มาจากร้านหมี่เป็ดศิริวัฒน์

by หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก @2 ธ.ค.46 16.24 ( IP : ) | Tags : เรื่องสั้น-ความเรียง

มาจากร้านหมี่เป็ดศิริวัฒน์ ๑). แม่เล่าว่าตอนท้องข้าพเจ้า    แม่ฝันเห็นสร้อยคอทองคำเส้นเบ้อเร่อ เบ้อร่า    เหลืองอร่ามเรืองรองอยู่จับตาตรึงใจ    แม่ถืออยู่ในอุ้งมืออย่างมีความสุข    และกำมันไว้แน่นแนบทรวงอกอยู่อย่างนั้น& ๒). ร้านหมี่เป็ดศิริวัฒน์เปิดทำการมาตั้งแต่ปายังหนุ่ม    แรกเริ่มเดิมที จริงๆนั้น    ข้าพเจ้าไม่ทราบแน่ชัดหรอกว่าปาเคยขายอะไร  ที่ไหน  อย่างไรมาก่อน    ได้ยินได้ฟังแกเล่าหนหลังก็เมื่อข้าพเจ้าเลิกเกเรเกตุงและเลิกเรียนหนังสือไปนานพอควรแล้ว    จึงปะติดปะต่อไม่ได้ใจความอะไรมากมายนัก    รู้แต่ว่าพอลืมตามาร้องอุแว้ๆ  ถัดจากหน้าปาหน้าแม่  หน้าพี่ทั้งสองและหน้าน้าๆนับสิบ    ก็เป็นหน้าแปลกๆพิลึกๆปากแบนยาวของเป็ดนี่แหละ    แล้วข้าพเจ้าก็หลงรักเป็ดโดยไม่รู้ตัว! ๓). เราโยกย้ายมาปักหลักที่ถนนละม้ายสงเคราะห์นี้ประมาณปี ๒๕๓๔ อยู่ใกล้กับโรงเรียนแสงทองวิทยาและโรงเรียนศรีนคร    ทุกเช้า-ผู้ปกครองจะพานักเรียนมากินหมี่ก่อนไปโรงเรียน    ส่วนใหญ่จะเป็นชั้นประถมที่ซุกซนเหลือกำลัง    พวกเขาจะเดินเข้ามาในร้านอย่างคุ้นเคย  นั่งประจำที่ดั่งนั่งในห้องเรียน  ส่งเสียงพูดคุยจ้อปากและบางคนก็ซนเป็นลิง    สลับกับเสียงคุณแม่ของพวกเขาที่คอยดุด่าว่ากล่าวเมื่อเห็นลิงมันซนกันนัก    ก็มีบ้างที่คุณพ่อคุณแม่บางคนปล่อยปละละเลย    ด้วยอาจเห็นว่าวัยของพวกเขาย่อมซุกซนเป็นธรรมดา    ข้าพเจ้านี่แหละที่จำเป็นต้องดุแบบนิ่มๆงามๆ    อาจถึงขั้นต้องเอ็ดตะโรเมื่อเห็นว่าข้าวของในร้านท่าจะเสียหาย    และหลายครั้งที่ข้าพเจ้าลงมือฟาดเบาะๆ    โดยนัยยะสื่อไปยังผู้ปกครองว่าคุณปล่อยลูกคุณเกินเลยไปมากแล้ว    น้ำตาล , ถั่ว ,พริกป่น    เด็กช้อนเอามาใส่รวมกันแล้วคุณไม่เห็นหรือ?  นั่นมันของกินของเข้าปาก  ไม่ใช่ของให้เด็กเล่น    เงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ที่คุณจ้องแย่งจากโต๊ะอื่นซะบ้างสิ      โตมาจนป่านนี้มีลูกมีเต้าได้ยังไงกันจึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย& ฟาดเสร็จข้าพเจ้าก็ขยี้หัวเด็กเบาๆอย่างเอ็นดู    ก่อนหันไปยิ้มให้ผู้ปก ครองเด็กอย่างเปี่ยมด้วยความหวังดี

