ลวกเส้นเป็นกวี ๐๔.

by หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก @4 ม.ค.50 10.30 ( IP : 203...37 ) | Tags : เรื่องสั้น-ความเรียง

แห่งสิงหาคม (๑)

มีน้องคนหนึ่งถามน้องคนหนึ่งว่า ในจำนวนบทกวีทั้งหมดของผมนั้นผมชอบชิ้นไหนมากที่สุด น้องคนถูกถามจึงนำคำถามนั้นมาถามผมอีกที ผมตอบกึ่งถามน้องคนถูกถามไปว่าแล้วน้องคนถามล่ะเขาชอบชิ้นไหนของผมบ้าง น้องคนถูกถามจึงกลับไปถามน้องคนถามและได้คำตอบมาว่า “แห่งสิงหาคม”

มันเป็นชิ้นงานที่ผมเขียนหลังจากออกจากโรงพยาบาลรามาธิบดีในปี ๒๕๔๔ โรงพยาบาลใหญ่โตเช่นนั้นมันทำให้คนไข้แต่ละรายดูเคว้งคว้าง ยิ่งผมไปเพียงลำพังคนเดียวด้วยแล้ว การจะติดต่ออะไรๆดูมันมึนงงไปหมด ผมเดินดุ่มๆเข้าไปที่เตียงคนไข้แล้วรอรถมาเข็นเข้าห้องผ่าตัดในอีกวัน รู้สึกตัวหลังยาสลบหมดฤทธิ์ก็พบว่าตัวเองนอนสะลึมสะลือมองอะไรไม่ชัด ได้ยินเสียงพยาบาลคนหนึ่งเรียกชื่อเบาๆมาแต่ไกลๆ จำได้ว่าผมพยายามยิ้มและพยักหน้ารับรู้ก่อนจะนอนหลับต่ออีก ตื่นขึ้นมาเสียงเรียกแว่วแผ่วเบาไกลๆนั้นยังอยู่ในหู ไกลโพ้น... มันเหมือนไกลโพ้นฝั่งทะเล คำไกลโพ้นมันดูสวยงามให้ภาพดีเหลือเกิน ผมจดจำคำคำนี้ไว้ เมื่อมีเรี่ยวแรงดีพอผมก็จับปากกาจดคำนี้ไว้ในสมุดที่ผมมักพกติดตัวเสมอ ไกลโพ้น....

วัยเยาว์มักจะสวยงามเสมอในความคิดคำนึงถึง ผมหวนวัยกลับย้อนไปสู่วันคืนที่ผ่านมานานเนิ่น เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ชีวิตค่อนข้างโลดโผนกระด้าง ผ่านพบหลายสิ่งหลายอย่างมาพอควร  พอควรเท่าที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งควรจะได้พบ เสียใจดีใจร้องไห้หัวเราะ มันตกตะกอนนอนก้นบึ้งอยู่จนกระทั่งวันหนึ่งมันฟุ้งขึ้นมาเป็นเมฆหมอก มองฝ่าเข้าไปเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นมีชีวิตที่ผมคุ้นเคย

๑). ในความอึกทึก-มีความเงียบ อันราบเรียบเงียบเหงาและเบาแผ่ว นุ่มนวลอ่อนโยนราวขนแมว ล่องแล้วลอยอยู่มิรู้ลง ในความฝันสีดำ-มีความขาว เป็นจุดดาวพราวพุ่งอยู่สูงส่ง เพื่อทอความงามงดเป็นกลดทรง ทอดวงแสงวาดอยู่ดาดฟ้า แหละในความเติบใหญ่-มีวัยเยาว์ ผุดเงาร้อยเรียงความเดียงสา ในดวงใจหนักหน่วง-มีดวงตา เพรียกหาหัวใจแห่งวัยเยาว์

