มาจากร้านหมี่เป็ดศิริวัฒน์ : เด็กชายผู้กินแต่หนังไก่
ในจำนวนลูกค้ากิตติมศักดิ์ ข้าพเจ้าต้องนับ ตี๋ รวมเข้าไปอย่างเคารพ ๑). เด็กชายหน้าจืดๆร่างกายเจ้าเนื้อท้วมๆผู้นี้ ข้าพเจ้าจำไม่ได้จริงๆว่า วันแรกที่ พี่เจิดกระเตงพา เข้ามานั้น-เมื่อไร? ความทรงจำอันรางเลือนดูเหมือนจะคลับคล้ายคลับคลาว่านานมากแล้ว นานจนเพิ่งมานึกแปลกใจที่เห็นตี๋กลายเป็นเด็กหนุ่ม มีกองไขมันย่อมๆบริเวณพุง ตี๋วันนี้มิใช่ตี๋ขี้ก้างผอมร่องแร่งเหมือนตี๋เมื่อ ๑๐ ปีก่อน หากแต่ยังคงความหน้าจืดเอาไว้ได้อย่างเป็นอัตตลักษณ์ยิ่ง และตี๋นี่แหละ ที่เป็นเด็กชายผู้กินหนังไก่คนแรกของร้าน
ตี๋จะสั่งบะหมี่ด้วยท่วงท่าเหนียมอาย ความขี้อายน่ารักเช่นนี้ของเด็กมักเป็นที่เอ็นดูของผู้ใหญ่ เสมอ อาจเพราะยิ่งเราโตขึ้น เรายิ่งพบเจอและชาชินกับสภาวการณ์มากขึ้นเป็นเงาตามตัว อาการเหนียมๆที่เคยมีอยู่เมื่อเยาว์ มันก็พานจะเหือดหายกลายเป็นความหน้าด้านไปเสียอย่างนั้นแหละ เมื่อได้พบเห็นท่วงท่าวัยเยาว์อันน่ารักเช่นนี้เข้า เราจึงมักจะโหยหาความไร้เดียงสานี้อย่างรุนแรง ข้าพเจ้าเองก็เถอะ ถึงแม้จะเป็นคนที่เข้าใกล้เด็กแล้วเด็กเป็นกลัวตัวสั่นก็ตามที แววตาข้าพเจ้าก็ยังฉายความเอ็นดูตี๋ไว้อย่างปิดบังไม่มิด เสียงแหลมเล็กของตี๋ก็ประหนึ่งแรงดึงดูดให้ต้องโน้มถ่วงหูลงมาฟังให้ชัดว่า หมี่แห้งสองก้อน ไม่ผัก ตี๋จะหันไปสบตาพี่เจิดเล็กน้อย แล้วกระซิบด้วยเสียงแผ่วเบาว่า เอาแต่หนัง ย่อมเป็นหนังไก่แน่แท้ ไก่เนื้อที่ข้าพเจ้าซื้อจากแผงพี่อะฉะห์ในตลาดกิมหยง มันถูกต้มพะโล้ ในเครื่องเทศอย่างเกรี้ยวกราดด้วยการโชนไฟ แล้วค่อยละมุนละม่อมกล่อมให้หายหวาดหวั่นด้วยการแขวนกับตะขอเกี่ยว การต้มอย่างรุนแรงเช่นนี้ไก่ย่อมเจ็บปวดเป็นที่สุด แต่การแขวนไว้กับตะขอให้หยดหยาดน้ำมันไก่ร่วงลงเป็นดวงนั้น ก็คือการปลอบประโลม และการทำให้ตระหนักในภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่แห่งตน
บนเขียงหน้าร้าน ข้าพเจ้าจับไก่พลิกหงายพลิกคว่ำ สายตาโลมลูบเรือนร่างอย่างทะนุถนอม ทรงไก่ให้ตรงมั่น บรรจงใช้ปลายอีโต้กรีดเบาๆพอเป็นรอย จากคอถึงท้ายอุด ลากสะกิดเตือนเป็นทางยาวขอขมาลาโทษ แล้วกดปลายอีโต้ฉีกกระชากออกเป็นสองซีกอย่างเหี้ยมเกรียม ดึงหนังหน้าท้องขึ้นไปจนถึงอกอูมเต่ง การดึงต้องใช้สมาธิอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้หนังไก่ที่เป็นแผ่นเดียวกัน หนังหน้าท้องเป็นส่วนที่อร่อยที่สุด ครบเครื่องพะโล้และความเหนียวหยุบหยับ ตี๋จะมองข้าพเจ้าตาไม่กะพริบ ลูกกระเดือกที่ยังไม่โผล่ออกมาชัดเจนวิ่งขึ้นลงไปมา ข้าพเจ้ายักคิ้วให้ตี๋อย่างภาคภูมิและเย่อหยิ่ง ประหนึ่งพราหมณ์ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์บวงสรวง-ปานนั้นเชียว
