มาจากร้านหมี่เป็ดศิริวัฒน์ : เข็มสีเหลือง
หม้อลวกหมี่เก่าๆที่ชำรุดแล้วนั้น ข้าพเจ้านำมาปลูกต้นไม้ ๑). ตึกแถวล็อกเดียวกับร้านข้าพเจ้านั้น ทุกบ้านจะมีต้นไม้ปลูกอยู่ระดะระดาดกลาดเกลื่อน ซึ่ง ล้วนเป็นพันธุ์ไม้สวยงามดอกหอม ไม่ก็เป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกเอาเคล็ด เจ๊เซี่ยมง้อปลูกมิกกี้เมาส์ที่มีดอกเล็กๆหลากสี ดอกก็สวยดีอยู่หรอก แต่กิ่งก้านของมันระเกะระกะเหลือเกิน มีโป๊ยเซียนดอกแดงแว้งไปทั้งต้นอยู่ ๒-๓ กระถาง และมีอ่างบัวนาอยู่ ๒ ลูกตามหลักฮวงจุ๊ยเป๊ะๆ บ้านพี่ไทก็จะปลูกกวนอิมเขียวชะลูดน่าเลื่อมใส รายล้อมด้วยพันธุ์ไม้เล็กๆที่ข้าพเจ้ามิรู้จัก คลีนิกหมอฟันก็เป็นไม้ไทยประเภทหาง่ายราคาไม่แพง โดยมีซุ้มเล็บมือนางไต่เลื้อยอยู่บนโครงเหล็ก บ้านเจ้าฟรองซ์ก็เป็นโมกลายต้นงาม ที่ถูกริดก้านให้เหลือแต่ยอดบน บ้านขวาสุดเป็นร้านอาหารอีสานมีต้นมะม่วงลูกดก ต้นมันเท่าหน้าแข้งได้กระมัง แต่ลูกดกเหลือเกิน ร้านข้าพเจ้ามีมะขามยืนต้นตระหง่าน ๒ ต้นซ้ายขวา!
๒). มันเริ่มมาจากการกินมะขามหวานของข้าพเจ้าโดยแท้ และเกิดจากการโยนเมล็ดลงถังขยะอย่าง สะเปะสะปะ จึงมีไม่น้อยที่มันพลัดมือพลัดเป้าไปตกหล่นอยู่ตามพื้น และจำนวนหนึ่งก็หวือไปตกอยู่ในหม้อลวกหมี่เก่าๆไม่ใช้แล้ว ที่ข้าพเจ้าใช้ปลูกต้นอะไรสักต้นมาก่อนหน้า มันจะถูกอบถูกเพาะมาอย่างไรก็ไม่ทราบได้ แต่แล้ววันหนึ่ง ยอดอ่อนของมันก็แทงพรวดขึ้นมาจากดิน นับได้จำนวน ๑๐ กว่าต้น ข้าพเจ้าเริ่มสังเกตการเติบโตของมันอย่างใจจดใจจ่อ จนเห็นว่ามันโตพอที่จะเคลื่อนย้ายถ่ายเทไปสู่ที่อื่นได้ ข้าพเจ้าก็จัดการขุดและนำไปฝังดินในกระถาง ขณะเดียวกันนั้นต้นอะไรสักต้นที่ปลูกอยู่ก่อนมันเริ่มเฉาโดยไม่ทราบสาเหตุ ข้าพเจ้าจึงขุดมันอีกต้นเพื่อทิ้ง แล้วยึดพื้นที่หม้อลวกหมี่นั้นให้เป็นที่อยู่ของมะขามหวานต้นที่สวยที่สุด เอาล่ะ-วางมันไว้ทางซ้ายมือหน้าร้าน คู่กับพุ่มเข็มเหลืองที่กำลังสะพรั่งดอก แต่ด้านขวามือมันยังดูโล่งๆ ไม่มีความสมดุลในองค์ประกอบการจัดวางนัก นึกขึ้นได้ว่าเหล่าเต๊งยังมีหม้อเก่าๆอยู่อีกสักลูกสองลูก ก็ขึ้นไปหาลูกที่มีสภาพดีพอจะอัดดินลงไปได้ วางตำแหน่งมันทางขวา