แหละเก้าอี้ไม้ทรงสูงที่มีเพียงตัวเดียวในร้านนี่สิ    มันกลายเป็นเก้าอี้ ดนตรีสำหรับเด็กเล็กไปทุกเช้า    สงครามจิตวิทยาสงครามประสาทเริ่มต้นขึ้นด้วยการวิ่งไปจับจองเก้าอี้สูง    ก่อนบอกผู้ปกครองหรืออาจเป็นข้าพเจ้าให้ช่วยยกไปให้ที่โต๊ะ      ในขณะที่เด็กเล็กคนที่วิ่งไปเอามือแตะเก้าอี้ไม่ทันได้แต่ยืนหน้างอ    มองหาข้าพเจ้าอย่างขอความช่วยเหลือ    ข้าพเจ้าจนใจที่จะเอาเก้าอี้ตัวนั้นให้เด็กคนนั้นได้  กติกามันมีอยู่  และเด็กคนที่วิ่งไปแตะไว้ก่อนนั้นเท่านั้นที่สมควรแก่การนั่ง    ทำได้ก็เพียงยิ้มปลอบใจว่าวันหลังค่อยมาแย่งใหม่    วันหลังจะต้องเป็นผู้ชนะ  เพราะผู้ชนะเท่านั้นที่จะได้ปีนเก้าอี้ทรงสูงขึ้นไปนั่งเป็นสง่า    วันนี้หนูแพ้แล้ว  หนูต้องยอมรับความพ่ายแพ้นี้ให้ได้ จากหน้างอๆมองหาความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ใจดีสักคนนั้น  ปาก เล็กๆบางๆก็เริ่มเบ้  หยาดน้ำตาจะออขังรอหลั่งลงมารดแก้มยุ้ยๆ    แล้วเสียงร้องไห้โวยวายก็แผดลั่นสนั่นร้าน  เสียงดุเสียงปลอบอย่างใดไร้ผลโดยสิ้นเชิง    ท่านเคยได้ยินเสียงเด็กที่ร้องไห้แผดกรีดด้วยความเสียใจอย่างที่สุดไหม?  มันบาดลึกเข้าไปในก้อนเนื้อหัวใจผู้ใหญ่อย่างทรมานบัดซบเลยเชียวล่ะ    นอกเสียจากท่านจะเป็นผู้ใหญ่บัดซบเท่านั้น  ที่อาจจะเฉยเมยหรือกระทั่งรำคาญได้ลงคอ  ในขณะที่ข้าพเจ้ายกเก้าอี้ตัวนั้นโดยมีผู้ชนะนั่งยิ้มยินดี    ข้าพเจ้ามิกล้าเหลือบตาเหลียวมองใบหน้าอันรวดร้าวของผู้แพ้ได้เลย    เสียงสะอื้นด้วยความเสียใจเป็นล้นพ้น    ดวงตาน้อยเนื้อต่ำใจที่ยังคงอ้อนวอนร้องขอ    ข้าพเจ้าเอาเก้าอี้พลาสติคมาซ้อนๆกันให้สูง    แทนทดชดเชยเก้าอี้ไม้ที่มีอยู่เพียงตัวเดียวในร้าน    น่าแปลกที่พวกเขาไม่เคยใยดีมันแม้น้อย-สักคนเดียว!  โน่น-เก้าอี้ไม้ทรงสูงตัวนั้นต่างหากที่พวกเขายังจ้องมองมันอยู่ไม่วางตา    แม้กระทั่งเมื่อคุณแม่ป้อนหมี่เข้าปาก  เขาก็ยังสะอื้นพลางอ้าปากเคี้ยวกลืน    ข้าพเจ้าสะเทือนใจยิ่งนัก    และผู้แพ้นั้นแหละที่มักจะได้ไก่กับหมูแดงมากกว่าปกติ-เสมอ กระนั้นก็ตาม-ข้าพเจ้ามักจะยิ้มอย่างมีความสุข    ที่เห็นเด็กเล็กๆวัย ไม่กี่ขวบร้องไห้    เพื่อจะแย่งเก้าอี้ที่มีอยู่เพียงตัวเดียวในร้าน&&ข้าพเจ้ามีความสุขจริงๆ

