มาจากร้านหมี่เป็ดศิริวัฒน์: เสือร่วมถ้ำ

by หมี่เป็ด ผู้ชายนัยน์ตาสนิมเหล็ก @12 พ.ค.50 6.31 ( IP : 203...245 ) | Tags : เรื่องสั้น-ความเรียง

เสือร่วมถ้ำ

เมื่อมึงรักนักเลงต้องเกรงใจ มึงใครและกูใครต้องให้ชัด! ๑). ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไอ้เครากับพี่เสือจะไม่ถูกกัน วัยที่ไล่เลี่ยกับความโด่งดังทางนักเลงของทั้งคู่ มันเข้าลักษณะเสือสองตัวร่วมถ้ำโดยแท้ ข้าพเจ้าไม่คุ้นเคยเท่าไหร่กับไอ้เครา โรงน้ำแข็งอยู่ไม่ห่างจากละแวกบ้านนัก แต่เหมือนดั่งอยู่คนละโลก มันเป็นที่ซ่องสุมของเด็กหนุ่มวัยรุ่นไปจนวัยอาวุโส ทุกเย็นจะตั้งวงเหล้าแกล้มนกพิราบ ส่งเสียงเอะอะโวยวายร้องเพลงลูกทุ่งดังลั่น แม้ข้าพเจ้าจะชื่นชอบ สายัณห์ สัญญา กับ ยอดรัก สลักใจ เพียงไรก็ตามที เมื่อได้ยินเสียงคนกลุ่มนี้ร้องเพลงโปรดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็แทบจะทรุดตัวลงไปเกลือกกลิ้งห้องห่มร้องไห้ให้ได้

โรงน้ำแข็งยามเย็นจึงเป็นสถานที่ต้องห้ามสำหรับเด็กอย่างข้าพเจ้า เมื่อพวกเขาเมาได้ที่ก็มักจะได้เห็นการทะเลาะกัน ข้าพเจ้าเคยเห็นการเฮโลเข้ามาของกลุ่มวัยรุ่นถิ่นอื่น ในมือมีมีดมีไม้กวัดแกว่งกันอย่างเหี้ยมหาญ กลุ่มโรงน้ำแข็งก็ลุกขึ้นตั้งรับ มีขวดคว้าขวดมีมีดคว้ามีด ใครไม่รู้คว้าอะไรไม่ทันจึงได้แต่ยกก้อนน้ำแข็งขว้างใส่ เหตุการณ์ครั้งนั้นพวกเรายืนดูกันตาปริบๆ มันใช้เวลาในการทำศึกไม่นานหรอก แต่ก็มีคนสาหัสเอาการอยู่หลายคน แน่ล่ะที่ต้องเป็นกลุ่มโรงน้ำแข็ง ในเมื่อเมากันขนาดนั้นจะไปสู้รบกับใครเขาไหว และนับแต่นั้นกลุ่มโรงน้ำแข็งก็เหนียวแน่นยิ่งขึ้น สมาชิกในกลุ่มเริ่มออกหาอาวุธประจำกาย พี่เข้มเอาสนับมือมาโชว์ข้าพเจ้าในวันหนึ่ง บอกสรรพคุณวิธีใช้อย่างละเอียด แกพันด้ามมันไว้ด้วยเศษผ้าหนาเตอะ นัยว่าเพื่อเพิ่มความกระชับในการใช้ ทุกเช้าที่แกมาส่งน้ำแข็งที่ร้าน แกมักจะหันมายักคิ้วยิ้มให้ข้าพเจ้า และสนับมือนั้นแกเคยให้ข้าพเจ้าทดลองจับดูครั้งหนึ่ง บังเอิญที่แม่หันมาเห็นเข้าเต็มตา เสียงเอ็ดตะโรใส่พี่เข้มก็กรีดแผดขึ้นมาทันที พี่เข้มหัวเราะเอิ๊กอ๊าก หันมายิ้มให้ข้าพเจ้าอีกครั้ง ก่อนบุ้ยปากไปทางน้าพร น้าพรเป็นน้าแสนสวยเนื้อหอมประจำถิ่น รูปร่างสะโอดสะองผิดกับแม่ที่อ้วนตุ๊ต๊ะ เป็นคน ยิ้มหวานพูดเก่ง ไม่แปลกเลยที่หนุ่มๆละแวกตลาดจะมาหลงรัก และรวมไปถึงหนุ่มถิ่นอื่นที่ต้องสร้างกำลังใจหนักหน่วงในการมาหา เพราะกลุ่มโรงน้ำแข็งที่มีพี่เข้มนำทัพ กับกลุ่มบู๊ตึ๊งที่พี่เสือเป็นประมุขไม่ยอมให้ใครถิ่นอื่นผ่านทางง่ายๆ เฮียตือหลงรักน้าพรมานาน พี่เข้มหลงรักน้าพรมานาน และข้าพเจ้าก็เข้าไปยืนระหว่างสองหนุ่มผู้ที่ความรักทะลักล้นแทบจะระเบิดนั้นโดยไม่รู้ตัว เสือสองตัวกำลังชิงรักหักสวาทโดยเด็กชายหน้าจืดๆคนหนึ่งเป็นที่ปรึกษา แค่คิดข้าพเจ้าก็ขำจนตัวโยน เฮียตือจับข้าพเจ้าไปฝึกมวยจีนกับอาเจ๊กข้างบ้านในทุกเย็น ขณะเดียวกันพี่เข้มก็ลากข้าพเจ้าไปดูการกัดปลาตีไก่ในทุกเช้าวันเสาร์ และนั่นเป็นที่มาของไก่แจ้คู่หนึ่ง ที่พี่เข้มนำมาฝากข้าพเจ้าจากบ้านเกิดของแกแถวๆสิงหนคร