คู่กับต้นเล็บครุฑของบ้านพี่ไท ที่ข้าพเจ้าแอบติ๊ต่างเอาว่าเป็นของข้าพเจ้า มันเป็นต้นใหญ่ในกระถางใหญ่ ใหญ่โตเกินพี่ไทจะเอารถยนตร์เข้าบ้านได้สะดวก แกเลยเขยื้อนมาทางซ้ายมือเล็กน้อย เข้าเขตหน้าบ้านข้าพเจ้าพอดี เพื่อไม่ให้น่าเกลียดเวลารดน้ำนัก ข้าพเจ้าก็หาเข็มแดงมาอีกต้น วางคั่นกลางระหว่างมะขามหวานอ่อนกับเล็บครุฑได้อย่างลงตัว เอาล่ะ-ข้าพเจ้ามีอุทยานส่วนตัวแล้ว
มันป็นวันที่มีการยิงสลายม็อบบนถนนราชดำเนินเมื่อปี ๒๕๓๕ มะขามหวานเมล็ดแรกก็ถูก
เขวี้ยงไปยังถังขยะอย่างแรง มันจะไปตกที่ไหนข้าพเจ้าหาได้ใยดีไม่ ยิ่งติดตามข่าวยิ่งรับรู้ข่าวสาร ข้าพเจ้ายิ่งเขวี้ยงเมล็ดมันไปอย่างบ้าคลั่งไร้ทิศทาง ข้าพเจ้าโกรธ ข้าพเจ้าเคืองแค้น ข้าพเจ้าต้องการเดินออกจากบ้านไปร่วมประท้วงที่หน้าสถานีรถไฟ เพื่อยึดขบวนรถไฟสักขบวนไปยังราชดำเนิน ยิ่งโกรธยิ่งแค้น ข้าพเจ้าก็ยิ่งป้อนมะขามหวานเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ เขวี้ยงขว้างเมล็ดมันอย่างฉุนเฉียว โดยหมายว่าถังขยะเป็นหัวของใครสักผู้หนึ่งที่กำลังลั่นกระสุนเข้าใส่ประชาชนของข้าพเจ้า จนลูกค้าเดินเข้าร้านมาอย่างสงสัยว่า ข้าพเจ้าเป็นอะไรไปนั่นแหละ จึงได้ลุกขึ้นค้าขายกันตามปกติ เก็บกดความโกรธความเคียดแค้นแน่นทรวงเอาไว้ก่อน
จึงเป็นต้นมะขามหวานสองต้นที่มีอายุสิบกว่าปี มะขามอายุสิบกว่าปีที่อยู่ในหม้อลวกหมี่ใบ
ย่อม ต้นของมันจึงเตี้ยต่ำ และมีวงกว้างเพียงรอบมือกำ ลำต้นเปลือกหนาแก่แตกลาย ใบดก ผ่านการร่วงเพื่อผลัดมานับสิบฤดู อย่าพูดถึงดอกหรือผลของมันเลยท่าน ไม่มีไม้ไหนที่แคระเกร็นเช่นนี้จะมีดอกผลหรอก
และไม่ว่ามันจะมีดอกมีผลได้หรือไม่ก็ช่างมันเถิด เพราะที่ข้าพเจ้าอยากพูดถึงนั้นมิใช่มะขาม
แต่คือเข็มเหลืองพุ่มหนาใบดกต่างหาก
๓). พุ่มเข็มเหลืองในหม้อลวกหมี่ใบย่อม อยู่ทางซ้ายมือหน้าร้านเคียงคู่บารมีมะขามหวานต้นสวย ปาน่าจะเป็นผู้ลงมืออัดดินแล้วนำมันมาปลูก จากต้นเล็กต้นน้อยก็ค่อยเติบใหญ่เป็นพุ่ม จากดอกประปรายก็ค่อยเป็นดอกสะพรั่งเหลืองอร่ามดังจีวรพระ แม่มักเด็ดช่อมาบูชาพระเสมอ ท่านต้องเห็นภาพที่แม่กำลังเด็ด แล้วปายืนมองดูอยู่ใกล้ๆด้วยดวงตาภาคภูมิใจ ท่านยิ่งต้องเห็นภาพที่แม่กำลังตักบาตร แล้วปาเคียงคู่ถวายดอกเข็มเหลืองลงในย่าม เป็นภาพที่น้ำตาข้าพเจ้าแทบร่วงด้วยตื้นตันเสมอ