เพราะที่จริงแล้ว-    มันไม่ใช่แค่เก้าอี้ไม้ทรงสูงราคาถูกๆอย่างที่มัน เป็นเลย    มันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่มีอยู่เพียงอันเดียวในร้านเล็กๆแห่งนี้  และเด็กเล็กเหล่านั้นรู้ว่ามันมีไว้สำหรับพวกเขาเท่านั้น    ความพิเศษนี่แหละที่กลายเป็นของวิเศษให้เด็กๆปรารถนา  ให้พวกเขายึดเหนี่ยว  ให้พวกเขาภาคภูมิ    มันเป็นทิพยรสอีกชนิดหนึ่งในร้านหมี่เป็ดศิริวัฒน์!  นึกภาพดูสิ-เด็กน้อยนั่งเก้าอี้ไม้ทรงสูง  ที่โต๊ะอยู่ในระดับเดียวกับการกินได้พอดีเป๊ะ!  เขาสามารถเอื้อมมือไปดึงทิชชูมาเช็ดปากได้เองเมื่อคุณแม่บอก    เขาสามารถเอื้อมไปคว้าแก้วน้ำอ้อยมาดื่มได้เองเมื่อกระหาย    ก่อนจะปรายตามองไปยังผู้แพ้อย่างเหยียดๆ  เมื่อเห็นพวกเขาร้องบอกคุณแม่ให้ส่งแก้วน้ำเหมือนเด็กไม่รู้จักโต! การเป็นเพียงสิ่งเดียวที่มีอยู่อันเดียวนี่แหละ    คือความวิเศษสุดพิเศษ พิศดารนัก    และการเป็นความวิเศษสุดพิเศษพิศดารนี่แหละ    ที่ทำให้พวกเขารู้สึกถึงการมีตัวตน    รับรู้รสแห่งชัยชนะ    และอาจจะหวนรู้สึกถึงความพ่ายแพ้ในวันที่เขาแพ้      ความรู้สึกสองฝ่ายนี้จะติดตรึงเข้าไปยังก้นบึ้งพวกเขานับนาน  ข้าพเจ้าคาดหวังว่าเขาคงจะยังจำได้ดีถึงความรู้สึกปลื้มปีติ  และความรู้สึกรวดร้าวเมื่อเขาเติบโตขึ้น    เขาคงไม่ลืมดวงตาปวดร้าวของผู้แพ้ที่เขาเองก็เคยผ่านพบมาหลายต่อหลายครั้ง    เพื่อมันจะกลายเป็นดวงตาเมตตาและรักในเพื่อนมนุษย์ด้วยกันในวันที่เขาเป็นผู้ใหญ่เพียงพอ
ข้าพเจ้าไม่เชื่อเด็ดขาด  หากใครจะบอกว่านั่นเป็นการสอนเด็กให้ เห็นแก่ตัว    ทะเยอทะยานอยากได้จนกล้ากระทำการใดใดได้แม้ผู้อื่นจะเสียใจ    อย่าลืมสิ-พวกเขาก็เคยพ่ายแพ้มาด้วยกันทั้งนั้น    กว่าพวกเขาจะโตพอนั่งเก้าอี้พลาสติคได้  เขาต้องผ่านความพ่ายแพ้กันมาคนละเท่าไร?    และจะเป็นผู้ชนะกันได้แค่คนละกี่ครั้ง?  เราควรจะแสดงความหวังดีต่อพวกเขาให้น้อยลงสักนิด    ควรเลิกเอาระบบวิธีคิดแบบผู้ใหญ่    โดยเฉพาะแบบผู้ใหญ่ที่สิ้นคิดไปใช้กับเด็ก    เพื่อปล่อยให้พวกเขาเติบโตตามธรรมชาติตามวัย    เรียนรู้สิ่งต่างๆด้วยตนเอง  ให้พวกเขาเคี้ยวและย่อยเองบ้าง    ก่อนจะเป็นอัมพาตระบบทางเดินอาหาร  ไม่มีเด็กกล้าหาญคนใดจะไม่แย่งชิง  เช่นเดียวกับไม่มีเด็กกล้าหาญคนใดจะไม่หวงแหนมิใช่หรือ?    ทั้งท่านแหละทั้งข้าพเจ้านี่แหละ  ที่จะต้องบอกเด็กด้วยภาษาง่ายๆที่พวกเขาฟังเข้าใจ  ว่าเราแพ้ก็เพื่อให้รู้จักความชนะ  และชนะก็เพื่อให้เข้าใจความพ่ายแพ้    เป็นคำถามสำหรับท่านแหละทั้งข้าพเจ้าโดยแท้ว่าจะบอกพวกเขาอย่างไร