วัยเยาว์มักเป็นเช่นนี้ โหยหาคิดถึง และปรารถนาจักได้กลับไปสู่ความสดใสเช่นนั้นอีกสักครั้งหนึ่ง วันที่ผ่านพ้นมันไปเพิ่มจำนวนวัย ยิ่งผ่านพบยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยวในชีวิต ความฝันมากมายที่เคยมีค่อยๆมอดหายไปทีละฝัน และที่สุดเราก็จำต้องจมอยู่กับความเป็นจริงที่ปรากฏเบื้องหน้า โลกนี้โหดร้ายเกินไปสำหรับนักฝัน ไม่มีที่ว่างให้เหยียบยืนแม้น้อย หลายครั้งที่เรารู้สึกอ่อนแอท้อถอย แต่ไม่กล้าแม้กระทั่งจะเอ่ยบอกกับตัวเองว่าเรากำลังพ่ายแพ้ เราอยากร้องไห้แต่เรากลับฝืนยิ้มออกมา ผมชอบที่จะนั่งเงียบๆคนเดียวในช่วงเวลาว่าง และท้องฟ้ายังคงเป็นที่ที่ผมชอบทอดสายตามองขึ้นไป มันสูงและไกลลิบ สูงและไกลพอที่จะให้ผมนึกอะไรไปเรื่อยเปื่อย ยังคงเห็นก้อนเมฆเป็นเรือสำเภา ล่องโล้อยู่กลางสายน้ำเชี่ยวที่เมฆเกลียวตัวเป็นคลื่น มันเปลี่ยนรูปทรงทุกขณะ เดี๋ยวเป็นปลาดาว สักพักก็เป็นปุยฝ้าย บทเพลงเก่าๆที่เคยร้องก็โชยมาแต่ไกล เหมือนเพื่อนคนหนึ่งที่เคยร้องเพลงนั้นในห้องเรียนได้ปรากฏตัวขึ้นมา ผมคิดถึงทะเล ที่ครั้งหนึ่งเกือบเอาชีวิตไปจมหายกับผาคลื่นที่สูงชันท่วมหัวในหน้ามรสุมของปี ๒๕๒๘ ฝนตกกระหน่ำไม่มีทีท่าจะหยุด เราเดินตากฝนริมหาด แล้วโจนลงกระแสคลื่นกราวเกรียว คลื่นพัดผมออกไปไกลฝั่ง ฝนก็ยิ่งทะลักหลั่งลงมาอย่างรุนแรง เด็กหนุ่มที่เชื่อมั่นในพลังของตนกับความกราดเกรี้ยวของฤดูกาล คลื่นแต่ละลูกที่กระแทกแผ่นหลังทำให้ผมเซแทบทรุดร่วงจมท้องน้ำ มันต้องได้สิ พลังแห่งวัยหนุ่มมันมากมายล้นเหลือ ผมแข็งใจดำลงไปจากผิวน้ำ แหวกแรงกดแรงดันทะยานไปทีละนิดเข้าหาฝั่ง โผล่ขึ้นมาสูดอากาศหายใจแล้วดำต่อ เรี่ยวแรงและสติยังมีอยู่ครบ ไม่มีอะไรที่เด็กหนุ่มทำไม่ได้หรอก ผมเดินขึ้นฝั่งที่อยู่ห่างจากจุดลงทะเลไปหลายร้อยเมตร หอบหายใจเหนื่อยจนตัวโยน แล้วเดินตากฝนกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆที่รอ

วัยเยาว์หอมหวานเสมอเมื่อคิดถึง และทะเลก็ประหนึ่งการบ่มเพาะเมล็ดชีวิตให้งอกงามในกาลต่อมา

๒๕ ธันว์ ๒๕๔๙

(อ่านต่อฉบับหน้า)


แห่งสิงหาคม (๒)

๒). คล้ายคล้ายกลิ่นทะเลได้เพพัด แหละคลื่นซัดสะท้อนวันก่อนเก่า ลำสนสูงยอดนั้นทอดเงา ลมเป่าหาดทรายฟุ้งฟายมา คล้ายคล้ายดอกไม้ขาวกลีบเบาบาง อวดร่างรูปทรงอยู่ตรงหน้า ในฤดูเมฆขาวเริ่มเทาทา รอเวลาแตกเกล็ดเป็นเม็ดน้ำ แห่งสิงหาคม- สายลมหมาดชื้นเริ่มชื่นฉ่ำ เธอมาคืนที่ฝันสีดำ ฝันซึ่งซากซ้ำประจำมา ในความเจ็บปวด-ความรวดร้าว ความหนาวเหน็บหนักนั้นนักหนา มือเบาเย็นชื่นเธอยื่นมา ดวงตารอยยิ้มเธอเยี่ยมเยือน เสียงสนวู่ไหวในสายลม สิงหาคม-ดวงตาที่ฝ้าเฝื่อน จับจ้องใบหน้าเธอไว้เพ้อเตือน ก่อนการเคลื่อนสติสู่ภวังค์!!