แม่ส่งเสียงโวยวายและไล่ให้ข้าพเจ้าเอาไก่ไปคืนพี่เข้ม ข้าพเจ้าพยายามโต้แย้งและวีโต้ขอใช้สิทธิในการเลี้ยง เตี่ยดูท่าจะปวดหัวกับความดื้อรั้นของข้าพเจ้า จึงจ้างช่างสแตนเลสให้สร้างเล้าไก่ขึ้นมา แม่บ่นงึมๆงำๆอยู่หลายวันเลยทีเดียว เพราะเมื่อแม่เงยหน้านิดหนึ่งก็จะพบกับกรงนกกรงหัวจุกของน้ารูญ รายเรียงแขวนอยู่สลอน เสียงนกเสียงไก่คราวนี้ก็ระงมทั่วบ้าน โดยมีเจ้าอบเชยนั่งน้ำลายไหลฟังเงียบๆอยู่ใกล้ๆเล้าไก่

วันที่ตลาดกิมหยงนองเลือดก็มาถึง เมื่อพี่เข้มมาหาข้าพเจ้าในเย็นวันหนึ่ง ในมือพี่เข้มมีรังนกกระจาบใหญ่โต แกจะเอามาให้ข้าพเจ้าแขวนไว้ที่หน้าต่างห้องนอนตามสัญญา แกว่าเผื่อนกกระจอกสักตัวจะบินมาใช้เป็นรัง ออกลูกออกหลานให้ข้าพเจ้าฟังเสียงจิ๊บๆตลอดเวลา โชคร้ายที่เป็นวันที่เฮียตือตั้งใจจะมาชวนน้าพรไปดูหนัง ข้าพเจ้ายืนหิ้วรังนกกระจาบหน้าเซ่อ เมื่อเห็นเฮียตือกับพี่เข้มจ้องตากันเอาเป็นเอาตาย เป็นจังหวะที่น้าพรเดินออกมาพอดี และเหตุการณ์ฉับไวก็เกิดขึ้นโดยจดจำสาเหตุไม่ได้ สองเสือชกต่อยกันชุลมุนหน้าบ้านข้าพเจ้า เสียงน้าพรกรีดร้องห้าม ชาวบ้านละแวกถิ่นกรูกันออกมาดูการทำศึก แม่เดินออกมาจากในครัว ส่งเสียงตะโกนห้ามช่วยน้าพรอีกแรง และเป็นเตี่ยที่วิ่งเข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากกัน เตี่ยชี้หน้าสำทับทั้งสองไปว่าถ้าหากมาแล้วกัดกันก็ไม่ต้องมาอีกเลย ข้าพเจ้ายืนตกใจหน้าซีดเผือด ทุกคนคิดว่ามันคงจบตรงที่ต่างฝ่ายเลิกรากลับกัน และน้าพรเองก็เชื่อเช่นนั้น น้าพรจึงยกเลิกนัดหมายกับเฮียตือแล้วหายขึ้นชั้นบนไป

แต่ไม่หรอก เพราะในไม่นานนักทั้งคู่ก็กลับไปรวบรวมสมัครพรรคพวกอาวุธประจำกายครบมือ เป็นศึกใหญ่ที่ตลาดกิมหยงจ้องมองอย่างขวัญเสีย ไม่น้อยกว่าสิบคนต่อกลุ่มที่กรูกันเข้าหา ภาพใครบางคนโดนแทงจนไส้ไหลยังติดตาข้าพเจ้ามาจนบัดนี้ ทั้งสองฝ่ายตีกันเป็นบริเวณกว้าง ร้านค้าร้านขายแถวนั้นย่อยยับไปทั่วทุกร้าน สนับมือของพี่เข้มเข่นใส่ใบหน้ากลุ่มบู๊ตึ๊งจนจมูกหักในหมัดเดียว พี่เสือจับแขนไอ้เคราบิดแล้วหักด้วยเข่าดังกร๊อบ ความโกลาหลวุ่นวายจบลงเมื่อใครคนหนึ่งชักปืนลูกซองสั้นยิงใส่เฮียมิกิ เลือดพุ่งกระจายออกมาตามรู เฮียมิกิทรุดฮวบลงกองพื้นสิ้นใจ ตำรวจมาหลังจากทั้งสองฝ่ายแยกย้ายหลบหนี โรงน้ำแข็งประกาศรับคนงานใหม่ อาเจ็กอาแปะละแวกบ้านโกรธน้าพรที่เป็นตัวการ เตี่ยพยายามอธิบายให้เพื่อนๆของเตี่ยเข้าใจ ว่ามันไม่ใช่สาเหตุมาจากน้าพร และแม่สั่งข้าพเจ้าให้เอาไก่แจ้คู่นั้นไปปล่อยวัด