ข้าพเจ้าจึงมักจะยิ้มอย่างมีความสุข    ที่เห็นเด็กเล็กๆนั่งเป็นสง่าบน เก้าอี้ไม้ทรงสูงแล้วยิ้มอย่างปีติยินดี  และนี่คือเหตุผลที่ข้าพเจ้าไม่ซื้อเก้าอี้สูงมาเพิ่มแม้แต่สักตัวเดียว ๔). จำได้ว่า-ร้านแรกที่ปาเปิดขายหมี่เป็ดนั้น  อยู่หน้าโรงหนังโอเดียน
ที่ปัจจุบันรื้อทิ้งกลายเป็นศูนย์การค้า  และย่านท่องเที่ยวช้อบปิ้งสำหรับชาวต่างชาติไปเสียแล้ว    จากนั้นก็ย้ายไปที่ตลาดกิมหยงก่อนจะมาละม้ายสงเคราะห์นี้ เป็นสามสิบห้าปีแห่งร้านหมี่เป็ดศิริวัฒน์ที่ข้าพเจ้าเกิดทัน  เมื่อวัยเยาว์ข้าพเจ้าได้พบกับลูกค้ารุ่นปา  ครั้นข้าพเจ้าเติบโตเป็นเด็กหนุ่ม    ก็ได้พบกับลูกค้ารุ่นน้า  จนข้าพเจ้ายัดเสื้อผ้าใส่ถุงทะเลกลับจากรามคำแหงก่อนเรียนจบ    ลูกค้าก็กลายเป็นเด็กรุ่นน้องไปเสียแล้ว  จากที่เคยเรียกลูกค้าว่าอาเจ็กอาแปะ  ก็เปลี่ยนเป็นเรียกอาเฮีย    แล้วที่สุดก็เรียกหนู!  ลูกค้าที่เคยเรียกข้าพเจ้าว่าไอ้ตี๋    ก็เรียกเป็นน้อง    จนที่สุดก็เป็นพี่ไปจนกระทั่งน้า!    อย่างน่าตกใจ-ที่หลายครั้งเด็กมันเรียกข้าพเจ้าว่าลุง!    ลูกค้ารุ่นปาล้มหายตายจากไปแล้วส่วนใหญ่  ลูกค้ารุ่นน้าก็ห่างหายหน้าไปตามวิถีทางตน  เหลือแต่ลูกค้ารุ่นน้องและหลานนี่แหละในปัจจุบัน  หลายต่อหลายคนที่ข้าพเจ้าเห็นเขามาตั้งแต่ยังเดินตามหลังแม่ต้อยๆ    เหมือนวันเวลาเล่นตลกที่เมื่อข้าพเจ้าจับจ้องใบหน้าพวกเขา    ข้าพเจ้าพบเด็กหนุ่มเด็กสาวเต็มวัย    พวกเขาเรียนจบมหาวิทยาลัยโดยข้าพเจ้าไม่รู้ตัว    และมีไม่น้อยที่หอบลูกกะเตงลูกมาสืบต่อจากรุ่นของพวกเขา
จากไอ้ขี้แยร้องไห้ขี้มูกโป่งเมื่อสมัยร้านอยู่ตลาดกิมหยง    วันนี้เธอ เป็นสาวสวยคมบุคลิกภูมิฐาน    สวยจนข้าพเจ้ามิกล้าเอ่ยปากชวนคุยเหมือนเมื่อเธอยังกะโปโล    และเด็กชายขี้อายที่วันนี้เธอกลายเป็นสาวหน้าอกแหลมเปี๊ยบ!    ที่ข้าพเจ้าไม่กล้าจ้องหน้าอกเธอแม้ว่าจะแปลกใจสักเพียงใดก็ตามที