แน่ล่ะ- ที่วัยเยาว์ของเรามันไม่ได้สวยงามราวชีวิตอบอวลด้วยพรรณไม้หอมเท่านั้น ในความสุขดื่มด่ำหลายครั้งเรากลับพบความโศกเศร้าอย่างใหญ่หลวง เหมือนจุดดำมืดจุดเล็กๆในกรอบผ้าใบสีขาว และเหมือนจุดขาวเล็กๆในกรอบผ้าใบสีดำ วัยเยาว์ของผมไม่ได้เติบโตมาอย่างสวยงามนัก มันผ่านหลายสิ่งหลายอย่างที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งพึงพบเจอ เฮฮาบ้าๆบอๆสนุกสุดเหวี่ยง โลกคือที่เหยียบยืน ทุกแห่งหนพื้นที่คือที่ที่เราสามารถย่ำฝากรอย โชคร้าย- ที่หลายครั้งคราวมันกลับผ่านพบสิ่งที่ไม่พึงพบเจอ ทั้งหมดทั้งมวลทั้งร้ายและดีนี้ มันรวมกันเป็นกลุ่มก้อนเนื้อเดียว สร้างธาตุขึ้นมาเป็นผู้ชายคนหนึ่งในปัจจุบันที่อายุใกล้จะ ๔๐

มีเหตุผลมากมายเพียงพอที่จะทำให้ผมชอบบทนี้เป็นพิเศษ แต่หากถามถึงทำไมจึงชอบเป็นพิเศษนี่สิ ผมควรจะตอบอย่างไรดี? นอกจากความยาวของชิ้นงานที่ผมพอใจในการเดินเรื่อง ก็คงเพราะมันเป็นชิ้นงานที่เป็นส่วนตัว อยากให้คนอื่นรับรู้ แต่ไม่อยากให้รับรู้ทั้งหมดว่าผมคิดอะไร เหมือนการเล่นเกมกล ผมเผยความลี้ลับของความคิดออกมาส่วนหนึ่ง คุณจงนำส่วนนั้นไปขยายความ คุณต้องติดใจว่าผมกำลังพูดเรื่องอะไร คุณต้องอยากรู้ และผมก็เพียงแค่ยิ้มมุมปากมองคุณ ผมรับฟังคุณพูด ยินดีที่คุณถามถึง แน่นอน- ผมขอบคุณคุณ

๓).

ไกลโพ้น-
ปุยอันอ่อนโยนอยู่โพ้นฝั่ง ระเบียงที่ดาวละดวงยัง
ระยับปลั่งเปล่งสุกอยู่ทุกดวง ห้วงแห่งการหลับใหลตามลำพัง
ฉันเพรียกขานความหลังอันลับล่วง เพ่งอยู่ในความกว้างที่ว้างกลวง
ทั้งปวง-ที่ไร้ที่ไม่มี ในความเงียบอันมิรู้ตัว
กับความกลัวการหลับอยู่กับที่ ช่วงแห่งนาฬิกาต่อนาที
ลมหายใจที่ช่างแผ่วเบา ห้วงแห่งการหลับใหลอันยาวนาน
คืบคลานดิ่งดำสู่ความเศร้า สูญเสียการหวังคาดและวาดเดา
แห่งเค้าดวงหน้าเมตตานั้น ไกลโพ้น--
ดั่งลอยโกลนเรือร้างอยู่กลางฝัน เบื้องเหนือดาวดื่นนับหมื่นพัน
พรางแสงเงียบงันอยู่ระยับ แล้วดอกไม้ก็ร่วงจากดวงดาว
กลีบขาวแสนงามในยามหลับ แอมโมเนียฉุนจัด-สัมผัสรับ
และดวงตาดำขลับจ้องจับมา

เคยไหม? การรู้สึกตัวว่ากำลังจะหลับโดยควบคุมตัวเองไม่ได้ มันก่อความกลัวอะไรบางอย่างขึ้นมาจับจิต ผมนึกถึงความตายอันน่ากลัว สงสัยว่าหากตายไปในยามหลับนี้ ใครบ้างจะรับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ในขณะตาย
วัยเยาว์ที่แสนสดใสที่มักปรากฏภาพขึ้นมาเสมอ ในห้วงยามนั้นมันกลับแสนเศร้า
๒๘ ธันว์ ๒๕๔๙ (อ่านต่อฉบัหน้า)