เข็มเป็นพันธุ์ไม้ที่กิ่งก้านกางออกไปอย่างเอาแต่ใจตัว มันพร้อมที่จะยืดเหยียดออกไปทิ่มแทง
ทุกสิ่งอย่างไร้สิ้นความเกรงใจ ครั้นรู้ว่าชนกับบางสิ่งที่ไม่สามารถทะลุทะลวงผ่านได้ มันก็จะสะบัดก้านหันกลับไปยังทิศทางอื่นอย่างจองหอง จึงต้องคอยเฝ้าระวังอย่าให้มันยืดเหยียดไร้สกุลรุนชาติออกไปเกะกะทางเดินคน ด้วยการตัดกิ่งตัดก้านหาลวดมาโอบล้อม และกระทั่งปักไม้ไว้กลางพุ่มแล้วพันลวดแน่นหนา กว่าจะตะล่อมมันให้อยู่เป็นที่เป็นทางได้ก็ใช้เวลานานพอดู กระถางหม้อหมี่ก็ต้องเจาะรูให้น้ำได้ระบายออก อย่าให้มันใจน้อยเน่าตาย ข้างๆร้านเป็นคลีนิคของหมอมนตรี ลูกทั้งสามคนของหมอมนตรีก็คลุกคลีกับที่บ้านข้าพเจ้ามาตั้งแต่เกิด เจ้าฟรองซ์เจ้าฟีฟ่าเป็นผู้ชาย แต่เจ้าแฟมมิลี่เป็นเด็กหญิงตัวอวบอ้วน และเจ้าแฟมมิลี่นี่แหละ ที่ข้าพเจ้ามักเด็ดดอกเข็มเหลืองดอกหนึ่งทัดหูให้ เป็นที่ชอบอกชอบใจปลาบปลื้มยินดีแก่เจ้าแฟมมิลี่เหลือเกิน ผู้หญิงนี่รักสวยรักงามตั้งแต่เด็กจริงๆ ท่านเคยสังเกตุไหม?
ปี ๒๕๔๓ เกิดน้ำท่วมหนักสุดในรอบหลายสิบปี ภายในบ้านข้าพเจ้าน้ำท่วมสูงเกือบสองเมตร
แต่น้ำที่ถนนซึ่งอยู่ต่ำกว่าตัวบ้านนั้น ลึกยิ่งไปอีกนัก ปีนั้นน้ำเชี่ยวและแรง น้ำมากเป็นประวัติการณ์ของเมือง มีคนตายเป็นร้อยร้อยศพ มิใช่ห้าสิบศพอย่างที่ทางการได้บอก ทั้งเข็มทั้งมะขามหวานต่างตกอยู่ในความว้าเหว่อันเชี่ยวกราก จมหายนิ่งอยู่ในความเยียบเย็นของสายน้ำ ถนนเหมือนลำคลองสายใหญ่ นานๆจะมีเรือแล่นมาดูความพินาศย่อยยับ แล้วจากไปอย่างรวดเร็ว ในความมืดอันเงียบสงัดของคืนฝนกระหน่ำ ข้าพเจ้าลุยน้ำไปเกาะประตูบ้าน ดูความล่มจมและฉิบหายของเพื่อนร่วมชะตากรรมอย่างเศร้าสร้อย หูแว่วคล้ายๆจะได้ยินเสียงขลุ่ยใครหนอผิวแผ่วมาแต่เวิ้งไกล สะท้อนมาตามผิวน้ำแล้วล่องเอื่อยอยู่กลางสายลม
เห็นก็แต่หนูที่ตะเกียกตะกายอยู่กลางน้ำเชี่ยว คล้ายดั่งมันหยั่งตีนจรดยอดพุ่มเข็มกระมัง จึง
ได้ยินเสียงร้องจี๊ดๆอย่างดีอกดีใจใหญ่หลวง ก่อนจะพลัดหายล่องไปกับสายน้ำอีกครั้ง