มันเป็นความตื่นเต้นสยดสยองที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต ข้าพเจ้าไม่กล้าย่างกรายเข้าไปในบ้านอาเจ๊ก ได้แต่เดินเลียบๆเคียงๆมองหาอาย้งเพื่อนวัยเดียวกัน แอบตรงประตูแล้วส่งเสียงในปากเบาๆ อาย้งที่คอยฟังเสียงเรียกก็จะเดินออกมาตัวลีบๆ เขาเป็นคนผอมอยู่แล้ว ยิ่งทำตัวลีบๆเข้าไปมันยิ่งลีบเป็นตะเกียบ ข้าพเจ้ายืนมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง เอามืออุดปากไม่ให้เสียงหัวเราะดังลอดออกมาให้อาเจ๊กได้ยิน รีบเดินจ้ำเข้าไปในตลาดแล้วหัวเราะงอหงาย เขาไม่เข้าใจมาจนบัดนี้ ว่าข้าพเจ้าขำอะไรกันนักกันหนา เราเล่นกันในตลาดว่างเปล่านั้นจนเย็นย่ำ แล้วเขาก็จะเดินตัวลีบ ทำตัวลีบๆแทรกช่องประตูที่อ้าแง้มไว้นิดเดียว ส่วนข้าพเจ้าก็จะเดินย่องๆไม่มีเสียง พอผ่านหน้าบ้านอาเจ๊กก็รีบวิ่งสุดชีวิต

ปีที่หนังไทยยังบู๊กันแหลกลาญ พระเอกกล้ามใหญ่หน้าตาบ่งบอกว่าไทยแท้ที่เคยเลี้ยงควายไถนามาก่อน ไอ้คลั่งทะเลโหด,มหาหิน,ข้ามาคนเดียว,อีสาวทรหด,ชื่อหนังที่จะอยู่ในจำพวกนี้ ดาวร้ายที่หน้าตาไม่ต่างกับโจร และนางเอกที่ใส่ขนตาปลอมยาวเฟื้อย หยอดยาใส่ตาให้ดูมีน้ำนวล และจริตจะก้านที่ผู้ดี๊ผู้ดี หาดใหญ่มันก็มีเป็นกั๊กเป็นก๊ก และอย่างกับดาราในจอออกมาวาดลวดลายอยู่บนถนน เซี่ยงตึ๊ง,ป้อม ๖,อู่ญี่ปุ่น,คลองหวะ,ตลาดกิมหยง และอีกหลายถิ่นหลายย่าน ต่างมีก๊กเป็นของตนเอง และโด่งดังมีชื่อเสียงไปถ้วนทั่ว เหตุพิพาทระหว่างนักเรียน,ระหว่างโรงเรียนก็มีกันบ่อย จำได้ครั้งหนึ่งในกีฬานักเรียน เด็กเทคนิคยกพวกตีกับเด็กช่างกล โกลิ้มที่มาจากสุราษฎร์ มาเรียนเทคนิคที่หาดใหญ่ แล้วพักอาศัยอยู่กับที่บ้าน ลุกลี้ลุกลนออกจากบ้านตามพรรคพวกไปเต็มรถตุ๊กๆ แม่ถามว่าจะไปไหน แม่สังเกตเห็นความผิดปกติ และอาวุธหนักเบาครบมือในรถแล้วอดหวั่นใจไม่ได้ โกลิ้มวิ่งขึ้นรถพลางหันมาตอบแม่ว่าเดี๋ยวมา ข้าพเจ้ายืนมองอย่างงงงง  ได้ยินแม่บ่นไล่หลังไปอีกราวๆครึ่งชั่วโมง พร้อมกับเตรียมสำลีผ้าพันแผล ไม่นานโกลิ้มก็กลับ ยิ้มแฉ่งเข้ามาในบ้าน ยกมือไหว้แม่แล้วเล่าเรื่องราวให้ฟัง ความว่าช่างกลตีกับเทคนิค เทคนิคพวกมากกว่าก็ไล่ต้อนจนช่างกลแตกกระเจิง แล้วจึงรวบรวมกำลังที่มีขึ้นตุ๊กๆ ๓ คัน พอถึงโรงเรียนช่างกลก็ตู้ม! แม่ถามว่าอะไรตู้ม? โกลิ้มตอบเรียบๆว่าระเบิดขวด แม่เอามือทาบอกใจหายวาบ