มิใช่เรื่องแปลกสำหรับข้าพเจ้าแต่อย่างใดเลย ด้วยไก่ที่ถูกต้มให้สุกในเครื่องพะโล้นั้น รสชาติ
สะเด็ดสะเด่าย่อมอยู่ที่หนัง แต่เนื้อขาวนวลนั้นจะมีรสชาติแบบเนื้อไก่ๆ ที่ให้ความรู้สึกได้เต็มคำ ท่านลองหลับตานึกดูสิ ยามที่เคี้ยวหนังไก่โดยเฉพาะช่วงหน้าท้องนั้น หนังอันหนาหยึบๆจะให้ความรู้สึกในการบดเคี้ยว และรสพะโล้จะหอมกรุ่นอยู่ตลอดลมหายใจ แต่เนื้อขาวนวลนั้นจะให้ความรู้สึกหวานลิ้นโรแมนติค และอิ่มในแต่ละคำได้เต็มกระเพาะ นี่ย่อมเป็นอัตตลักษณ์เฉพาะของรสชาติแห่งความแตกต่าง ความแตกต่างอันเป็นเนื้อหาเดียวกันในความเป็นไก่หนึ่งตัว เนื้อหาเดียวกันเหมือนๆกันในนามแห่งไก่ทั้งโลก
มันหมายความว่าทั้งความแตกต่างและความเหมือน ล้วนแล้วเป็นเรื่องเดียวกันในโลกใบนี้
ไม่มีสิ่งใดที่จะอยู่ได้ด้วยธาตุบริสุทธิ์ตามลำพังตัวมันเองได้ มันถูกหลอมถูกถูถูกเขย่าให้ผสมกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สอดรับสอดคล้องสอดประสานเป็นกระบวนการ จนสูญสิ้นสถานภาพเดิมไปทุกขณะนาที เพื่อก่อเกิดรูปใหม่ ความหมายใหม่ และหน้าที่ใหม่ ในความเป็นเหรียญหนึ่งเหรียญมันมิใช่หมายถึงความเป็นสองด้านหัวกับก้อย แต่มันคือเหรียญที่มีที่มาจากนิเกิล ตะกั่ว เงิน และอะไรอีกหลายอย่างที่ข้าพเจ้าจนปัญญาจะรู้ หัวกับก้อยเป็นเพียง สัญญะ ที่เบ็ดเสร็จแล้วจากการก่อรูปขึ้นมาเป็นเหรียญหนึ่งเหรียญ แล้วมันก็จะกร่อนตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อเปลี่ยนสถานะของตนใหม่
ไก่พะโล้ก็เช่นเดียวกัน มันถูกการโชนไฟแรงกล้าจนสุกไปทั้งตัว แล้วถูกทำให้เย็นลงด้วย
การแขวนเกี่ยวตะขอเหล็ก เครื่องพะโล้ที่เกาะติดตัวไก่ ที่ซึมซับเข้าไปถึงกระดูก มันคือส่วนผสมผสานให้ไก่ดิบหนึ่งตัวเป็นไก่พะโล้พร้อมกิน มิใช่เพียงไก่ดิบหนึ่งอย่าง และเครื่องพะโล้อีกหนึ่งอย่าง กรรมวิธีแห่งการชุนถ่านเข้าเตา การยกไก่ขึ้นจากน้ำพะโล้บ่อยๆ ตลอดจนการดูปีกว่าอ่อนลงหรือยัง ล้วนแล้วเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเป็นไก่พะโล้หนึ่งตัวทั้งสิ้น ความอร่อยและความหอมเป็นเพียง สัญญะ หนึ่งจากการก่อรูปขึ้นมาเป็นไก่พะโล้
อา-เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว! กินไก่พะโล้หนึ่งตัวสะเทือนไปทั้งครัว!
๒).