หลังน้ำลด ทุกสิ่งทุกอย่างทิ้งร่องรอยเอาไว้ด้วยเมือกน้ำ ส่งกลิ่นเหม็นและให้รู้สึกขยะแขยงเกิน จะบรรยาย เมื่อต้องถูบ้านที่มีรอยคราบน้ำมันจากถังข้าวหมูถังเบ้อเริ่มเทิ่ม ตะกอนฝุ่นสีแดงจับตัวหนาเตอะอยู่ตามพื้นและฝาผนังบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ที่ขนไม่ทัน ไม่เว้นแม้แต่ต้นไม้ในอุทยานของข้าพเจ้า ที่เป็นไม้เล็กไม้น้อยละแวกนั้นตายสนิท เน่าดำอยู่ใต้น้ำก่อนจะเน่าแห้งอยู่กลางแดดจัดหลังฤดูน้ำ หากมะขามหวานสองต้นกับเข็มแดงและเหลืองของข้าพเจ้านั้นสิ ที่มันพะงาบๆพยายามทำการสังเคราะห์แสงจากแดดแรกของมัน ใบอันดกดื่นกลายเป็นสีแดงฝุ่น ที่ข้าพเจ้าต้องฉีดน้ำแล้วเช็ดทีละใบ ทีละใบทีละใบจนมันกลับเป็นสีเขียวอย่างที่มันเป็น เหมือนการร่วมชะตากรรมอันทารุณมาด้วยกัน เหมือนมิตรผู้ตรากตรำอยู่กลางความสาหัสมาอย่างหนักหน่วง มันกลายเป็นมือที่ต้องทะนุถนอมในทุกๆใบ ข้าพเจ้าเด็ดใบเด็ดยอดบางที่ที่มันเปื่อยเน่าทิ้ง ขุดดินตักออกบางส่วน แล้วหาดินใหม่ปุ๋ยใหม่ใส่เข้าไปทดแทน การผ่านความฉกาจฉกรรจ์มาด้วยกัน มันก่อความรู้สึกลึกซึ้งและอาทรเพิ่มมากขึ้นทวีคูณ หากจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเมืองอีกครั้งก็ช่างปะไร ข้าพเจ้ามิได้ต้องการพูดถึงเรื่องน้ำท่วมสัก หน่อย เข็มเหลืองใบหนาพุ่มดกโน่นที่ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวถึง
๓). ไม่กี่นานมานี้ ข้าพเจ้าเพิ่งสังเกตุเห็นว่า บนยอดสุดของแต่ละกิ่งก้านเข็มเหลืองนั้น เป็นรังใหญ่ โตของมดแดงจำนวนมหาศาล มันเป็นมดแดงตัวเป้งเสียด้วยสิ เคยลองเอาก้านธูปไปแหย่ปากช่องทางเข้ารัง ปรากฏว่ามดแดงกรูกันออกมารุมล้อมและกัดก้านธูปอย่างรุนแรง มดตัวน้อยๆนี่แหละ เพียงแค่ตัวเดียวนี่แหละ ท่านลองดูบ้างก็ได้ จะพบว่าเพียงแค่ตัวเดียวนี้ มันจะใช้ปากที่เป็นคีมคีบก้านธูปไว้แน่น แม้มันจะทานแรงเราไม่ไหวก็จริงอยู่ แต่การที่เราจะดึงก้านธูปออกจากปากมันได้นั้น ท่านต้องแปลกใจที่ต้องใช้กำลังและแรงมากกว่าที่คิด ก็อย่างที่เรารู้มา ว่ามดเป็นสัตว์ที่มีพลังเกินตัว มันสามารถลากก้อนน้ำตาลที่มีขนาดใหญ่กว่ามันได้อย่างสบายๆ ประสาอะไรกับอีแค่ก้านธูป
นับรังของมันแล้วได้ไม่ต่ำกว่าห้ารัง เข้าใจว่าทุกรังล้วนคือเครือญาติเดียวกันที่แตกขยายออกไป
