Topic List
๑).ท่องโลกโยกเฟืองไปเบื้องหน้าดวงตาเข้มแข็งแกร่งกร้านเงียบนิ่งราวรูปสลักดักดานบนอานบนเบาะเฉพาะตนเพียงมือขวาซ้ายที่ไหวสั่นกลฟันเฟืองรถก็บดถนนช้าช้าคืบเลื่อนล้อเคลื่อนจนผ่านต้นมะขามหวานหน้าบ้านนี้เด็กน้อยกำลังนั่งเล่นลมเย็นโชยพลิ้วมาหวิววี่โลกทั้งโลกสดใสอยู่ในทีโลกสีลูกโป่งใบโป
๑).โอ-เสียงคลื่นระงมเสียงลมระรินแผ่วยินเสียงแล้วก็แว่วว่าแม่กำลังคอยรับการกลับมาของดวงตาบอบช้ำยอมจำนนคุ้นกลิ่นคาวน้ำเค็มที่เล็มฝั่งคุ้นกระทั่งเสียงไหวของใบสนลูกของแม่คนหนึ่งก็ซึ้งจนต้องมาเดินเลียบถนนอยู่คนเดียวคนเดียวในดึกที่พรึกพยับเดินนับจำนวนก้าวอยู่เปล่าเปลี่ยวฟังแม่กล่อมเล
๑).ชายชรานั่งเก้าอี้โยกชราดวงตามองเบื้องหน้ายามฟ้าหม่นลมพัดมาแผ่วผิวแล้วพลิ้ววนใบไม้บางใบหล่นร่วงบนลานชายชราโยกเก้าอี้โยกชราอย่างซึมเซื่องเชื่องช้าอยู่หน้าบ้านหมากที่อยู่ในปากเป็นกากชานเอื้องนานจนด้านรสด้วยบดเคี้ยวตราบแม่ผีขึงฟ้าตากผ้าอ้อมฟ้าก็ย้อมแดดผีเป็นสีเปลี่ยวชายชราโยกเก้
บทเพลงโพ้นทุ่ง๑).ลุ่มดินถิ่นนี้เคยมีมนต์รักตรึงตราโพ้นทุ่งคือลำคลองน้ำนิ่งตลิ่งสองฟากยึดรากหญ้าให้หยัดต้นชูยอดตลอดมาและระนาบราบหล้าเวลาลมลัดทุ่งโดยทางใช้ย่างก้าวกอข้าวท่วมล้อมห้อมห่มไมยราพทิ่มตำหนามคมเลนตมโคลนเปือกเทือกทางเด็ดดอกหญ้าเสียบก้นแมลงปอไล่ล้อเล่นลมโลมร่างปีกใสไร้ส
จักรยานสามล้อสีแดงเคลื่อนโดยแรงมือขวาคนขาง่อยทีละนิดช้าช้า--คราละน้อยมือค่อยค่อยโยกคันโยกฟันเฟืองและอีกมือถือแฮนด์เกร็งแขนคุมมือกุมจนเอ็นปูดเส้นเขื่องง่อยเปลี้ยเสียเส้นมิเข็ญเคืองเปล่าเปลืองจะก่นด่าชะตากรรมบนจักรยานสามล้อสีแดงร่างแห่งปมด้อยดูต้อยต่ำหากดวงตาเข้มแข็งนั้นแกร่งกรำแ
ยังพยุงทรงกายได้ยสหายรักขอบคุณนักคำทักถามด้วยความห่วงที่แตกต่างเสียสิ้นกับลิ้นลวงอันมากปวงเรียวลิ้นปลอกปลิ้นคำยังคงหัวเราะได้ยสบายดีและยังมีความฝันแสนขันขำทุกครั้งเอื้อนเพื่อนเอ๋ยฉันเอ่ยย้ำโลกหัวร่องอคว่ำคะมำเยาะเธอจะยิ้มเอ็นดูสักครู่ไหมหรือจะเอื้อเผื่อไหล่มาให้เกาะก้อยเกี่ยวกร
๑).ค่ำคืนนี้เหน็บหนาว-ดาวพราวดวงเกลื่อนห้วงเวิ้งฟ้ากระจะจ่างเหมยไหมสไบหมอกดอกน้ำค้างหนาวเหน็บจนเจ็บร่างทุกย่างเท้ารื้อฟื้นความทรงจำคลำหาทิศกอบเก็บเศษชีวิตหาทิศเก่าอุ่นลมหายใจเพียงแผ่วเบาดั่งลมฟุ้งฝุ่นเถ้าเป่ากระจายเคยตั้งคำถามถึงความรักทวงทักถึงนิยามและความหมายดั่งเดินตีนปีนรุ้
เออหนอ--ความทุกข์ขมอันตรมขื่นจะหยัดยืนสู้มันได้กี่วันหนอเกลือกทุกข์คลุกโศกมาโชกพอแก่ทดท้อชีวิตแล้วหรือยัง?ความเศร้าโศกโชคกรรม-ความลำเค็ญประหนึ่งเป็นเส้นสายด้ายตราสังตายมิตายก็ถูกฝังจากสังคมดาวดวงใดไหนเล่า?-ทอเงางามมาตอบถามน้ำตาดวงปร่าขมแดนดินใดเปียกเมือกเป็นเทือกตมรอรับร่างร่วงล้
๑).ฉันรู้ที่รัก-ฉันรู้---แห่งมวลหมู่ความทุกข์เธอทุกสิ่งจากสัมผัสรัดกอดเธอออดอิงสั่นสะทกอกเธอพิงเป็นยิ่งนักแม้เครือเสียงเพียงพร่ำเพียงพำพึมก็เงียบขรึมครึ้มโทนคล้ายโดนกักแหละทันใดโทนขื่น-เธอสะอื้นฮักหลั่งระบายทลายทะลักที่ขยักโทนถูกต้องแล้ว-น้ำป่าที่บ่าสายนั้นรินถ่ายเกรี้ยวกราดเกลีย
๑).บนถนนยางมะตอยฟ้ายังปรอยฝนสายโปรยปรายถนนดึกที่เมืองเรียกกวักใครสักคนมาตากฝนเดินเหงานับเสาไฟทุกทุกบ้านมืดสนิท-ปิดประตูตกอยู่ในภาวะการหลับใหลแต่ดึกนี้อาจเห็นว่าเป็นใครลุกขึ้นใส่รองเท้าแล้วก้าวเท้าเปิดประตูสู่ถนนรับฝนเย็นอาจเป็นท่าน-อาจเป็นข้าพเจ้าหรือเป็นเพราะยุคในสมัยเ