จากรุ่นสู่รุ่นจากวัยผลัดวัย    มากมายที่ผ่านพ้นลับ  และมากมายที่ยัง คงซื้อขายกันอย่างสม่ำเสมอ    ลูกค้าวัยเดียวกับข้าพเจ้ามากมายที่กลายมาเป็นเพื่อน    ลูกค้าวัยเยาว์มากมายที่เมื่อเริ่มมีคนรักก็มักจะพามานั่งในร้านเล็กๆเดิมๆแห่งนี้    แหละลูกค้าแก่ๆเก่าๆที่ยังหลงเหลือนั้นเล่า    ก็มักจะมาอุดหนุนพร้อมเล่าเรื่องหนหลังสมัยที่ข้าพเจ้ายังจำความไม่ได้    โดยลูกค้าหน้าใหม่ก็เริ่มจะกลายเป็นขาประจำ    สืบรุ่นสืบช่วงต่อกันไป    เป็นความอบอุ่นอย่างน่าชื่นชมประหลาด    เป็นความแน่นแฟ้นอย่างน่ามหัศจรรย์ใจแก่ทุนนิยมโดยแท้! น่องเป็ดชิ้นใหญ่ๆ  ข้าพเจ้าจะกันเอาไว้สำหรับถ้วยสั่งพิเศษเท่า นั้น    ข้าพเจ้าใช้เป็ดบ้านมาตุ๋น  ด้วยความที่เนื้ออร่อยกว่าเป็ดเทศทั้งปวง  ไม่ฟ่ามไม่หยาบและไม่หดตัวเมื่อโดนไฟ  ข้อเสียของมันคือมันมีขนาดเล็กกว่าเป็ดเทศมากนัก  ยิ่งช่วงไหนที่มันโตไม่ทันจับเชือดคอ  หรือคนเลี้ยงให้อาหารไม่พอแก่การกินจุตะบี้ตะบันกินของมัน    มันจะยิ่งมีขนาดเล็กราวกับลูกนกเลยเชียว    และยิ่งปัจจุบันหาคนเลี้ยงเป็ดบ้านขายมีอยู่น้อยนิด  ข้าพเจ้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นใด  นอกจากจำใจเอาลูกนกเหล่านั้นมาตุ๋นขาย  แน่นอน-ขนาดมันเล็กมากนัก    เราจึงจำเป็นต้อง แถม ให้ลูกค้าของเรา    ท่านต้องรู้ก่อนว่าเป็ดบ้านนั้น  ไม่ว่าจะขนาดเท่าลูกนกหรือโตใหญ่ขนาดเท่าห่าน  ราคามันก็เกือบหนึ่งร้อยบาทด้วยกันทั้งสิ้น! จึงน่องเป็ดนี่แหละ  ถือเป็นสุดยอดปรารถนาของลูกค้า    ด้วยเหตุ ผลข้างต้นที่กล่าว    ข้าพเจ้าจึงจำต้องกันไว้สำหรับถ้วยที่สั่งพิเศษ    แต่สำหรับลูกค้าผู้น่ารักของข้าพเจ้านั้น-เอาไปเลย!    ไม่ว่าจะสั่งพิเศษหรือธรรมดา    เขาจะต้องได้น่องเป็ดชิ้นใหญ่ๆชิ้นนั้นเท่านั้น
จริงอยู่-ที่ข้าพเจ้าปรารถนากำไรให้มากมายที่สุด    จริงที่สุด-ที่ ข้าพเจ้าปรารถนาจะลดต้นทุนให้น้อยที่สุด    จริงอีกนั่นแหละ-ที่ข้าพเจ้าปรารถนาเม็ดเงินจำนวนไม่รู้จักที่สุด!    