รังใหญ่สุดและสวยงามที่สุดนั้นคือรังที่อยู่บนยอดสูงสุดของเข็มเหลือง มันดึงใบเข็มมาห่อแล้วหุ้ม สานใบให้แน่นด้วยใยขาวบางๆทว่าเหนียวยิ่งนัก รังใหญ่นี้มองแล้วก็คล้ายๆช่อกุหลาบสีเขียว นอกจากมดจะเป็นวิศวกรจอมขยัน มันยังเป็นสถาปนิกนักออกแบบอย่างดีด้วย ทุกรังของมันล้วนแล้วแต่ออกแบบมาให้รอดพ้นจากภัยพิบัติธรรมชาติทั้งสิ้น ฝนจะตกหนักเพียงไรก็ไม่สามารถซึมแทรกเข้าไปถึงภายในได้ ลมแรงเพียงไร ก็ไม่สามารถสั่นคลอนให้ช่อกุกลาบเขียวปริได้ แดดนะเรอะ? ไม่มีโอกาสเล็ดลอดเข้าไปถึงภายในที่แม่ปีกมันกำลังร้องเพลงกล่อมตัวอ่อนได้หรอก
แต่มันลืมการสร้างรังให้พ้นจากความอยากรู้อยากเห็นและซุกซนจากข้าพเจ้า&
ทุกวันยามที่ว่างจากลูกค้า ข้าพเจ้าจะนั่งเก้าอี้เฝ้ามองดูอิริยาบทของมัน นานเข้าก็ชักจะรู้สึกคุ้น
เคยและห่วงหาอาทรขึ้นมาตะหงิดๆ หากมันออกลุ่มอยู่ภายในรัง ข้าพเจ้าจะสะกิดรังเตือนมันให้ออกมาพบเจอ แต่ต้องรีบชักนิ้วกลับโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นมันอาจจะกรูกันมาทักนิ้วข้าพเจ้าอย่างไม่ทันตั้งตัว เคยลองเอาชิ้นเศษหมูแดงเล็กๆไปวางไว้หน้าปากรัง น่าแปลกที่มันไม่ยอมมาตอมดูดกินน้ำตาลจากเนื้อหมู ลองเหยาะน้ำตาลทรายไปสี่ห้าเม็ด ก็พบว่ามันช่วยกันขนน้ำตาลทรายโยนทิ้ง นึกๆแล้วก็สงสาร ไม่รู้ว่ามันจะกินอยู่ประการใด จึงลองหยอดน้ำอ้อยไปสักแหมะสองแหมะ อ๋อ-มันเป็นมดผู้ดี อาหารการกินจะเคี้ยวหยับๆอย่างไรได้ มันกรูกันมาดมๆน้ำอ้อย พอรู้ว่าเป็นน้ำอ้อยที่ไม่ต้องเคี้ยว มันก็ผิวปากเรียกพรรคพวกในรังที่เหลือให้มาร่วมกินกัน
พลัน-ข้าพเจ้าก็นึกถึงสมัยวัยรุ่นที่เริ่มจะริสูบุหรี่ หลังจากอัดควันเข้าปอดจนฉ่ำ ก็มองหาหัว
เพื่อนสักคนไว้สำหรับปล่อยควัน ควันจะลอยเอื่อยอ่อยอ้อยอิ่งอยู่เหนือกลุ่มผม และปกคลุมหัวทั้งหัวไว้ประหนึ่งหมอกหนาจัดปกคลุมภูเขา กว่าเพื่อนคนนั้นจะรู้ตัวก็โน่นแหละ เสียงเฮฮาหัวเราะจากเพื่อนๆขี้ยาดังลั่นเสียแล้ว นั่นแหละ-จู่ๆก็คิดถึงขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย จึงลองอัดควันบุหรี่แล้วพ่นไปยังรังมดแดง อืม..มันยังเฉยๆ เอาล่ะ-คราวนี้ลองพ่นโดยที่ไม่ต้องสืดเข้าปอดดูบ้างซิ?
