นยังไม่ประสีประสา      ตื่นเต้นจนหน้าซีดเผือด      มือเย็นราวซุกอยู่ในน้ำแข็งมาเป็นสิบปี    ฟันกระทบกุกกักๆ    และได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าทำอะไร    ครั้นพอหล่อนบอกให้เขาช่วยปลดตะขอยกทรง    เขากลับทรุดตัวลงนั่งหมดแรง      ยามนั้นหล่อนภูมิใจนักหนาที่ได้เปิดซิงเด็กหนุ่มอ่อนหัด      เสียงตะขอหลุด      เสียงยกทรงถูกโยนลงบนเตียง      มือเขาพัลวันอยู่กับเต้านมไม่ห่าง      ไม่นานเลย&&. ๕). เขาตื่นแต่เช้า    เสื้อผ้าชุดเดียวได้ถูกซักรีดอย่างดี    ชายหนุ่ม ผู้มีเรียวลิ้นเกร็งแกร่งและดุ้นเหล็ก!      กินข้าวอิ่มแล้วก็ต้องเช็ดปาก    แคะขี้ฟันอย่าให้มีอะไรติดอยู่ตามซอก ผมจะไป รู้แล้ว คงคิดถึงคุณ ไปหาที่ทำงานได้ มันต้องใช้เงิน งั้นมาที่นี่ ผมรักคุณ &&&& ผมรักคุณ แน่ใจ? &&&&.. หล่อนบิดขี้เกียจ      นานมาแล้วตั้งแต่หล่อนเป็นกระหรี่ หล่อนไม่เคยตื่นเช้าเลย    แดดอ่อนๆหมอกบางๆลมเย็นๆ      หล่อนแทบจะจำไม่ได้เอาเสียแล้ว
ฉันจะไม่ถามล่ะว่าคุณจะไปไหน ผมจะกลับบ้าน บอกแล้วไงว่าไม่ถาม ผมจะมาหาคุณ มีเงินหรือ? ที่นี่ หล่อนปลดผ้าขนหนูออก    จูบปากเขานุ่มนวล    ลิ้นต่อลิ้นสัมผัสแผ่ว    หล่อนไพล่เอาลิ้นไปกระทุ้งแก้มเขา    แล้วตวัดมาตามไรฟัน เพื่อให้คุณคิดถึงฉันอย่างแน่ใจ หล่อนเป็นกะหรี่    และยังคงเป็นกะหรี่อยู่อีกต่อไป ส่วนชายหนุ่มผู้มีชีวิตพิศดารพลิกแพลงเหลือหลายนั้น      ไม่เคยปรากฏกายมาเยี่ยมหล่อนอีกเลย  ไม่ว่าจะเป็นที่ค็อกเทลเลาจน์หรูแห่งนั้น    หรืออพาร์ตเมนท์ที่หล่อนเคยเอื้ออาทรเขาในวันคืนเลวร้าย    หล่อนอาจอ่อนไหวบ้างกับความอ่อนโยนที่นานๆจะได้พบเจอสักครั้งในชีวิต    แต่เมื่อหลุดลอยหายวับล่วง      หล่อนก็แกร่งพอที่จะยิ้มมุมปาก    ปลดตะขอยกทรง    ส่องกระจกดูเต้าที่ยังเต่งอยู่บ้าง    หัวนมอาจคล้ำไปนิด    แต่ก็ยังคงชูชันเสมอที่ถูกมือชาย    นี่ต่างหากล่ะของจริง!    ของจริงที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตและวิญญาณให้ทรงตัวอยู่ในโลกใบนี้ได้    นี่ต่างหากเล่า! มันก็เหมือนกับการกินราดหน้านั่นแหละ    เมื่ออิ่มแล้วก็ควร

เช็ดปาก    อ้อ-ไม่ควรลืมแคะขี้ฟันออกจากซอกด้วยนะพ่อหนุ่ม    ผู้มีเรียวลิ้นเกร็งแกร่งและดุ้นเหล็ก!

//กำลังรอการตีพิมพ์ในรวมเรื่องสั้นจากนักเขียนหลากหลาย  โครงการของนักเขียนหนุ่ม-ศิริวร  แก้วกาญจน์


ชุติมดี  สิริคม ๒๔  กุมภ์  ๒๕๔๖