สมัยที่ร้านยังอยู่ที่ตลาดกิมหยง ช่วงเช้า-ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นพ่อบ้านแม่เรือนที่มาจับจ่ายซื้อ
หาอาหาร และจะแวะร้านหมี่เป็ดเป็นอาหารเช้าไปในตัว มีไม่น้อยที่ซื้อใส่ถุงกลับบ้านฝากคนที่รอ ครั้นเที่ยง-ลูกค้าก็เป็นพนักงานบริษัทและข้าราชการ พวกเขาเหล่านี้จะนั่งกินที่ร้าน รอเวลางานช่วงบ่ายจะใกล้มา ตอนนั้นข้าพเจ้ามีหน้าที่ใส่กับ โดยมีแม่เป็นเถ่าชิ่วยืนลวกเส้น ไม่ว่ามื้อเช้าหรือเที่ยง คำว่า ไม่เอาหนัง ดังกึกก้องอยู่ตลอดเวลา เป็นประโยคที่ได้ยินควบคู่ไปกับ ไม่ชูรส อันเป็นประโยคอมตะที่ร้านอาหารต้องคุ้นเคยเป็นอย่างดี ข้าพเจ้าใช้ที่คีบน้ำแข็งเขี่ยหนังไก่ออก แล้วเลือกเอาแต่เนื้อขาวนวลโปะหน้าในถ้วยหมี่ เคียงคู่ไปกับหมูแดงและลูกชิ้นสองลูก แม่จะใส่น้ำซุปราดลงไป โต๊ะโน้นโต๊ะนี้โต๊ะนั้น
จึงการสับเนื้อไก่ต้องมีเทคนิคพิเศษ มันอาจจะดูง่ายๆเมื่อสับไปก็ดึงหนังไก่ออกไปในตัว แยก
เป็นสัดส่วน เนื้อส่วนเนื้อหนังส่วนหนัง เพื่อจะพบว่ายามเก็บร้านเวลาบ่ายสาม หนังที่คัดแยกออกทั้งหมดนั้นต้องเททิ้งลงถังข้าวหมู อย่างน่าเสียดายและอย่างน่าใจหายยิ่ง ที่ข้าพเจ้าผู้ชื่นชอบการเคี้ยวบดขยี้หนังไก่ ไม่สามารถกินหนังทั้งหมดนั้นได้เพียงลำพัง และตี๋ก็ยังไม่ปรากฏกาย การสับเนื้อไก่จึงต้องหันเข้าหาวิธีการเดิม นั่นคือสับไปทั้งเนื้อและหนัง ระวังบรรจงอย่างที่สุดที่จะให้หนังติดนาบเนื้อทุกๆชิ้น และ ลักไก่ ด้วยการโปะเนื้อขาวไว้ข้างบน พลิกส่วนที่ติดหนังลงล่าง ข้าพเจ้าจำเป็นจริงๆ ด้วยไก่ดิบที่ข้าพเจ้าซื้อมาทั้งตัวนั้น เขาชั่งน้ำหนักรวมหนังเข้าไปด้วย
มันเป็นเรื่องของลิ้นคน แม่บอกข้าพเจ้ามานานนักหนาแล้ว แต่ละคนมีรสนิยมแตกต่างกันไป
แหละการกินนี่แหละ ที่บ่งให้เราเห็นรสนิยมได้ชัดเจนยิ่งถึงความแตกต่าง ว่ากันว่ายามกินนั้น มนุษย์จะลืมตัวลืมเก๊กมากที่สุด ทุกคำที่อ้าปากแล้วเคี้ยว มันคือสัญชาติญาณดั้งเดิมที่พร้อมจะเปิดเผยตัวตนแท้ๆออกมา ยิ่งได้กินของอร่อยที่ถูกปากถูกลิ้นด้วยแล้ว ท่านเอ๋ย-เราอาจได้เห็นนางงามจักรวาล แลบลิ้นเลียรอบริมฝีปาก เพื่อตวัดรสชาติที่ค้างคาอยู่นั้นให้แผ่ซ่านกำซาบถึงทรวงก็ได้ ในขณะที่ท่านกำลังกินของอร่อยของโปรด จิตขณะนั้นก็จดจ่ออยู่แต่รสชาติของอาหาร นี่เป็นวิธีการกินที่สมบูรณ์แบบและถูกต้องที่สุด ข้าพเจ้าเคยพบเห็นบางท่านอ่านหนังสือพิมพ์พลางกินพลาง ดูโทรทัศน์พลางเคี้ยวพลาง คุยพลางกลืนพลาง ข้าพเจ้าสงสัยนักว่า เมื่อเขาตักลูกชิ้นป้อนเข้าปากนั้น เขาจะรู้ตัวไหมว่ามันคือลูกชิ้น? หรือที่แท้เขากำลังเคี้ยวข่าวอาชญากรรมกันแน่?