ปีกหนึ่งอันที่ข้าพเจ้าแถมไปในถ้วย  มันย่อมหมายถึงกำไรหดหายไปส่วนหนึ่ง  ย่อมหมายถึงต้นทุนเข้าเนื้อไปส่วนหนึ่ง  ย่อมหมายถึงเม็ดเงินที่หลุดมือไปส่วนหนึ่ง  แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับตอบกลับมาคือความพึงพอใจของลูกค้า  คือมิตรภาพอันแสนอบอุ่น  คือการพูดคุยสนทนาในหลายๆเรื่องแม้ในสถานที่นั้นไม่ใช่ร้านศิริวัฒน์      ข้าพเจ้าขาดทุนหรือกำไร? ข้าพเจ้าไม่สนใจแล้วล่ะว่าขาดทุนหรือกำไร    ข้าพเจ้ารู้เพียงว่า ข้าพเจ้ามีความสุขในการค้าขาย    ข้าพเจ้าดีใจทุกครั้งที่ลูกค้าหน้าเดิมคนนั้นคนโน้นเดินเข้าร้าน    และสร้างมิตรภาพใหม่กับลูกค้ารายใหม่ผู้ยังไม่เคยพูดคุย      ข้าพเจ้าเพิ่งค้นพบว่าทำไมปาจึงมีความสุขมากนักในการค้าขาย    และทำไมจึงพยายามเคี่ยวเข็ญให้ข้าพเจ้าค้าขายเยี่ยงที่ปาเคยค้าขาย  ด้วยวิธีเก่าๆ  ด้วยการค้าโบราณ    ด้วยอะไรก็แล้วแต่ที่ปาเคยอิดหนาระอาใจในความไม่เอาถ่านมาก่อนของข้าพเจ้า งานศพของปา      แขกของปาที่เราไม่รู้ว่าอยู่ที่แห่งใดและมีใครบ้าง ทยอยมาในงานกันแต่ละคืน    จนเมื่อสืบเค้าความทรงจำได้จากแม่และจากพวกเราสามพี่น้อง  จึงรู้ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพื่อนฝูงปาที่ยังมีชีวิตอยู่  และส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่าของปาทั้งสิ้น!
๕). แม่เคยฝันอีกว่า-อยากให้ข้าพเจ้าเป็นทหาร    ขณะที่ปาอยากให้ ข้าพเจ้าโตขึ้นเป็นวิศวกร    ปาไม่รู้จักหรอกคำว่าวิศวกรอะไรนี่  แต่แกเห็นข้าพเจ้าชอบเล่นการสร้างบ้านมาตั้งแต่เล็ก  ชิ้นส่วนไม้ที่มีไว้ให้ต่อเป็นรูปร่างบ้านนั้น  ข้าพเจ้าเล่นต่อเสียจนจำได้ว่าอันไหนอยู่ที่ตรงไหน  เช่นเดียวกับรถไฟ    ที่ข้าพเจ้าชอบอย่างเหลือเกินทั้งของจริงและของเด็กเล่น  ไม่เว้นแม้แต่เก้าอี้ไม้หัวล้านทรงกลม  ข้าพเจ้าจะเอามันมาวางนอนสองตัวโดยเอาขาเก้าอี้มาต่อกัน  แล้วเข้าไปนั่งข้างในทำว่าเป็นรถไฟปู๊นปู๊น
ข้าพเจ้าทำลายความฝันของปากับแม่อย่างยับเยิน!    ข้าพเจ้าเป็นได้ เพียงแค่คนขายหมี่เป็ด  ผู้สืบทอดร้านมาจากปา!    และเป็นได้เพียงผู้ชายอายุสามสิบห้าที่ผ่านโลกแบบผู้ชายๆมาพอสมควร  ผู้กำลังพยายามทำตัวให้เป็นสร้อยคอทองคำเส้นเบ้อเร่อเบ้อร่าให้แม่ได้กำไว้แนบทรวงอกอยู่อย่างนั้น!