แห่งสิงหาคม (๓)

เคยแหวกคลื่นทะเลว่ายออกไปจนสุดแรงไหม? เหมือนนักโต้คลื่นที่ไร้กระดาน เรากลายเป็นปลาที่แหวกว่ายอยู่บนผิวน้ำอันโคลงเคลง ไปสู่สุดขอบฟ้า ไปสู่เรือหาปลาลิบลิบที่กำลังไต่เส้นฟ้าจรดน้ำนั่นมีนกนางนวลบินวนเวียนเฉวียนฉวัดอยู่เหนือกระโดง อาจเป็นชายชราคนหนึ่งที่กำลังตกปลาตัวใหญ่ใน The old man and the sea. ของปาป้าเฮมิงเวย์ และอาจเป็นชาวประมงธรรมดาที่ลูกเมียรอการกลับพร้อมปลาเต็มลำ การว่ายออกไปของวัยเยาว์สู่ท้องทะเลลึกเป็นเรื่องน่ากลัว เรามักคะเนเรี่ยวแรงกำลังของเราเกินจริงเสมอ ร่างกำยำผิวสีทองแดงที่กล้ามเนื้อเป็นมัด โจนลงน้ำแล้วทะยานฉิวฝ่าคลื่น ย่อมตื่นตาตื่นใจและเป็นเรื่องวิเศษยิ่ง เพื่อนคนหนึ่งเคยว่ายข้ามทะเลสาบสงขลา ในเย็นที่ดวงอาทิตย์ใกล้จะโพล้เพล้ เขาแข็งแกร่งและระมัดระวังเพียงพอต่อเรือที่คำรามมาแต่ไกล เขาขึ้นฝั่งอีกฝั่งโดยไม่ได้อะไรเลยนอกจากความภูมิใจ และคิดว่าทะเลสาบน่าจะกว้างกว่านี้ วัยเยาว์เป็นวัยที่ความฝันแรงกล้าและเรี่ยวแรงกำลังอันแกร่ง เขาขึ้นฝั่งพร้อมรอยยิ้ม ไม่มีใครสนใจหรอกว่าเขาทำไปเพื่ออะไร แต่เสียงตื่นตระหนกหวาดกลัวกลับดังอื้ออึง โอ- นักโต้คลื่นที่ไร้กระดาน เขาเห็นปลาทะเลว่ายคลอไปพร้อมกับเขา!

๔). ฉันมองโลกด้วยตาเพียงข้างเดียว โน้มเหนี่ยวจักรวาลด้วยควานหา อธิบายสิ่งสรรพเพียงหลับตา เยียวยาความบอดใบ้มอดตน จึงรู้-ในความงามมีความเศร้า ครึ่งค่อนวัยเยาว์ช่างเหงาหม่น ผิวทะเลที่แดดได้แผดปน เสียงสนหวิววู่ลมลู่ใบ ปิดตาข้างหนึ่ง-ข้างหนึ่งเปิด ดูเถิด-เส้นระที่จะไต่ แนวราบระนาบตลอดที่ทอดไกล แบ่งน้ำกับฟ้าไว้อย่างชัดเจน โอวัยเยาว์- การเติบโตแสนเศร้า-และล้อเล่น กาลเวลาอัดหนีบซ้ำบีบเค้น หลอมเป็นชีวิตเบี้ยวบิดทรง ในความฝันสีขาว-มีเงาดำ ซ่อนงำรอกาลจะสานส่ง ค่อยเล็มแสงรอบประกอบองค์ เพื่อถล่มล่มลง ณ ตรงนั้น ตรงที่ดอกไม้ขาวกลีบเบาบาง อยู่ระหว่างความจริงกับความฝัน ในความมืดที่เงียบอย่างเฉียบพลัน และการตื่นที่อันตรธานวัย