คนเรามิได้กินเพื่ออิ่มอย่างเดียวหรอก-เชื่อเถอะ ในความอิ่มนั้นเรายังต้องการความอร่อยและ
ความรู้สึกสุขในการได้กินอีกด้วย
เพราะลิ้นมีความแตกต่าง การเลือกสรรกินจึงเป็นปกติของลิ้นมนุษย์ ที่ตลาดกิมหยง-ลูกค้า สาวสวยรายหนึ่งมักจะสั่งหมี่แห้งก้อนเดียวคู่กับเกาเหลาเป็ดตุ๋น เป็นที่รู้กัน ข้าพเจ้าจึงคัดเอาแต่ไก่เนื้อขาวล้วนๆให้หล่อน แหละเป็ดนั่นเล่าก็ต้องเป็นช่วงหน้าอกเท่านั้น มีอยู่วันหนึ่ง ข้าพเจ้าเห็นหล่อนเดินมาแต่ไกล คงจอดรถเอาไว้บริเวณหัวเลี้ยวขวามือ เพราะถนนมีไม่เพียงพอที่จะจอดได้อีกแล้ว ข้าพเจ้าเหลือบดูไก่ในตู้แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ หนังไก่ทั้งนั้น มันมีแต่หนังไก่กองอยู่เต็มตู้ เอาวะ-ลูกค้าก็ซาๆลงไปเยอะแล้ว ลองใช้ลิ้นที่แม่มักหาว่าเป็นปลาลิ้นหมา เกลี้ยกล่อมให้หันไปกินหมูแดง หรือไม่ก็หมี่แห้งเปล่าๆกับเกาเหลาดูสักตั้ง ข้าพเจ้าเดินไปดักอยู่หน้าร้าน กล่าวคำทักทายสวัสดีด้วยหัวใจเต้มตูมๆในความสวยสะโอดสะอง พลางชวนเชิญเกลี้ยกล่อมตามที่นึกแผนอยู่ในใจ หล่อนยิ้มรับอย่างน่ารัก เหลือบดูในตู้แล้วยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะบอกข้าพเจ้าว่าทานข้าวมาแล้วจ้ะ นี่จะเข้าไปตลาดหาซื้อของชำร่วยงานแต่งที่จะมาถึงอีกไม่กี่วัน น่าแปลก-ข้าพเจ้ากลับรู้สีกโล่งอกโล่งหัวใจ มิใช่ไม่อยากจะขายหรือรังเกียจ ไม่ใช่แน่ๆในเมื่อ หล่อนสวยออกขนาดนั้น แต่เป็นเพราะข้าพเจ้าไม่อยากให้หล่อนต้องผิดหวัง หรือต้องรู้สึกว่ามาแล้วไม่ได้กินอย่างที่ตั้งใจ เพียงเพราะข้าพเจ้าไม่แน่ใจนักว่า ลิ้นของคนนั้นมันจะพลิกพลิ้วเปลี่ยนปรับกระทันหันได้มากน้อยเพียงใดต่างหาก และที่สำคัญ-นั่นคือลิ้นของหล่อน หาใช่ลิ้นของข้าพเจ้าไม่ ในความแตกต่างระหว่างหนังกับเนื้อเรารับรู้ได้ด้วยลิ้น ลิ้นซึ่งกำหนดรสนิยมแตกต่างกันไป แม้มันจะเป็นองค์ประกอบร่วมของไก่หนึ่งตัวก็ตามที แม้หล่อนจะแต่งงานในอีกไม่กี่วันก็ตามที จนเมื่อย้ายร้านมาอยู่ถนนละม้ายสงเคราะห์นี่แหละ ที่ข้าพเจ้าได้พบตี๋ เด็กชายผู้กินหนังไก่รายแรกของร้าน
๓).