ข้าพเจ้าสังกัดอยู่ในกลุ่มตลาดกิมหยงโดยสถานภาพ และสังกัดกับกลุ่มเซี่ยงตึ๊งอีกที่หนึ่งด้วย ทั้งสองกลุ่มล้วนแล้วแต่เชื้อสายคนจีนทั้งสิ้น กับกลุ่มเซี่ยงตึ๊งนั้นเป็นเพราะเพื่อนรักคนหนึ่งในห้องเรียนเขามีบ้านละแวกนั้น และข้าพเจ้าก็ไปคลุกคลีที่บ้านเขาอยู่บ่อยๆ ข้าพเจ้าชอบดูการเชิดสิงโต-มังกร ความใฝ่ฝันลึกๆสุดแสนจะปรารถนาก็คือการได้สวมชุดนักเชิด ทุกเย็นจะต้องไปที่มูลนิธิเซี่ยงตึ๊ง นั่งคุยกับเพื่อนไปพลางดูรุ่นใหญ่ซ้อมเชิดไปพลาง ครั้นได้เวลาข้าพเจ้าก็กลับ เพื่อนคนนั้นถามว่าทำไมรีบนัก ข้าพเจ้าตอบเขาว่ารีบกลับไปเรียนทำเป็ด ซึ่งหมายถึงเตี่ยจะสอนวิธีถอนตอขนเป็ดที่ฝังลึกอยู่ในเนื้อ วิธีการล้วงไส้ล้างขี้เป็ด วิธีสับเป็ดให้ได้ขนาด มันเป็นความน่าเบื่ออย่างฉกาจ แต่เป็นเรื่องที่เป็นไฟต์บังคับ เป็นข้อเสนอของเตี่ยที่มิอาจปฏิเสธได้ เพื่อนคนนั้นตกตะลึง ซักถามด้วยความตื่นเต้นว่าเรียนที่ไหน ครั้นตอบไปว่าที่บ้าน เขายิ่งตื่นเต้น ใครสอน? เขาถามกลับมา ก็จะให้ใครสอนเล่าถ้าไม่ใช่เตี่ย ก่อนกลับและก่อนจะงงกันไปกว่านี้ เขาเอ่ยว่าหากข้าพเจ้าเรียนจบแล้ว อยากให้ข้าพเจ้าเป่าทรัมเปตให้เขาฟังบ้าง

การกระทบกระทั่งกันของกลุ่มวัยรุ่นเกิดขึ้นบ่อย เดี๋ยวก็ป้อม ๖ ยกพวกไปเซี่ยงตึ๊ง เดี๋ยวก็ทุ่งเสายกโขยงกันข้ามแดนไปคลองหวะ บาดเจ็บล้มทรุดกันไปก็เยอะ ครั้งที่นักเชิดมืออาชีพกำลังซ้อมเชิดใหญ่รับตรุษจีนนั้น เหตุการณ์ที่ไม่เกินคาดคิดก็ปรากฏ เมื่อหนุ่มๆจากไหนไม่รู้ได้กรูกันควงไม้ควงมีดเข้าห้ำหั่น เหล่าบู๊ตึ๊งไม่ทันตั้งตัวดีก็เสียท่าแตกกระเจิง เลือดและเสียงโอดโอยระงมไปทั่ว ข้าพเจ้ายืนแอบอยู่หลังเสาธง ตัวสั่นด้วยความตกใจกลัว พยายามทำตัวให้เล็กที่สุด และปลอบใจตัวเองว่าเรายังเด็ก เขาคงไม่คิดร้ายอะไรหรอกกระมัง จู่ๆก็มีมือหนึ่งมาลากกระชากตัวข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพยายามฝืนยิ้มทั้งๆที่น้ำตาไหล โดนตบกะโหลกไปหลายทีเหมือนกันแหละ

ยังคงแวะเวียนไปที่เซี่ยงตึ๊งเป็นปกติ ใครจะรบกับใครนั้นไม่เกี่ยวอย่างไรกับข้าพเจ้า ฉวย bmx คู่ใจได้ก็ปั่นไปยกล้อที่เซี่ยงตึ๊ง ปั่นไปพลางร้องเพลงเสียงดังไปพลางอย่างมีความสุข เซี่ยงตึ๊งกับตลาดกิมหยงนั้นอยู่ไม่ไกลนัก เรากวดไล่กันและกันไปบนถนน พอผ่านบ้านสาวคนสวย เราจะเวียนกันอยู่สักพัก ยกล้ออวดสาวกันเป็นที่ชื่นบานแล้ว ก็มุ่งหน้าไปมูลนิธิทันที มีสาวคนหนึ่งเธอชื่อหยี่ บ้านอยู่ระหว่างตลาดกับเซี่ยงตึ๊ง เธอเป็นสาวเนื้อหอมสวยเริดเชิดหยิ่ง เรารู้ดีว่าเธอไม่เคยสนใจมองไอ้หนุ่ม bxm หรอก โน่น-ไอ้หนุ่มยามาฮ่าเบลล์รุ่นแรกโน่นที่เธอยิ้มให้ แต่อะไรหรือที่จะสามารถห้ามความรักของหนุ่มรุ่นอย่างข้าพเจ้าได้? แต่ความพยายามก็คือความพยายาม ยกล้อกันจนเอวเคล็ดก็แล้ว กระโดดจั๊มพ์สองล้อก็แล้ว เล่นท่าอีเกิลส์ก็แล้ว เอาเท้าอุดล้อหน้าแล้วยกล้อหลังก็แล้ว นั่งบนอานปั่นล้อหน้าสองเท้าก็แล้ว เหลืออยู่ก็แต่จะเหาะนั่นแหละ เธอก็ยังยิ้มให้แต่ไอ้หนุ่มยามาฮ่าเบลล์ ความน้อยอกน้อยใจรื้นขึ้นมาจุกคอหอย จับแฮนด์ไว้มั่นแล้วกระชากเฟือง เสียงล้อบดถนนดังเอี๊ยด ข้าพเจ้าสะบัดล้อหลังใส่หน้าบ้านเธอเป็นการล่ำลากันที