ปาสอนวิธีค้าขายให้ข้าพเจ้า  แม่สอนวิธีอยู่ร่วมกับเพื่อนมนุษย์ให้ ข้าพเจ้า    อย่างไม่น่าเชื่อที่ทั้งสองสิ่งนี้จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน!    ข้าพเจ้ากำลังเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างจากชั่วชีวิตของปาและของแม่    เถอะ-แม้จะมิใช่นายทหารหรือวิศวกรใหญ่โต    แต่มีสิ่งใดที่ต่ำต้อยด้อยค่ากว่า?  มีสิ่งใดที่ต้องเสียอกเสียใจอีกหรือ?      ในเมื่อข้าพเจ้าหลอมรวมทุนนิยมเข้ากับจิตนิยมได้อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ๖). ข้าพเจ้ายังไม่เคยบอกใครเลยว่าปาเป็นกวี!    บทกวีภาษาจีนที่แก เขียนด้วยพู่กันจีน  ด้วยลายมืออันเป็นหนึ่งในหาดใหญ่มาทุกยุคทุกสมัย    ปรากฏอยู่ในแผ่นกระดาษขนาดใหญ่ใส่กรอบไว้เรี่ยม  ติดอยู่ข้างฝาร้านมาแต่เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนเป็นพยาน  และชาวสิงคโปร์ชาวมาเลเซียผู้พยายามติดต่อขอซื้อด้วยเงินจำนวนโตนั้นก็เป็นพยานได้ดี      ในขณะที่แม่เป็นกวีแบบมุขปาฐะ    ที่ปัจจุบันก็ยังคงรื้อฟื้นความทรงจำท่องให้ข้าพเจ้าฟัง
นี่ต่างหาก-เนื้อแท้กวีของข้าพเจ้า    ข้าพเจ้าเป็นกวีโดยสายเลือด!
เป็นกวีโดยกรรมพันธุ์เพียงผู้เดียวในโลกนี้!  ข้าพเจ้าเป็นกวีโดยกมลสันดาน!
ข้าพเจ้าเป็นกวีโดยกำเนิด!  อย่างไม่น่าเชื่อที่บทกวีกับการค้าขายคืออันหนึ่งอันเดียวกัน  ท่านเข้าใจไหม?  มันคืออันหนึ่งอันเดียวกันในชีวิตของข้าพเจ้า  อย่างแยกไม่ออก  อย่างแยกส่วนไม่ได้    โดยมีเป็ดที่หน้าตาแปลกๆพิลึกๆปากแบนยาวเป็นแรงบันดาลใจ    ด้วยความหลงรักในเป็ดอย่างถอนตัวไม่ขึ้นนี่เอง    ที่ทำให้ข้าพเจ้าตัดสินใจเลือกอาชีพคนขายหมี่เป็ด  มิใช่ดาราหรือนายแบบอย่างที่หลายคนคาดหวัง& ๗). แหละในร้านหมี่เป็ดศิริวัฒน์นี่แหละ  ที่เป็นแหล่งวัตถุดิบ-ข้อมูลใน การเขียนบทกวีของข้าพเจ้าได้อย่างดียิ่ง    สัมพันธภาพระหว่างข้าพเจ้ากับลูกค้า  เป็นสัมพันธภาพที่มีชีวิต  มีน้ำเนื้อแห่งมนุษย์    และเป็นมิตร    ปรัชญาชีวิตมากมายอยู่ในถ้วยหมี่เป็ด  เช่นเดียวกับที่อยู่ในรอยอุ่นของก้นลูกค้าบนเก้าอี้
มันเป็นวิธีการค้าแบบเก่า  ที่นักธุรกิจสมัยใหม่แห่งยุคทุนนิยมเต็มตัวฉงน  และไม่เชื่อว่านี่คือวิธีการค้าที่สามารถสร้างค่ามนุษย์ได้เต็มจำนวนเม็ดเงิน!
ท่านนักธุรกิจสมัยใหม่ยุคทุนนิยมเต็มตัว    ท่านลองฟาดเด็ก เบาะๆสักครั้ง    แล้วยิ้มให้ผู้ปกครองเด็กด้วยความหวังดีดูสิ    ข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านโดนชกกลับมาแน่นอน!