จะว่าไปแล้วก็ไม่เชิงหรอก ที่ตี๋จะเป็นเด็กกินหนังไก่รายแรก ก่อนหน้านี้ก็เคยมีลูกค้าสั่งแต่หนัง
ไก่อยู่บ่อยๆ เพียงแต่มักจะสั่งในทำนองว่าเนื้อติดหนัง หมายความว่าหากข้าพเจ้าจับไก่ถอดเสื้อให้อย่างเดียว ข้าพเจ้ามีสิทธิ์โดนติตำหนิกระทั่งด่าได้หากสนิทกันมากพอ ลูกค้าเหล่านี้มักเป็นคนหนุ่มล่วงไปถึงวัยกลางคน เคยถาม ปิง ว่าทำไมจึงชอบกินหนัง คำตอบของเขาก็คือคำตอบของข้าพเจ้านี่เอง แต่เนื่องจากปิงไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายนัก อีกทั้งโครงร่างมีความเป็นคนเจ้าเนื้ออยู่เยอะ ปิงจึงเพลาๆหนังแล้วเลี่ยงไปให้ติดเนื้อแทน อย่างน้อยก็เพื่อลดภาวะไขมันซ้อนทับบริเวณพุงตัวเอง กลัวอ้วนจึงน่าจะเป็นคำตอบที่ตรงเผงที่สุด
มิใช่หรอก มิใช่เพียงแค่กลัวอ้วนอย่างเดียวเท่านั้น ที่ทำให้ใครต่อใครสิ้นใยดีหนังอันโอชะ
มิทราบเหมือนกันว่าจริงเท็จเพียงไร แต่คำตอบทำไมไม่กินหนังของลูกค้าสาวอีกคนหนึ่ง แม้จะไม่สวยนักแต่ก็น่ารักในอิริยาบท หล่อนให้เหตุผลอย่างเต็มปากเต็มคำว่า เดี๋ยวเป็นสิว&.
ข้าพเจ้าครุ่นคิดคำตอบนี้มาอย่างยาวนาน
ปัจจุบันตี๋อายุ ๑๐ กว่าขวบ มีร่างกายสูงใหญ่เจ้าเนื้อ แก้มยังคงฝาดเลือดอยู่เสมอ และยังคง
เหนียมอายมิต่างเมื่อ ๑๐ ปีที่ผ่าน ตี๋เริ่มมีสิวประปรายบนใบหน้า แต่นั่นเราจะอนุมานว่าเป็นเพราะหนังไก่คงไม่ได้เลยเสียทีเดียว เพราะวัยของตี๋กำลังซน โลดแล่นอยู่กลางสนามฟุตบอล ที่ฝุ่นละอองพร้อมจะเกาะกุมใบหน้านวลๆให้เป็นรอย ซ้ำฮอร์โมนเพศชายอยู่ในช่วงวัยพลุ่งพล่าน เหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบให้เกิดสิวสักเม็ดหนึ่งได้เสมอ
กระนั้นตี๋ยังคงหน้าจืดอย่างมิมีเปลี่ยนแปลง
๓). เด็กชายผู้กินแต่หนังไก่คนหนึ่ง กับสาวสวยผู้เลือกจะรับประทานแต่เนื้อขาวๆ สำหรับร้านหมี่ เป็ดศิริวัฒน์แห่งนี้คือเรื่องที่แตกต่างกันสุดขั้ว คล้ายดังสองคนนี้มาเพื่อสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นในร้าน คล้ายดังกับว่าสองคนนี้มาคนละสายทาง แต่จุดหมายอยู่ที่ไก่พะโล้ ตัวเดียวกัน
ในนามแห่งไก่พะโล้ทั้งโลกมันล้วนมีเนื้อหาอันเดียวกัน เป็นเนื้อหาอันเดียวกันที่แตกต่างกันไป
ในความเป็นไก่แต่ละตัว และความแตกต่างนี่แหละที่เป็นอัตตลักษณ์เฉพาะอันถูกกำหนดโดยลิ้นแต่ละลิ้น หมายความว่าไม่ว่าลิ้นของตี๋หรือลิ้นของสาวสวยคนนั้น ขณะกำลังตวัดเนื้อและหนังเข้าสู่ลำคอ มันคือความแตกต่างอย่างสุดขั้วที่นำไปสู่ความเหมือนอย่างเดียวกัน นั่นคือความอิ่มอร่อย และไก่พะโล้ที่จะเหลือแต่โครงกระดูกเปล่าเปลือย
อา-เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวฉันใด กินไก่พะโล้ตัวหนึ่งก็สะเทือนถึงร้านศิริวัฒน์ฉันนั้น!
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๔๗