เช้าวันนั้นตื่นขึ้นมา คว้ารถถีบคู่ชีพได้ก็ปั่นเดี่ยวไปตามถนน เลาะที่โน่นลัดที่นี่ เพลิดเพลินไปกับแดด ๙ โมงเช้าอันแสนอบอุ่น อะไรไม่รู้นำเท้าข้าพเจ้าให้ปั่นไปถึงเซี่ยงตึ๊ง จอดรถพิงกับฟุตปาธ เดินหายเข้าไปในศาลเจ้า เอนหลังฟังเสียงนกดุเหว่าที่บ้านหลังหนึ่งเลี้ยงไว้ จนรู้สึกสดชื่นกับวันที่อากาศดีดีมีเสียงนกร้องในโถงสงบเย็น เดินออกมาหมายจะกลับบ้าน ข้าพเจ้าแทบทรุดร่วงลงไปกองกับพื้น เมื่อฟุตปาธที่พิงรถไว้มีแต่กองขี้หมา รีบวิ่งไปยังบ้านเพื่อน เพื่อนตาลีตาลานพาไปหารุ่นใหญ่ รุ่นใหญ่คงกำลังเปรมยาเลยนั่งพริ้มตาฟังเงียบๆ เงียบขนเล่าจบก็ยังพริ้มตา เราสองคนเดินคอตกออกจากบ้านแกอย่างวังเวง

รถหาย! จะทำอย่างไรละทีนี้ ไม่กล้ากลับบ้าน ไม่กล้าไปแจ้งความ  เลยตระเวนหาดูตาม แหล่งที่คิดว่าน่าจะเป็นฝีมือพวกไหน ข้าพเจ้าพยายามทำหน้าจืดๆเมื่อเดินแถวป้อม ๖ พยายามยิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดีเมื่ออยู่ในเขตทุ่งเสา จนเกือบๆค่ำก็เดินกลับบ้านอย่างหมดเรี่ยวแรง แม่โวยวายเตี่ยโมโห ข้าพเจ้านั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น นั่นยิ่งทำให้เตี่ยโกรธหนักขึ้นไปอีก แกไม่ชอบผู้ชายขี้แย เดือดร้อนน้าๆพี่ๆทั้งหลายทั้งปวงต้องตามหาให้ โชคดีที่น้าคนหนึ่งแกมีพรรคพวกเพื่อนฝูงทุกวงการ แกพบว่ารถของข้าพเจ้าจอดอยู่ในบ้านรุ่นใหญ่ที่เปรมยาคนนั้นนั่นเอง มันถูกนำมาขัดสีแล้วลงสีใหม่ ไม่อยากเชื่อ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นรุ่นใหญ่ ข้าพเจ้ารู้สึกสิ้นหวังในการพึ่งบารมีของเขาทันที เราไปตามรถกลับมาได้ โดยต้องไถ่มาด้วยเงิน ๖๐๐ บาท และนั่นเป็นการสิ้นสุดความอยากเป็นหนึ่งใน ขบวนการบู๊ตึ๊งเซี่ยงตึ๊ง

๒).

น้าพรเป็นสาวสวยเนื้อหอมประจำตลาดกิมหยง แกเป็นเถ่าชิ่วหน้าร้านที่มีลูกค้าแฟนคลับ เหนียวแน่น ไม่เว้นไอ้พวงมาลัยขี้เมา เขาชื่ออะไรไม่มีใครรู้ ทุกคนย่านตลาดต่างเรียกเขาว่าไอ้พวงมาลัยขี้เมา ชื่ออาจยาวไปนิด แต่บอกความเป็นเขาได้สมบูรณ์ครบถ้วน เขาขายและส่งพวงมาลัยให้กับเจ้าต่างๆในตลาด เขาจะมาตลาดแต่มืดในสภาพเมาแประ เดินแอ่นหน้าแอ่นหลังร้องเพลงหนีบขวดเหล้า แต่น่าอัศจรรย์ใจอยู่อย่าง แม้จะเมาเพียงไรเขาก็ไม่เคยผิดพลาดเรื่องเงิน ทุกบาทที่รับและทอนตรงตัวตามจำนวนเงินเป๊ะๆ พอรุ่งเริ่มสางฟ้า แดดอ่อนๆเริ่มระบายสีไปทั้งถนน เขาจะล้างหน้าจากก๊อก หวีผมเรียบแปล้ ประแป้งเป็นไข่จิ้งจกด้วยหวี จัดเสื้อจัดกางเกงให้เรียบร้อย แล้วเดินยิ้มแต้เข้ามาในร้าน สั่งหมี่น้ำสองก้อนใส่ทุกอย่างกับน้าพร เขาจะยืนนิ่งยิ้มอายๆเขินๆอยู่อีกครู่ก่อนเดินไปหาโต๊ะนั่ง แม่จะทำตาเขียวๆใส่ แม่ไม่ชอบคนเมา เขายกมือไหว้แม่พร้อมกล่าวอรุณสวัสดิ์ เมื่อหมี่น้ำสองก้อนมาถึง เขาจะค่อยๆกิน มือซ้ายจะหนีบกระดาษทิชชูไว้ด้วย ไม่กี่คำหรอก เขาจะเคี้ยวตุ้ยๆได้ไม่กี่คำเท่านั้น ก็จะฟุบหน้าลงบนโต๊ะหลับตาถ้วย และแม่จะโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง รื้อคุ้ยอย่างไรเขาก็ไม่กระดิก เดือดร้อนเฮียตือต้องมาขนออกไปจากร้าน นั่นหมายความว่าเขาจะได้นอนด้วยวิธีถูกต้อง หลังเอนราบไปกับพื้น ไม่ต้องมีหมอน นี่เป็นการนอนที่จะทำให้กระดูกสันหลังของเขาตั้งตรง และจะไม่เกิดอาการปวดเมื่อยเจ็บปวดกล้ามเนื้อ เพียงแต่คนเดินทางเท้าอาจต้องลำบากบ้าง เมื่อต้องหลีกร่างที่ชุ่มแอลกอฮอล์บนฟุตปาธแคบๆและแออัดนั้น