๑๙  กันย์  ๒๕๔๖

Comment #1
ผู้มาจากฟ้ากว้าง (Not Member)
Posted @30 ม.ค.47 13.30 ip : 202...203

อยากไปกินเตี๋ยวเป็ดของผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็กอ่ะ

Comment #2
นุกนิก (Not Member)
Posted @5 มี.ค.47 22.40 ip : 203...132

โกรธเจ๊แล้วล่ะ พูดมาได้ยังไงแบบนั้น อายุก็มากแล้วยังมีพิษอีกนะ 555 อ่านไม่จบหรอกอ่ะ ยาวไป

Comment #3
สัม-พะ-เว-สี (Not Member)
Posted @5 มี.ค.47 22.52 ip : 210...130

^ ^ ^ ระวังโรคหวัดเป็ดนะขอรับ

Comment #4
เอ้ (Not Member)
Posted @7 มี.ค.47 20.06 ip : 203...126

ดีจริงที่รู้ว่าน้าก็ชอบปู๊นๆเหมือนกัน 555

Comment #5
จาวตาล (Not Member)
Posted @9 มี.ค.47 9.48 ip : 203...74

อยากนั่งเก้าอี้ไม้ทรงสูง

อยากกินหมี่...ใส่น่องเป็ดชิ้นใหญ่ๆ

อยากดื่มน้ำเปล่า...ใส่น้ำแข็ง...แบบฟรี

อยากเห็นบทกวีภาษาจีน...ที่ติดบนข้างฝา

เสียดายจัง...ไปหาดใหญ่คราวที่แล้ว...พลาดไป คราวหน้า...หวังไว้แล้วนะ

Comment #6
จาวตาล (Not Member)
Posted @9 มี.ค.47 9.51 ip : 203...74

พี่หมี่คับ

เปิดเมล์ด้วยนะ...ด่วนมากค๊า

Comment #7
ไพ (Not Member)
Posted @17 มี.ค.47 18.16 ip : 203...187

รู้แล้ว

แวะไปหาดใหญ่เมื่อไหร่จะไปกินหมี่เป็ดให้เต็มอิ่มเลย
แต่ตอนนี้ คงต้องกินอย่างอื่นไปก่อนเนอะ มากรุงเทพ แล้วอย่าลืมติดต่อมานะ
จะขอคาราวะ สักหนึ่งจอก

Comment #8
Posted @12 ก.ย.50 21.00 ip : 222...47

ไปแวะกินหมี่เป็ดมาแล้ว ไม่รู้เลยว่าเจ้าของร้านเป็นกวี คราวหลังจะไปกินหมี่อีก และจะได้ดูหน้าตาของกวีให้ชัดๆ นะคะ

Comment #9
Posted @22 ม.ค.51 9.47 ip : 61...210
Photo :  , 640x480 pixel 13,920 bytes

หมี่เป็ดร้านดี..เค้าดีจริง...อร่อย...ถ้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยแล้ว...สนุกมากจนวางไม่ลงเลยล่ะ...สู้ๆๆๆๆๆ..ร้านหมี่เป็ด..และเจ้าของจงเจริญ..เย้... เก็บภาพมาฝาก...ยามเช้าตรู่ของเขื่อนเชี่ยวหลาน..สุราษฎร์จ้า

แสดงความคิดเห็น

« 1430
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 65 user(s)

User count is 2464734 person(s) and 10424267 hit(s) since 22 ธ.ค. 2567 , Total 550 member(s).