เราล้อเล่นกับชีวิตได้นี่ วัยเยาว์สาวหนุ่มกับเรี่ยวแรงอันมหาศาล มันเป็นช่วงเวลาที่หวานชื่นเหลือเกิน ผมครุ่นคิดไปยังวงดนตรีดัง Deep Purple. Rolling Stone., Queen และอีกมากมาย  ล้วนแล้วแต่สร้างงานอันทรงพลังอยู่ในช่วงวัยเยาว์หนุ่มสาวทั้งสิ้น ผมยังคงนั่งฟังลูกนิ้วของริชชี่ แบล็คมอร์ ,โทนี่ ไอโอมี่ , ฟังเนื้อหาของ Bob Dylan, หงา คาราวาน, ทูน ทองใจ อย่างตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ เรี่ยวแรงมหาศาลนี้ถูกคัดกลั่นออกมาจากช่วงวัยอันทรงพลังโดยแท้เชียว

ไม่มีอะไรมากไปกว่าการประกาศให้รับรู้ ว่าเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังทำสิ่งมหัศจรรย์อยู่ โลกมองเห็นพวกเขาไหม? คำตอบไม่ได้อยู่ที่การตอบรับ แต่มันอยู่ที่โลกตกตะลึงเพียงไรกับการสร้างปราสาทเรือนแก้วด้วยนิ้วมือต่างหาก

เพื่อนคนนั้นเขาว่ายข้ามทะเลสาบ เขาเห็นบางสิ่งบางอย่างใต้น้ำลึกที่เราไม่เคยมองเห็น เรือหางยาวคำรามมาแต่ไกล ก็เพียงการแล่นฉิวบนผิวน้ำ หาได้ดิ่งดำลงไปสู่โลกในจินตนาการอันลึกลับซับซ้อนนั้นสักนิด

แหละไม่ว่าวัยเยาว์ของเราจะสวยงามหรือรันทด ที่สุดแล้วนั้น เมื่อเราผ่านมันมาจนถึงหลักกิโลปัจจุบัน มันย่อมเป็นวัยเยาว์ที่เป็นของเราเพียงผู้เดียว บางทีมันอาจมีดอกไม้กลีบขาวสักกลีบ โรยร่วงล่องลงมาเบื้องหน้าวัยเยาว์ในโมงยามมืดมิด เพียงแต่ความโศกเศร้าต่างหากที่กลบเนื้อดวงตาเราเสียจนมองไม่เห็น  ร้องไห้สิเยาว์ ชำระคราบความโศกเศร้าของดวงตาหม่นหมองนั้นออกไปเสีย กระโจนลงทะเลสาบสิ ไปดูปลาน้ำเค็มกำลังว่ายแหวก กู่ตะโกนสิ บอกโลกให้รับรู้ถึงภาพบางภาพที่เกิดขึ้นในหัวของเรา เยาว์เอ๋ย- ความฝันเป็นน้ำหล่อเลี้ยงชีวิต!

๑ มังกร ๒๕๕๐

แห่งสิงหาคม (๔)
๕). ไกลโพ้น- ปุยอันอ่อนโยนอยู่โพ้นไหน? สิงหาคม-คลื่นเดิ่งสนเริงใบ อึกทึกอยู่ในความวังเวง เอื้อมคว้าดาวสักดวงจักร่วงมา ดวงตาแม้ข้าง-ก็ยังเปล่ง มิติราบโล่งอันโคลงเคลง ยังเขย่งเหยียดเงื้อมยังเอื้อมคว้า ฉันมองโลกด้วยตาเพียงข้างเดียว วิ่นแหว่งบิดเบี้ยวมาเชี่ยวกล้า จึงดวงใจบอบช้ำ-มีน้ำตา สูญเสียเค้าหน้าเมตตาใด ในความเงียบมีความอึกทึก เสียงหัวใจเต้นตึก-รู้สึกได้ ฉันหลับตาอีกดวงดิ่งทรวงใน เลื่อนไหลสู่การหลับ-มิรับรู้ ในความฝันสีขาว-มีเงาดำ ล่มซ้ำซากพื้นที่ยืนอยู่ ระเบียงดาวดาดที่หยาดอณู จึงปูแสงลาด ณ หาดทราย แหละในความเติบใหญ่-มีวัยเยาว์ เติบโตมาโง่เขลาและสูญหาย เบื้องหน้าเธอยืนอยู่-คือผู้ชาย ผู้ทำลายเด็กน้อยลงย่อยยับ!! ๖). แห่งสิงหาคม- กระแสลมพัดหวนเพื่อทวนกลับ ถ่างความฝันความจริงเพียงนิ่งนับ กี่คราหลับ? กี่วามหยาดน้ำเกลือ? เธอผู้มีรอยยิ้มในดวงตา ผ่านมาเพื่อคุณการอุ่นเอื้อ มิรับรู้หน่วยตาที่พร่าเครือ ของชายผู้เลือดเนื้อ-มิเหลือใด!!