บู๊ตึ๊งอย่างพี่เสือนี่ หากจะหาใครสักคนมาเทียบบารมีของแกได้ก็คงยาก รอยสักกับรอยแผลตามใบหน้าลำตัวนั้น มันแยกไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร พี่เสือไม่ค่อยพูดคุยกับข้าพเจ้านัก ทุกครั้งที่แกมองมา ข้าพเจ้าเป็นขนหัวลุก เสียงที่แกเรียกหาแม้จะเพื่อให้ขนมสักชิ้น ก็เล่นเอาข้าพเจ้าเดินเข้าหาอย่างแหยงๆกึ่งกล้ากึ่งกลัว จะปฏิเสธก็ไม่ได้ จะเดินหนีไปเฉยๆนี่ยิ่งแล้วใหญ่ มีหนทางเดียวสำหรับผู้ที่พี่เสือเรียกหา นั่นคือเดินเข้าไปทื่อๆ และใจสั่นรอฟังเท่านั้น

ข้าพเจ้าเคยคิดเล่นๆ จับให้พี่เสือคู่กับพี่เข้ม ทั้งบารมีบ้าดีเดือดล้วนแล้วแต่เท่าเทียมกัน ต่างกันนิดตรงพี่เข้มแกเป็นคนตลก และพูดจากับเด็กอย่างสนิทสนมคุ้นเคย เหมือนๆแกจะเป็นคนอ่อนโยน แต่ครั้นเวลาแกเดือดขึ้นมาละก็ พระอินทร์ตัวเขียวๆก็คงหลบ คนหนึ่งมวยจีน อีกคนหนึ่งมวยไทย แค่คิดข้าพเจ้าก็ตื่นเต้นแล้ว อยากรู้นักว่ามวยชาติไหนกันแน่ที่เจ๋งสุด เคยถามเฮียตือว่าพี่เสือแกมีวิชาตัวเบาสะกดจุดไหม เฮียตือตอบอย่างมั่นใจเต็มปากเต็มคำว่ามี    นี่ย่อมทำให้ข้าพเจ้าตาลุกวาว  ตอนฝึกมวยจีนกับเฮียตือก็พยายามมองหาพี่เสือ ว่าแกจะมาร่วมฝึกด้วยไหม แต่ข้าพเจ้าก็ไม่เคยได้พบเห็น เฮียตือว่าพี่เสือแกฝึกคนเดียวในป่าบนเขาคอหงส์โน่น เขาคอหงส์มันไกลนัก เห็นแต่ยอดเขาเขียวๆ และไม่เคยคิดว่าจะมีคนอยู่ได้ พอนึกถึงคำที่แม่กับน้าๆพูดถึงคอมมูนิสม์ ข้าพเจ้าก็ขนหัวลุกด้วยความกลัว คอมมูนิสม์เป็นสิ่งลึกลับน่ากลัวยิ่งกว่าภูตผี เคยเห็นใบปลิวของทางการออกมา มันเป็นปีศาจร้ายเขี้ยวยาวโง้งกินเลือดคน เคยมีคนเห็นคนตายในป่าแถวผาดำ คลองหอยโข่ง สภาพศพเละเทะไปทั้งตัว เขาโดนคอมมูนิสม์ฉีกกระชากฟัดเหวี่ยงด้วยฟันอันแหลมคม และเรี่ยวแรงอันมหาศาล ลำคอเขามีรอยเขี้ยวสองเขี้ยว และเลือดเขาหมดไปทั้งลำตัว พี่เสือเป็นคอมมูนิสม์? ข้าพเจ้าตกใจนัก พี่เสือเป็นอสูรกายเช่นนั้นหรือ? อุทานเบาๆพร้อมกับมองเฮียตือแปลกๆ เอามือลูบคอตนเองอย่างไม่ไว้ใจ มิน่าล่ะ พี่เสือจึงเป็นคนลึกลับ ดวงตาน่ากลัว เสียงพูดเหมือนตะคอก และร่างกายกำยำ ข้าพเจ้าไม่แน่ใจนักว่า อสูรกายคอมมูนิสม์มันจะกลัวคาถาหรือไม่ โชคดีที่ตานวลแกเคยให้คาถามาบทหนึ่ง สั้นๆจำง่ายว่านะโมพุทธายะ และข้าพเจ้าจะแอบสวดคาถานี้ในใจใส่พี่เสือทุกครั้งที่เจอ มันก็คงได้ผลอยู่บ้าง เพราะหลายครั้งที่พี่เสือเข้าใกล้แล้วเรียกหา เมื่อเดินเข้าไปแบบไม่สู้เต็มใจนัก ข้าพเจ้าจะสวดคาถานี้ไล่พี่เสือทันที แกจะตะคอก ไม่ใช่สิ แกจะพูดคุยกับข้าพเจ้าตามแต่ธุระ แล้วก็เดินหนีจากไปอย่างกลัวเกรงมนต์