มันวิ่งเกรียวออกจากรังทันที ด้วยอาการโกรธแค้นหัวฟัดหัวเหวี่ยง ก้มลงเอาหัวถูกับใบเข็ม แรงๆ หมายจะเช็ดกลิ่นใบยาสูบให้ออกให้หมด มันจะเดินเซไปเซมาอลหม่าน สับสนและจับต้นชนปลายไม่ถูกว่ากลิ่นฉุนใบยานั้นมาจากที่ไหน? อาการเมายาของมดดูๆไปก็น่ารักดี มีอยู่ตัวหนึ่งน่าจะรับควันไปเต็มๆถึงกับร่วงลงจากใบลงไปนอนยิ้มบนดิน หลังจากทดลองพ่นควันโดยไม่สืดเข้าปอดหลายครั้งเข้า ก็ได้บทสรุปที่ว่าเราไม่ควรแกล้งมันอีกต่อไป เมื่อมันย้ายรังหนีไปอยู่อีกยอดหนึ่ง ข้าพเจ้าพยายามเฝ้าจับตามองการย้ายรังของมันมาหลายครั้ง ก็ไม่เคยมีโอกาสได้เห็นจะจะตาสักครั้ง นี่เป็นเรื่องลี้ลับสำหรับข้าพเจ้าเหลือเกิน ด้วยรังแต่ละรังที่ย้ายนั้น มันสมบูรณ์และสวยงามเอี้ยมเฟี้ยมไปเสียทุกรัง ด้วยเวลาอันรวดเร็วเช่นนี้ มันทำได้อย่างไรกัน?
ข้าพเจ้าคลี่ใบเข็มที่มันเคยใช้ทำรังออกดู ภายในมีเศษอะไรไม่ทราบได้ สีดำๆเล็กๆกระจัด
กระจายกลาดเกลื่อน มีมดบางตัวเฝ้ารังอย่างหวงแหน ก้นจะชูงอนและหัวจะชูชันจ้องมองนิ้วข้าพเจ้าอย่างมิวางใจ ใบเข็มรังนี้จะแห้งเฉา และปลิดลงง่ายเพียงนิ้วสัมผัสแผ่วๆ ข้าพเจ้ามองรังใหม่ของมันอย่างอยากรู้อยากเห็น และอย่างกระวนกระวายที่จะได้คลี่รังสดๆมันดูสักครั้ง แม่ปีกคงตกใจจนตัวสั่นงันงก มดทหารทั้งปวงคงกรูกันมาปกป้องรังและตัวอ่อน ไข่ขาวๆนวลๆของมันนั้นเล่าก็น่าจะร่วงลงทันทีที่ใบคลี่ออก
อย่าเลย นอกจากจะทำร้ายชีวิตสัตว์โลกร่วมชะตากรรมเดียวกันแล้ว นั่นข้าพเจ้ากำลังทำลาย
ที่อยู่อาศัยอันปลอดภัยแล้วจากภัยธรรมชาติทั้งปวง และที่สำคัญ-ข้าพเจ้ามิได้พูดถึงมด แต่กำลังจะพูดถึงพุ่มเข็มเหลืองต่างหาก
๔). มะขามหวานอายุ ๑๐ กว่าปีสองต้นซ้ายขวา เชิญชวนสายตาคนเดินเข้าออกจากร้านเสียจนพุ่มเข็ม ประหนึ่งไร้ตัวตน มันแผ่กิ่งก้านกางออกปกคลุมเหนือยอดพุ่ม ใบเล็กๆที่หุบเมื่อยามสายัณห์ดั่งจะอวดเรียวกิ่งก้านให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ความเป็นไม้ยืนต้นที่ถูกทำให้แคระเกร็นกลับกลายเป็นความภาคภูมิใจ ทะนงตนในความยิ่งใหญ่ แน่ล่ะ-หากมันเหยียดรากแก้วลงในดินลึกกว้าง รากแก้วของมันคงเจาะไชไปถึงไหนต่อไหน แต่ในหม้อลวกหมี่ใบย่อมลูกชำรุดแล้วนี่สิ อย่างไรเสีย-มันก็คงเป็นความยิ่งใหญ่อันอยู่ในนิยามของคำว่า แคระเกร็น อยู่ดี หนำซ้ำยังยืดต้นกางกิ่งออกมาได้ด้วยการคายเมล็ดทิ้งอย่างสะเปะสะปะของข้าพเจ้า ไม่เคยปรากฏว่าดอกจะผลิบาน และตกลูกออกมาเลยแม้สักครั้งเดียว
แต่พุ่มเข็มเหลืองนี่สิ ที่กลับเป็นเรือนอาศัยของมดจำนวนไพศาล และออกดอกให้แม่ได้เด็ด
นำไปบูชาพระอยู่เสมอมา
๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๗