รพ.รามาธิบดี สิงหาคม ๒๕๔๔

มันเป็นบทกวีที่ส่วนตัวโดยแท้ ผมมิสามารถให้ใครล่วงรู้ได้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ มันเป็นความงดงามเงียบๆในคืนวันเลวร้าย ในยามหลับขณะที่น้ำเกลือชำแรกไปตามเส้นเลือดนั้น ผมเดินอยู่ในทุ่งกว้างแดดจัด สายลมตะวันออกโพ้นขอบฟ้าพัดแผ่วมาเอื่อยเฉื่อย เป็นลมปลายฤดูร้อนที่เมฆฝนเริ่มจะตั้งเค้าจางๆลิบๆ ใต้ร่มประดู่กิ่งใหญ่ใบหนาผมหยุดพัก มองกลีบดอกไม้สีขาวบางชนิดล่องอยู่ในสายลม ไกลออกไปไกลออกไป ในทุ่งกว้างนั้นผมยิ้มเศร้า เป็นความสุขแสนเศร้าที่ผมมิอาจลบเลือนออกจากความทรงจำได้เลย แม้ยามตื่นมาพบว่าสายน้ำเกลือและยาแก้ปวดไหลรินไปตามเส้นเลือด

ผมมองหน้าเธอด้วยดวงตาข้างเดียว ยินเสียงเรียกชื่อผมอยู่ไกลๆลิบๆ แล้วสติก็ล่วงเข้าสู่ภวังค์อีกครั้ง

๑ มังกร ๒๕๕๐

Comment #1
Posted @4 ม.ค.50 12.41 ip : 202...74

"อาหญิงเคยบอกหมิวว่า มีกระต่ายตำส้มตำอยู่บนดวงจันทร์ หมิวมองไม่เห็นเลย" หลานสาวตอนที่อายุได้สัก 8 ขวบพูดขึ้น

ก็นึกได้ว่าเคยบอกไปอย่างนั้น ตอนหลานอายุ 3 ขวบ อุ้มดูพระจันทร์เต็มดวงหลังบ้าน

เวลาผ่านไป..แต่...เด็กยังจำแม่น....
ตอนนี้หลานสาวอายุ 10 ขวบแล้ว ชอบอ่านการ์ตูน ขายหัวเราะ 


ถ้าถามว่าอะไรคือสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในโลก คำตอบส่วนตัวคือ  ความทรงจำในวัยเด็ก

มันเป็นโอกาสที่ผ่านแล้วผ่านเลย วันข้างหน้าจะร่ำร้องโหยหาแค่ไหน มันก็ย้อนเวลากลับไม่ได้ จะชดเชยทดแทน อย่างไรก็ไม่สามารถ

ณ วันนี้ วันที่มีฐานะเป็นแม่ จึงตั้งใจอย่างยิ่งว่า จะให้ลูกมีความทรงจำที่ดี ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

ลูกชาย ขวบแปดเดือน "แม่จ๋า อุ้มดูจันทร์ .... แม่ อุ้มดูดาวพิบๆ แม่ อุ้มดูนกเขาคุกคู่  แม่..ฯลฯ"

"พอก่อนลูก แม่ปวดหลัง!!!"

55555 


สวัสดีปีใหม่ค่ะ

Comment #2
Posted @4 ม.ค.50 14.22 ip : 203...241

หวัดดีปีใหม่จ้าหญิง-

แม้ว่าวัยเยาว์ของหลายคนอาจจะแสนเศร้า

แต่เมื่อผ่านมาระดับหนึ่ง มันก็อาจสร้างรอยยิ้มน้อยๆให้เราได้

แสดงความคิดเห็น

« 3575
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 18 user(s)

User count is 2281367 person(s) and 9186866 hit(s) since 30 เม.ย. 2567 , Total 550 member(s).