บังเอิญที่คู่ปรับของพี่เสือไม่ใช่พี่เข้ม มันกลายเป็นว่าไอ้เคราเป็นผู้ที่พี่เสือหมั่นไส้มาโดย ตลอด ไม่มีใครรู้สาเหตุ แม้กระทั่งเฮียตือเองก็ตาม แต่มีเสียงว่ากันว่าไอ้เครานั้นเคยหักหน้าพี่เสือ ด้วยการยิงหนังสติ๊กใส่นกนางแอ่นตัวหนึ่ง ซึ่งบังเอิญเป็นตัวที่พี่เสือยืนรออย่างเยือกเย็นมาร่วมครึ่งชั่วโมง นกแอ่นโชคร้ายตัวนั้นโผร่อนลงมาในจังหวะที่พี่เสือกำลังง้างมือหมายจะคว้า เสียงดังแป๊กกระสุนดินเหนียวก็พุ่งใส่อกมันอย่างแรง มันร่อนเซถลาไปตามแรงเหนี่ยว แล้วสิ้นใจตายอยู่ตรงเท้าพี่เสือ พี่เสือมองมันเป็นฉากฉาก แล้วเงยมองไอ้เคราด้วยดวงตาแดงเข้ม ว่ากันว่าทุกคนในตลาดเงียบอึ้ง เย็นวาบไปตั้งแต่ท้ายทอยจรดก้นกบ และนั่นคือครั้งแรกที่ไอ้เคราได้รู้จักพี่เสืออย่างแท้จริง ไอ้เครานอนพังพาบอยู่บนถนน ร่างกายฟกช้ำดำเขียวไปทั่ว ปากฉีกตาฉีกจมูกฉีก  นอนหายใจรวยรินอย่างสุดจะต่อต้านขัดขืน แล้วพี่เสือก็เอาเท้าเขี่ยใบหน้าไอ้เคราก่อนเดินข้ามจากไป

ข้าพเจ้าไม่ชอบไอ้เครา คนละแวกตลาดไม่มีใครชอบไอ้เครา ด้วยความประพฤติก้าวร้าวและกร่างเหลือกำลัง ไอ้เครามาทำงานที่โรงน้ำแข็งเมื่อไรไม่มีใครจำได้ แต่อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อคนเห็นไอ้เคราง้างหนังสติ๊กยิงนกอยู่บ่อยๆ ทุกคนก็รับรู้กันว่าเขาทำงานที่โรงน้ำแข็ง ข้าพเจ้าเสียดายนักที่ไม่ได้เห็นพี่เสือกำราบ อยากรู้เหลือเกินว่าวิชาเส้าหลินของพี่เสือ แกจะกระโดดตัวเบาขึ้นไปบนฟ้า แล้วหมุนควงลงมาใช้ฝ่ามืออรหันต์กระแทกหน้าอกไอ้เคราอย่างไร พี่เสือจะเรียกพลังลมปราณกำหนดจิตตั้งมั่น แล้วปล่อยพลังภายในออกมาหรือไม่

แต่ไม่เคยมีสักครั้งสักหน ที่พี่เสือกับพี่เข้มจะโคจรมาเจอกันในฐานะศัตรู เหมือนต่างฝ่ายต่างรู้ ว่าต่างคนต่างอยู่น่าจะเป็นการดีที่สุด คนในตลาดได้แต่ภาวนา ว่าทั้งสองอย่าได้มาเจอกันเลย เป็นโชคดีของพวกเรา เมื่อพี่เสือจิบแต่ชาจีนร้อนๆไม่กินน้ำแข็ง และพี่เข้มก็สมัครใจจะส่งน้ำแข็งให้ร้านค้าที่อยู่ไกลออกไป นอกจากร้านหมี่เป็ดศิริวัฒน์นี้ร้านเดียว

น้าพรเป็นสาวสวยประจำละแวกตลาด ใครต่อใครหมายปองอยากจะได้ครองคู่ ด้วยงานบ้านงานเรือนเรียบร้อย ขยันขันแข็งการงาน ไม่เที่ยวเตร่ ไม่ออกไปสังสรรค์สมาคมกับใครต่อใครอย่างไม่เลือกหน้า ความยิ้มเก่งของน้าพรคือการผูกมิตร และผูกใจลูกค้าของร้าน แน่ล่ะที่ต้องมีหญิงสาวหลายคนไม่พึงพอใจน้าพร เธอๆเหล่านั้นจะพูดจาใส่ร้ายน้าพรอย่างเสียหาย มองน้าพรด้วยหางตาอย่างเหยียดหยาม และกระฟัดกระเฟียดฮึดฮัดแดกดันทุกครั้งที่มีหนุ่มๆสลอนหน้ามาพูดคุย แต่น้าพรเป็นคนนิ่ง แกจะนิ่งได้ในทุกสภาวการณ์ แม้บางครั้งที่แกต้องใช้ปังตอชี้หน้าเธอๆเหล่านั้นบางคนบ้างก็ตามที

พลันข้าพเจ้าก็วูบคิดอะไรได้ เมื่อพี่เสือเป็นคอมมูนิสม์ พี่เข้มก็เข้าลักษณะของไอ้เสือร้าย ข้าพเจ้าพยายามไล่ความคิดนี้ออกจากสมอง พี่เข้มจะเป็นไอ้เสือร้ายได้อย่างไร ในเมื่อพี่เสือแกชื่อเสือแล้ว เอาใหม่ๆ พี่เสือเป็นคอมมูนิสม์ พี่เข้มก็ควรจะเป็นอะไรสักอย่างที่ดุร้ายให้พอฟัดพอเหวี่ยงกัน ข้าพเจ้าดีดนิ้วดังเปาะ เมื่อนึกถึงไก่แจ้ที่พี่เข้มเคยเอามาฝาก  เข้ม ไก่แจ้! ไก่แจ้เดือยยาวโง้ง แต่ตัวมันจะเตี้ยไปหน่อยนี่นา ดูอย่างไรก็ไม่แมน เอาใหม่ เปลี่ยนจากไก่แจ้เป็นไก่ชนน่าจะเข้าทีกว่านัก เข้ม ไก่ชน ใช้ได้ๆ แต่มันฟังดูแล้วดุร้ายพอฟัดพอเหวี่ยงกับ เสือ คอมมูนิสม์ ไหมนี่ ข้าพเจ้ายังแคลงใจ

วันที่ตลาดกิมหยงนองเลือดนั้น ข้าพเจ้าพยายามมองดูพี่เสือกับพี่เข้ม ใจหนึ่งอยากให้ทั้งคู่วิ่งเข้าหากัน แต่อีกใจก็เกรงว่าทั้งคู่จะได้รับสาหัส ในความก้ำกึ่งภาวนานั้น ดวงตาข้างหนึ่งพยายามให้ภาพทั้งคู่เป็นจริง แต่ดวงตาอีกข้างนี่สิ ที่พยายามจับทั้งคู่ให้อยู่ไกลเกินมือถึง

หลังศึกใหญ่ เสือสองถ้ำก็แยกย้ายหายกันไปเนิ่นนาน น้าพรแต่งงานกับชายหนุ่มจากดินแดนอื่น และย้ายไปเปิดร้านหมี่เป็ดอยู่ต่างจังหวัด เฮียตือได้งานทำที่สงขลา ไม่มีใครได้ข่าวพี่เสือ พี่เข้มติดคุกในข้อหาเป็นมือปืนรับจ้าง แต่ไอ้เครายังขับรถเครื่องพ่วงส่งน้ำแข็ง และยังเหน็บหนังสติ๊กไว้ที่บั้นเอวตลอดเวลาเหมือนเดิม


๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๐

Comment #1
วรภ วรภา (Not Member)
Posted @12 พ.ค.50 10.02 ip : 61...34

หมี่....นี่มันพล๊อตนิยายนี่หว่า เอาเลยๆ...บรรเลงเลย

Comment #2
Posted @12 พ.ค.50 18.46 ip : 58...146

โว้ววว!!!~

น้ำเสียงอารมณ์ร่วม

Comment #3
เกี๊ยวหมูแดง (Not Member)
Posted @12 พ.ค.50 19.30 ip : 61...11

พระเอกผู้ร้ายเป็นพี่หมด มีนางเอกเป็นน้าอยู่คนเดียวอะ  มิน่าแห้วหมด เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า รักข้ามรุ่นมักไม่ประสบความสำเร็จเนอะ

Comment #4
Posted @13 พ.ค.50 8.12 ip : 58...251

 

Comment #5
Posted @14 พ.ค.50 8.22 ip : 203...245

พี่วรภครับ  ไม่ใช่พล็อตนิยายคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ    ฮือๆ

มันเป็นเรื่องเล่า จบแค่นั้นแหละพี่

นิยายที่เขียนค้างผมยังต่อไม่จบเรยอ่าห์

แสดงความคิดเห็น

« 3575
หากท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านจำเป็นต้องป้อนตัวอักษรของ Anti-spam word ในช่องข้างบนให้ถูกต้อง
The content of this field is kept private and will not be shown publicly. This mail use for contact via email when someone want to contact you.
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง

งานเขียนของข้าพเจ้า

personมุมสมาชิก

Last 10 Member Post

Web Statistics : online 0 member(s) of 11 user(s)

User count is 2280207 person(s) and 9161732 hit(s) since 29 เม.ย. 2567 , Total 550 member(s).